รู้ทันพวกหลอกว่าเข้านิโรธสมาบัติ

รู้ทันพวกหลอกว่าเข้านิโรธสมาบัติ

296
0
แบ่งปัน

****** “รู้ทันพวกหลอกว่าเข้านิโรธสมาบัติ” ******

ขอสาธุคุณให้มีแต่ความเจริญ

<<< คำถาม : ตอนที่ผมเห็นข่าวพระทางเหนือเข้านิโรธ ผมเห็นแล้วเป็นไปไม่ได้ แต่พอติดตามไปเรื่อยถึงบางอ้อ เขาบอกไม่ได้เข้านิโรธสมาบัติ

แต่ท่านเข้านิโรธกรรม คือ ท่านเข้าห้องปิดประตูอาจจะ 7 วัน 10 วัน ตอนช่วงที่เข้านิโรธกรรมทางวัดก็จะมีงานวัดไปด้วย

พอครบกำหนดก็มีการแห่ทำบุญเป็นที่เอิกเริก ผมเห็นแล้วเอ้อ มันก็เป็นอะไรที่เพี้ยนๆไปเรื่อยๆ เลยเลิกสนใจนิโรธกรรมครับ

>>> พอจ : เรื่องนิโรธกรรมอะไรนี่

พระบางท่านเช่นหลวงปู่โง้น ท่านนำมาใช้ เพราะเหตุแห่งการใช้กสิณไฟ

หลวงปู่จำเนียร วัดถ้ำปทุมเหนือ ที่กาญจน์ ก็เข้านิโรธกรรม ยามใช้พลังจากกสิณไฟ

ท่านเข้าชำระกรรม เพราะท่านถือมาอย่างนั้น 3 มั่ง 5 มั่ง 7 มั่ง ตามวาระแห่งเหตุปัจจัย

บางท่าน ใช้กำลังสมาธิ ไปในทางแสดง

เมื่อแสดงแล้ว ท่านก็เข้านิโรธกรรมเพื่อชำระใจ

นี่..ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งของความเชื่อในการที่จะทำ รวมๆก็คือ เป็นการชำระศีล เป็นการเข้าฌานสมาบัติ 3 วัน 5 วัน 7 วัน นี่ก็ว่ากันไป

แต่ไม่ใช่ การเข้านิโรธสมาบัติ อย่างที่โบราณเขาว่าๆกัน

>>> พอจ : ข้าจะคุยให้ฟังถึงเรื่อง นิโรธกรรม..

คำๆนี้ ไม่รู้ใครเป็นคนกำหนด

แต่ความหมาย ก็คือ การชำระกรรม หรือเข้ากรรมอะไรนี่แหละ เพื่อให้กรรมทั้งหลาย มันสงบ เป็นการสางใจให้สะอาด

ทีนี้ พวกก็นำมาแปลงซะเลย เพื่อให้ดูเข้มขลังศักดิ์สิทธิ ให้ผู้คนได้เกิดศรัทธา สรรเสริญว่า เป็นการเข้า นิโรธสมาบัติ

เพราะการเข้านิโรธสมาบัติ ตำราเขาว่า ใครทำบุญกับผู้เข้านิโรธสมาบัติ

ท่านผู้นั้นจะรวยทันทีภายใน 1 วัน 3 วัน 7 วัน พวกก็เลยเอามาแอบอ้าง เพื่อหาศรัทธา หาลาภสักการะ ต่อผู้งมงายและผู้ไม่รู้

นี่..ทางเหนือ ทางอีสาน โฆษณากันหลายแห่ง เพื่อหาตังค์เข้าวัด

ผู้คนต่างก็แห่แหนบินเข้ากองไฟ เรียกง่ายๆว่า ตายยกรังเพราะความอยากรวย

พวกนี้ เข้าไปอยู่ในถ้ำบ้าง ในห้องบ้าง ถ้าปิดมิดชิด ก็เอาน้ำเอาอาหารเข้าไปอาศัยบ้าง

บางพวกนี่ งดอาหารเลย ขังตัวเองอยู่ในนั้นก็มี จริงๆทำเพื่อเป็นการหลอกหาศรัทธา

ไอ้พวกอยู่เป็นเดือนๆนี่ ไม่ใช่ว่ามันจะนั่งสมาธิตลอดเวลาทั้งเดือนอะไรหรอก

มันแค่ขังตัวเองไว้ในปริวาสกรรมนั้นๆ

แต่จุดมุ่งหมาย เพื่อให้คนเห็นคนรู้ว่า ตนนี้ เข้านิโรธสมาบัติ

นี่..พวกบัติพ่อ บัติแม่มัน หลอกแดกศรัทธาคนที่งมงายกับการเข้านิโรธเท่านั้น

การเข้าสมาธินี่…

หากเรานั่งครั้งละหนึ่งชั่ว มันก็จะชินกับการสงบแค่หนึ่งชั่วโมง

พอเลยชั่วโมง มันจะกระสับกระส่าย เพราะจิตมันกลับมาสู่วิถีจิตอย่างเต็มตัวตามธรรมชาติของมัน

นี่..เป็นธรรมดาของจิต

เหมือนเรานอนหลับ พอถึงเวลามันก็ตื่นของมัน ห้ามมันไม่ได้

เราจะนอนต่อให้มันหลับต่อไปทั้งวัน ซักสองสามวันนี่ ไม่ได้ มันไม่หลับ

สมาธิที่สงบก็เหมือนกัน

เราเคยชินกับการย้อมไปในสมาธิแค่ไหน มันก็เสวยผลอยู่แค่นั้น

คนเคยนั่งสามชั่วโมงเป็นปกติ พอเลยสามชั่วโมง มันก็กระสับกระส่ายแล้ว

แต่คนที่ชินกับการนั่งหนึ่งชั่วโมง มันกระสับกระส่ายตั้งแต่เริ่มชั่วโมงที่สอง

ส่วนในเวลาที่เหลือ มันก็ทนไปอย่างนั้นแหละ

พวกที่อ้างเข้านิโรธสมาบัติก็เหมือนกัน มันบังคับไม่ได้หรอกว่า จะเข้าแค่นั้นแค่นี้

มันเป็นเรื่องของจิตที่ฝึกฝนมา

มันจะเข้าไปเป็นเจ้าของว่า จะนั่ง 3 วัน 5 วัน 7 วัน 1 เดือนอะไรนี่ ไม่ได้

พวกเข้านิโรธกรรม แค่นั่งกัน ตลอดวันนี่ ก็แย่แล้ว

การเข้านิโรธนี่ ไม่ใช่การเข้าไปนั่งทน นั่งนาน

ท่านไม่ได้เอาความหมายแห่งการนั่งทนนั่งนานเป็นตัววัดความดี

นิโรธสมาบัตินี่…เป็นการพิจารณาผลแห่งญานที่ท่านรู้แจ้ง เอากำลังแห่งฌานสมาบัติ ถอยออกมาพิจารณาด้วยวิปัสนาญาน

ทวนญานที่รู้แจ้งนั้น เข้าไปสู่จุดสูงสุดที่เจ้าของเข้าไปตีตัวอวิชชา

นี่เรียกว่า ย้อนพิจารณาธรรมที่เข้าถึงที่บรรลุ เรียกว่า ผลสมาบัติ

อาศัยผลสมาบัติ ที่หมดจรด ดิ่งเข้าสู่สมาธิ ผลสมาบัติจะคลายตัวเข้าไปสู่ความเป็นอัปปนา

อัปปนาที่อาศัยผลสมาบัติ เรียกว่า จิตเข้าสู่ นิโรธสมาบัติ

การเข้าสู่นิโรธสมาบัติ เป็นการดับหมด ไม่เหลือแม้แต่สติ สัญญา และสัมปชัญญะ

จิตเสวยผลนิโรธอยู่เช่นนั้น ดุจเช่นที่เคยเสวยผลวิมุติ ที่เคยเสวยเมื่อครั้งบรรลุมรรคผล

เคยเสวยสามวัน ก็แนบแน่นสามวัน จึงจะคลาย

เคยเสวยห้าวัน เจ็ดวัน ก็แนบแน่นด้วยความสงบเช่นนั้น ห้าวันเจ็ดวันจึงจะคลาย

นี่..การเข้านิโรธ มันอาศัยเวลาเท่ากับวาสนาภูมิเจ้าของที่เสวยวิมุติ ตอนบรรลุมรรคผล เป็นเหตุ

เพียงแต่เรื่องพวกนี้ มันไกลเกินกว่าผู้คนทั้งหลายจะไปเข้าใจ

พวกหลอกแดกก็เลยอาศัยความงมงายที่ผู้คนไม่รู้ เข้ามาเป็นเครื่องมือหากิน

ขี้เกียจขยายให้ฟังแล้ว ต้องไปทำงานก่อน ฝนมันพรำไม่หยุดเลยตอนนี้..!!

พระธรรมเทศนา วันที่ 6 กรกฎาคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง