ฝ่าฟันได้ ด้วยพระบารมีแห่งองค์พระเจ้าตาก

ฝ่าฟันได้ ด้วยพระบารมีแห่งองค์พระเจ้าตาก

333
0
แบ่งปัน

****** “ฝ่าฟันได้ ด้วยพระบารมีแห่งองค์พระเจ้าตาก” ******

ขอส้าาาธุ… ป่านนี้คงได้ค่าแผ่นพื้นครบแล้วมั้ง..

ที่บุญญพลังนี่ ทำอะไรไม่เคยมีตังค์กะเขาหรอก

ทุกคนมาช่วยมาร่วมกันทั้งนั้น

คนละเล็กคนละน้อย จนก่อขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง

เสาร์อาทิตย์ก็มาช่วยกันยก ช่วยกันแบก ช่วยกันหาม

บางคนเข้าใจว่า ที่นี่คงมีเงินเยอะ เพราะสร้างสิ่งยิ่งใหญ่

เปล่าเลย..!! เราทำไปก็หาไป และสำเร็จลงได้ด้วยพลังแห่งบุญ

เราทำเสร็จทุกวัน…

ทุกสิ่งทุกอย่าง จึงไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ด้วยจินตนาการ

เรา..พอใจที่ได้มาร่วมกันทำ

เรา..ออกเดินทาง ในโบกี้เดียวกัน

เรา..ไปด้วยกัน ฉันมิตรและพี่น้องที่เข้าใจ..!!

สมัยหนึ่ง เราโดนกระบวนการแห่งกฏหมายเล่นงาน

ด้วยข้อหา ตั้งอยู่ในเขตอุทยาน..!!

วัดป่ากว่า 400 แห่ง โดนรื้อออกไปจากเขตอุทยาน ด้วยข้อหาบุกรุก

ทั่วประเทศกว่า 6,000 แห่ง ก็เจอข้อหานี้

ที่จริง…วัดเลวๆ แสวงหาผลประโยชน์จากพื้นที่ นี่…มันก็มี

เป็นผู้รุกล้ำโดยความเป็นสำนักเป็นวัด เพื่อให้นายทุน นี่..มันก็มี

ตัดไม้ทำลายป่า เพื่อครอบครองและแอบอ้าง นี่…มันก็มี

ผู้ที่เข้าไปตั้งอยู่ เพื่อปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น นี่..มันก็มี

ผู้ที่ตั่งใจเผยแพร่ศาสนา นี่…มันก็มี

แต่ทุกที่ โดนเหมือนกันหมด ไม่เว้นแม้แต่ที่นี่..!!

เราโดนไล่ และให้รื้อถอนออกไป ภายใน 30 วัน

เราไม่ได้เสียดาย วัตถุสิ่งปลูกสร้าง ที่ทำกันมากว่า 10 ปี

แต่เราคิดว่า ควรแล้วหรือ ที่จะมาทำลาย สถานที่ ที่ผู้คนทั่วสารทิศ มาร่วมชุมนุมกันสร้างด้วยแรงศรัทธา

ทำไมไม่แยกแยะ ระหว่าง ปัจเจกบุคคลและสาธารณะชน

คำว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มันไปอยู่ตรงไหน..!!

สถานที่ตรงนี้ ก็มีที่มาที่ไป และเป็นเขตป่าเสื่อมโทรม โซน C

ที่สำคัญ สถานที่ตรงอำเภอนี้ มันเคยมีข้อพิพาท ระหว่างนักการเมือง ทำให้ที่ๆ เราตั้งอยู่ โดนรวบเข้าไปอยู่ในผังของเขตอุทยานครึ่งหนึ่ง..!!

ปัญหาครึ่งหนึ่งไม่กี่ไร่นี่แหละ มันจึงเกิด

เกิดเพราะการหักเหของแผนที่ใหม่ เพื่อที่จะไปเอาผิดกับข้อพิพาทบ้านสามหลัง ที่การเมืองงัดกันระหว่างขั้ว

เมื่อเราโดนไล่ เราก็ขอโอกาสต่อสู้บ้างได้ไหม..!!

เมื่อทางอุทยานยินดี และเปิดให้เราได้พอขยับได้บ้าง

หนึ่งในการต่อสู้…!!

ข้านำทัพของพี่น้องเรา เข้าสู่เมืองจันทร์…!!

จะเป็นเหตุหรือวิบากใดๆ ก็แล้วแต่

ทำให้ข้านำน้องพี่ ไปประกาศความเสรีอิสระ แห่งดินแดนที่ทุ่งนาเชย

สถานที่นั้น มีอนุเสาวรีย์ องค์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ตั้งตระหง่านอยู่

ท้องฟ้าเดือนพฤษภาแสนเป็นใจ เมฆฝนปกคลุมพระอาทิตย์ไว้ ไม่ให้พวกเราร้อนไหม้เกรียม..

ข้าเข้าสมาธิและตรึกคำปราวณา ท่ามกลางพี่น้องกว่าห้าสิบชีวิตที่ติดตามกันมาว่า

“” ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าเป็นหนึ่งในบุตรหลานของพระองค์ท่าน

บัดนี้..แผ่นดินที่พระองค์ท่านได้ประกาศไว้ เพื่อความเป็นอิสระเสรีชน แห่งมวลลูกหลาน ได้โดนอริศัตรูมาย่ำยีเสียแล้ว

แผ่นดินยังเป็นของมวลชนชาวไทยสยาม อันเกิดจากลูกหลานที่มีความเห็นต่าง

แต่แผ่นดินแห่งศาสนา ที่มีมาอย่างยาวนาน กำลังลุกเป็นไฟ เพราะโดนเหยียบย่ำรุกราน พวกลูกหลานกำลังเผชิญ

พระองค์ได้ทรงตรัสไว้ ว่าผืนแผ่นดินไทย ทุกตารางนิ้ว ขอยกให้เป็นแผ่นดินแห่งพุทธศาสนา

บัดนี้…ผืนแผ่นดินที่ลูกหลานอาศัยอยู่ในพุทธศาสนา กำลังโดนย่ำยี

กำลังโดนทำลาย จากภัยร้ายนโยบาย ที่ไม่เกื้อกูลต่อเหตุและผล

ข้าพเจ้า..พร้อมที่จะต่อสู้ และตายคาผืนแผ่นดินแห่งศาสนานี้

เพื่อรักษาพื้นที่แห่งศาสนา ที่พระองค์ได้ทรงตรัสและประกาศไว้

ให้ศาสนานี้ เป็นศาสนาของแผ่นดิน

ข้าฯ..ขอทวงผืนแผ่นดินแห่งศาสนา เพื่อเป็นที่ตั้งประกาศสัจจะแห่งพุทธศานา

ขอบารมีพระองค์ ประทานมาให้ข้าฯ

ขอกำลังพลที่พระองค์มี ประทานมาให้ข้าฯ

ขอผู้ติดตามพระองค์ที่ร่วมสมัย มาเป็นกำลังแห่งข้าฯ

ข้าฯ..ขอปราวณา ชีวิตนี้ทั้งชีวิต ขอปกปักรักษา แผ่นดินนี้ทั้งชีวิต และทิ้งชีวิตลงบนผืนแผ่นนี้ เพื่อเจริญพุทธศานาให้รุ่งเรื่องตามความเป็นจริง…!! “””

พลัน…ความมืดมิดแห่งท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆดำ ก็แหวกออกเป็นช่องออกมา

แสงสว่างที่ร้อนแรง ฉายแสงพุ่งลงมายังตำแหน่งที่พวกเราทั้งหลายนั่งนิ่งสงบเป็นสมาธิกัน

มันร้อนจนเหงื่อไหลออกมาเป็นน้ำหยดลงสู้พื้น และมีอายควันที่โดนความร้อนลอยฟุ้งขึ้นมาจนสัมผัสได้

ทุกคน นั่งกลางแสดงแดดที่แผดเผา ท่ามกลางความมืดครื้มของเมฆฝนที่ปกคลุมเต็มแผ่นท้องฟ้า

มีแต่ที่เรานั่งนิ่งอยู่นี่แหละ ที่มีช่องแสงแดดสาดส่งลงมา

เมื่อเสร็จพิธีกล่าวคำปราวณาทางจิต กลุ่มเมฆก็หดตัวเข้าไปปิดช่องแสง ที่สาดแรงแทงลงมา

ความเย็นและสบายแห่งสายลมก็แผ่วมาให้ทุกคนได้คลายเหงื่อที่พรั่งพรู

เมื่อเราออกเดินทางกลับกรุงเทพ ล่องไปทางเมืองแกลง

พักทานอาหารและพบผู้คนที่นั่น เราช่วยกันวางแผนว่าเราจะกู้กรุงศรีฯ ยังไง

หากกู้ไม่ได้ เดี๋ยวเราไปกู้แบ้งค์กรุงเทพฯกัน

ก่อนเข้ากรุงเทพ ดร.พิสาร ก็ได้รับข่าวดี

ท่านมาบอกว่า ทางอุทยาน จะยกที่ให้เราเป็นพุทธอุทยาน

จะแจ้งทางราชการว่า เป็นพุทธอุทยานที่ยังตกสำรวจ..!!

นี่..เป็นบารมีแห่งองค์สมเด็จพระเจ้าตาก เรายังไม่ทันได้รบ พระบารมีก็ประกาศชัยให้

สมดั่งที่พระองค์ได้เคยประกาศไว้เมื่อครั้งสงครามเก้าทัพผ่านพ้นไปว่า

” สถานที่สยามแห่งฝั่งนี้ ต่อไปลูกหลานเราจะมาช่วยกันสร้างองค์พระใหญ่ เพื่อความเป็นไปแห่งความสงบสุขและร่มเย็น ไม่ให้เป็นขี้ข้า ของพวกพม่าอีกตีอไป ”

เรา..กำลังสืบสานอยู่สืบทอดศาสนาให้ยั่งยืนต่อไปอยู่

ที่เรากำลังช่วยกันทำ จะใช่หรือไม่ในคำตรัสประกาศ

เรา..ก็ช่วยกันสร้างช่วยกันทำ

เรา..จะทำเพื่อประกาศอิสระภาพแห่งศาสนา ว่าที่นี่คือแผ่นดินไทย ที่ทุกตารางนิ้ว พ่อกูยกให้ เป็นผืนแผ่นดินของพุทธศาสนา

ไอ้..อี.. นอกศาสนา…อย่าได้มาทำลายด้วยความงี่เง่าเลยเชียว..!!

ที่บุญญพลังนี้ เส้นทางธรรมตัดตรง มุ่งสู่ความจริงและเห็นได้จริงตามภูมิวาสนาแห่งปัญญา..!!

ไม่ว่าท่านจะปัญญาหนาปัญญาบาง เราต่าง เห็นได้ เสมอเหมือนกัน..!!

ธรรมแท้ ย่อมมั่นคงต่อการทดสอบ

การทดสอบ ย่อมปะดาบกันตลอด เพื่อความจริงให้ปรากฏ

ผู้มีธรรม ย่อมไม่สะท้านในอาวุธที่ประดังมารอบทิศ

อาวุธที่ประดังมารอบทิศ แม้ไม่ต้องหลบ ศรัตราก็เข้าไม่ถึง

เรา…ควรลับคมของเราอยู่เสมอ กับหินลองคม ที่เรียกว่า ผู้ทรงธรรม..!!

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง