เดินจงกรม… ท่อน 1

เดินจงกรม… ท่อน 1

1009
0
แบ่งปัน

หวัดดี ทุกคน นี่ห้องร้างรึเปล่า มาครบยัง บางคนเข้ามาแล้วก็แวบออกไป แหม..เราเข้ามาทักทายกันวันละเล็กน้อย ใช่ว่าจะมาเจอกันทั้งวัน 

การพบเจอกันวันละเล็กน้อย ถือเป็นกุศล คนได้มาพบได้พูดคุยได้ฟัง นี่…เป็นพวกมีบุญ ยิ่งธรรมสดๆ หาก ได้วิเคราะห์มันก็จะทำให้เกิดปัญญา ใช่ว่ามาที่หลัง ข้อความมีเป็นร้อย แล้วรูดๆๆๆๆๆ ผ่านๆ ตา 

พวกเช่นนี้ เป็นพวกไม่มีบุญในการฟังธรรม ตายเมื่อไหร่ จะรู้สึกเสียใจ เหมือนผีที่มานั่งฟังข้าข้างๆ นี่ เขาบอกว่าเสียดายที่เขาบันทึกไม่ได้ แม้เขาจะรู้ได้ฟังได้ แต่การตรึกตรองให้เข้าถึง เขาทำไม่ได้

แต่พวกเราทำได้ เพียงแต่ไม่เสือกที่จะคิดทำ เรื่องนี้เคยคุยกันไปหลายครั้ง แสดงผลให้เห็นว่า ใจยังเป็นไม้หลักปักขี้เลนกันซะเป็นส่วนใหญ่ เจ้าพวกอยู่ใกล้ แต่ไม่ค่อยเอา คืนนี้ หวัดดีทุกคน

คืนนี้ ข้าบอกเณรว่า ข้าจะโม้เรื่องการเดินจงกรม วันนี้ไอ้เจ้าเณรมันเดินตามหลังข้าอยู่พักใหญ่ เลยถ่ายรูปแอ๊กท่าของเจ้าเณรมาให้ชม มีภาพนั่งสมาธิด้วย ท่าทางขลังน่าดู เป็นภาพถ่ายหลอกคนหาตังค์น่ะ เพื่อแม่มันจะได้ภูมิใจ

มีพวกพระมากมาย ชอบหากินกันอย่างนี้ มักจะอวดว่าตนมีดี เป็นผู้ปฏิบัติ เอาท่าเอาทางสร้างเรื่องขึ้นมาหาตังค์ คนมันชอบเสียตังค์กับพระปฏิบัติ แต่ใจภายในมันทุศีล มันไม่มีศีลในใจเลย ทำท่าทำทางให้เขาเห็นว่าไปงั้นแหละ นี่..มีเยอะ

แกล้งวางท่วงท่าหงิ๋มๆ หน่อย จำธรรมจากตำรามาโม้หน่อย เอาวัตถุเอาพระธาตุ เอาเพชรพญานาคห่าเหวอะไร มาล่อหน่อย พวกบ้าคลั่งพลัง มันก็เฮพากันมาเสียตังค์ให้แล้ว

การเดินจงกรมนี้ พูดถึงทางเดินก่อน หากเป็นพวกทางเดินที่มีหลังคา ทางเดินสวย เรียบร้อย สองข้างทางเรียงหินเรียงอิฐสวยงาม ดูทางแล้วน่าเดิน ไอ้ทางพวกนี้ มันทำทางหลอกแดกตังค์คน ของไอ้พวกราคะจริต ฝึกไม่จริงหรอก ทำอวดไปงั้น

พวกแกอย่าไปหลงมันเชียว มันสร้างขึ้นเพื่อให้คนชม มีทางจงกรมสวย ให้เขาเห็นว่ามันเป็นผู้ปฏิบัติ เท่านั้นเอง

ทางจงกรมของเหล่าครูบาอาจารย์ที่เพียรปฏิบัติ เรียบง่าย ขอให้เป็นที่ว่าง เป็นทางโล่งๆ พอเดินได้ นี่ ท่านเอาแค่นี้ เดินกันที ดินเป็นมันเป็นร่องยาวเชียว

ข้าเคยเห็นทางจงกรมบางทาง มีมุ้งติดให้ด้วย นี่..บ้าเต็มที นักปฏิบัติธรรมไอ้เย๊ดเข้ เสือกกลัวยุง เดินจงกรมกลัวยุง นี่..พวกสร้างทางอวดหาลาภ

บนภูเขาที่นี่ มีทางจงกรมอยู่ทางหนึ่ง ที่นั้น เป็นทางที่ข้าใช้เดิน เดินมานานจนส้นตีนแตก ที่ตรงนั้น ช่วงหลังนี่ ไม่ค่อยได้ขึ้นไปเดินเพราะทำงานข้างล่าง จึงทิ้งทางร้างไว้เป็นปีๆ

ทางจงกรมนั้นอย่าไปล้อเล่นเชียวน่า ผีมันแรง แต่ก่อนข้ามักห้ามทุกคนไม่ให้เดินขึ้นไป แต่เดี๋ยวนี้ ข้าไม่ห้ามแล้ว ใครจะขึ้นไปเดินก็ได้ ข้าอนุญาติ ผีอยู่ตรงต้นมะกอกป่านั่นแหละ

สมัยก่อน เวลาข้าเดิน เขามักจะนั่งคุกเข่าพนมมือ สาธุคุณกับข้าตลอดจนเดินเสร็จ นี่..ข้าไม่ได้บอกใคร เกรงว่าจะกลัวกัน ทั้งซ้ายขวานั่งพนมมือเรียงกันสลอน

ที่ตรงนั้น มีผีเทวดาเขาดูแลรักษาอยู่ กับข้าเขาเกรงใจ แต่กับใครๆ นี่ ข้าไม่รู้ แต่มีแน่ๆ อย่าไปเยี่ยวเชียวน่า ไอ้เปี๊ยกเคยโดนมาแล้ว เสียงตะหวาดก้องไปถึงยามหลับนอนไม่เป็นสุขที่เดียว สมัยที่มันมาทำทางขึ้นให้ข้

การเดินจงกรม เป็นการทำสมาธิในอริยาบทเดิน เป็นการฝึกสติสมาธิก็หนาแน่น อานิสงส์ก็หลายอยู่ แต่คนไม่ค่อยจะเดินกัน

ข้านี่ เห็นธรรมและสิ้นสงสัยก็ด้วยการเดินจงกรม แม้จะเป็นผู้นั่งสมาธิมายาวนาน แต่การเดินจงกรมนี่เดินไม่ขาด ธรรมทั้งหลายข้าได้จากการเดินจงกรมทั้งนั้น

ทีนี้การเดินจงกรมนี่ มันเดินอย่างไรถึงจะถูก หากให้ข้าว่า จะเดินเร็ว เดินช้า เดินย่อง หรือก้าวยาวๆ สาวพรวดๆ แบบตามควายไปเลยก็ได้ ได้ทั้งนั้น ถูกทั้งนั้น

เมื่อแรกฝึก ควรจะเป็นผู้ฝึกนั่งสมาธิมาก่อน ถึงจุดหนึ่งแล้วค่อยมาฝึกเดินจงกรม การเดินจงกรม จะปักธูปก็ได้ ไม่ปักก็ได้ ที่เขาปักธูปกัน ก็เจตนาแสดงความนอบน้อมต่อสถานที่และเหล่าเทวาภูมิทั้งหลาย บางคนเขาเชื่อเช่นนั้น

หรือเพื่อบอกกล่าวอันเป็นที่ตั้งแห่งใจ ว่าได้น้อมสักการะแล้ว เมื่อก่อนที่เขาใช้ธูป ก็เพื่อว่าจะได้กลิ่นหอมกำยานจากกลิ่นธูป มันจะช่วยทำให้ใจมันสดชื่น และเป็นสมาธิได้ง่าย แต่ของข้าไม่ต้อง

เวลาข้าเดิน มักจะมีกลิ่นหอมโรยรินฟุ้งกระจายอยู่เสมอ หากใครไม่มีกลิ่นมาสร้างความเร้าใจ ก็ฝากใครซื้อกลิ่นหอมๆ มาฉีดพ่นไว้ก็ได้ จะได้พอโม้ได้ว่ามีกลิ่นกับเขาเหมือนกัน

เรื่องกลิ่นเวลาเดินจงกรมนี่ มันหอมอย่างน่าประหลาดใจ บางครั้ง ขนลุกขนพองทีเดียว เลยไม่กล้าเดินอีก

ข้าจะให้คาถาล้อม เวลาเดินจงกรมซะก่อน สำหรับพวกบ้าพลัง เพื่อห้าวจัดไปเดินในที่น่ากลัว จะได้มีที่ตั้งแห่งใจ คาถานี้เป็นของกลุ่มฝึกจิตแห่งวัดประดู่ทรงธรรมเขา เขาหวงด้วยน่า เขาถ่ายทอดมาเมื่อสมัยข้ายังฝึกเดินสมัยเป็นฆราวาส นานหลายปีมากแล้ว

สมัยก่อนนี่ ข้าใช้ทุกครั้ง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช้แล้ว ข้าแหกปากร้องเพลงลูกทุ่งแท

ปักธูปที่ทางจงกรมแล้วธุจ้า ก้าวขึ้นไปยืน อาราธนา น้อมใจต่อพระพุทธะชินสีห์เจ้า

กล่าวนะโม สามจบ แล้วบริกรรมทำปากขมุบขมิบพอขลังๆว่า

“พุทธโธล้อม นะโมป้องกัน สารพัดศัตรู วินาศสันติ

ธรรมโมล้อม นะโมป้องกัน สารพัดศัตรู วินาศสันติ

สังโฆล้อม นะโมป้องกัน สารพัดศัตรู วินาศสันติ

พระพุทธคุณนัง พระพุทธะคุณเจ้าเดินหน้า เทวดาตามหลัง ศัตรูปาปัง วินาสสันติ

พระธรรมคุณนัง พระธรรมะคุณเจ้าเดินหน้า เทวดาตามหลัง ศัตรูปาปัง วินาสสันติ

พระสังฆะคุณนัง พระสังฆะคุณเจ้าเดินหน้า เทวดาตามหลัง ศัตรูปาปัง วินาสสันติ

พุทธธัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานนัง สรณังคัจฉามิ

ธรรมมัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานนัง สรณังคัจฉามิ

สังฆัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานนัง สรณังคัจฉามิ”

แล้วกล่าว ยาทตราจะเม ก้าวเท้าขวาออกเริ่มต้นเดิน

คืนนี้ข้าง่วงแล้ว ค่อยมาโม้ต่อพรุ่งนี้ คืนนี้ หวัดดี

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 17 กันยายน 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง