ความเลวที่มองไม่เห็น ของผู้ปฏิบัติดี

ความเลวที่มองไม่เห็น ของผู้ปฏิบัติดี

397
0
แบ่งปัน

******* “ความเลวที่มองไม่เห็น ของผู้ปฏิบัติดี” ******

ขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญ

ข้านี่เห็นผู้ปฏิบัติมามากมาย ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติเคร่ง

เป็นผู้ที่เห็นแล้วน่าเลื่อมใส

แต่มีความจริงอย่างหนึ่งที่พวกเขาไม่ค่อยจะสอดส่งลงไปในการฝึกปฏิบัติก็คือ

เราปฏิบัติธรรมกัน ด้วยการเอาตัวเอาใจเข้าไปเป็นเจ้าของ

ตราบใดที่ยังเอาตัวเอาใจเข้าไปเป็นเจ้าของ

ความยึดในอัตตาและอุปาทาน ย่อมไม่จางคลายด้วยอำนาจแห่งปัญญาไปได้

บางคนไม่มีศีล เมื่อเรียนรู้ข้อศีล ก็เป็นคนที่มีความเป็นเจ้าของแห่งศีล เป็นคนมีศีล เข้าใจว่าตนนี้เป็นผู้มีศีล

แต่เป็นคนมีศีลที่ เพ่งโทษคนไม่มีศีลว่าเหี้ยว่าเลว ไม่เหมือนตน ที่เป็นคนมีศีล

คนนั้นไม่ดี คนนี้ไม่ดี เพราะขาดศีลข้อนั้น เพราะขาดศีลข้อนี้ ไม่เหมือนกับตน ที่มีศีล เป็นผู้ปฏิบัติเคร่งในศีล

นี่…พวกทิฏฐิแห่งความมีศีล อันเป็นความระยำพอๆ กับโจรร้ายที่มันไม่มีศีล

เป็นพวกเอาศีลที่ตนมี ตนเป็นเจ้าของไปขว้างปาใส่ผู้อื่น ที่ตนเห็นว่า มีศีลไม่เสมอกับตน

บางคนมีสมาธิดี ปฏิบัติดี เคร่งในการปฏิบัติ เป็นคนมีสมาธิ เป็นเจ้าของผู้มีความเป็นสมาธิดี เคร่งครัดและปฏิบัติมานาน

แต่เป็นคนที่เพ่งโทษคนที่ไม่ทำสมาธิ ไม่มีสมาธิ ว่ามีความดีไม่เท่ากับตน ที่เป็นคนปฏิบัติดีและมีสมาธิ

นี่เป็นทิฏฐิแห่งสมาธิ มีความเหี้ยแห่งใจไม่ต่างกับโจร ที่ไม่สนใจเรื่องสมาธิเช่นกัน

บางคนมีศีลดี สมาธิดี มีปัญญาดี ก็เป็นคนที่มีความเป็นเจ้าของ แห่งความมีศีลดี สมาธิดี ปัญญาดี

แต่เพ่งโทษผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติเท่าตน ดูว่าตนนี้ เป็นผู้สมบรูณ์ด้วยจาริยะแห่ง ศีล สมาธิ ปัญญา

นี่ก็เป็นทิฏฐิ มีความเลวไม่แตกต่างไปจากโจรเช่นกัน

นักปฏิบัติเรา ที่เข้าไม่ถึงมรรคผล เพราะเข้าใจว่าตัวตน มันเข้าถึงมรรคผล

เข้าใจว่าตนเป็นผู้มีศีล เข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสมาธิ เข้าใจว่าตนเป็นผู้มีปัญญา

ความเข้าใจทั้งหลายนี้ เจ้าของไม่เคยเข้าใจเลยว่า

มันเป็นอำนาจแห่ง ตัณหา มานะ และทิฏฐิ ที่เป็นกิเลสฝังเสี้ยนในใจเจ้าของ

พุทธศาสนา ชี้ให้เห็นให้เข้าใจความเป็นธรรมดาของสิ่งเหล่านี้ ที่มีที่เป็น

แต่การชี้ให้เห็นสิ่งเหล่านี้ เจ้าของ ต้องปฏิบัติ เพื่อเข้าไปให้ถึงทิฏฐิ มานะ ตัณหา แห่งการปฏิบัติด้วยตนเองด้วย

ฟังความอย่างเดียว แบบอ่านฉลากยาข้างขวด

โรคภัยแสนเจ็บปวด มันคงไม่ทุเลา เบาบางจางคลายลงมาเช่นกัน

ที่สำคัญ คือผู้ชี้หนทางที่เราเดิน มีความรู้ความสามารถชำนาญที่จะชี้หนทางให้แก่เราได้แค่ไหน

หากผู้ชี้มีคุณธรรมทางธรรมพอ…

หนทางที่เราจะเดินไปทางธรรม ย่อมเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์…!!

พระธรรมเทศนา วันที่ 22 มิถุนายน 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง