คำพยากรณ์ว่าเขื่อนแตก ท่อน 3

คำพยากรณ์ว่าเขื่อนแตก ท่อน 3

461
0
แบ่งปัน

****** “คำพยากรณ์ว่า…..เขื่อนแตก ท่อน 3” ******

ถ้าว่ากันตามมโนจิต แผ่นดินตรงด่านแม่แฉลบที่ข้านั่งตรงนี้ ลึกลงไปราว 16 กิโลเมตร มีโพรงพาดผ่าน

และลึกลงไปราว 32 กิโลเมตร มีช่องว่างของแผ่นดิน ทอดยาวขึ้นไปทางเหนือ

โพรงเหล่านี้ บางช่วงมีความกว้างถึง 14 กิโล บางช่วงก็ตีบแคบ 5-600 เมตร

มันมีโพรงที่แตกแยกออกเป็นรากแทงเข้าไป ในระนาบแผ่นดินอีกนับไม่ถ้วน

โพรงอุโมงค์ยักษ์พวกนี้แหละ เป็นปัจจัยทำให้เกิดแผ่นดินไหว

สมัยโบราณที่ท่านว่า มีปลาอานนท์หรือเต่ายักษ์เกิดการขยับตัว จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหว ก็คงจินตนาการมาจากเหตุนี้

ทีนี้ โพรงพวกนี้มันเป็นปัจจัยให้เกิดแผ่นดินไหวได้ยังไง

ในพื้นโลกเรานี้ มันยังกรุ่นไปด้วยหินหลอมเหลวอันเกิดจากความร้อน และมันไม่มีวันดับลงซะด้วย

มันเป็นเช่นนี้มานานแสนนาน เหมือนพระอาทิตย์ที่ลุกโชนตลอดเวลา

ความร้อนนี้มันเป็นปฏิกริยาลูกโซ่แบบปรมาณู ช่องว่างที่เป็นรอยแยกของเปลือกโลก

จะโดนความร้อนเหล่านี้ขับดันออกมา

ความร้อนที่อัดแน่นขึ้นๆๆ เมื่อเจอความเย็นกว่าของผิวเปลือกโลก มันทำให้เกิดแรงอัดของอากาศ

แรงอัดที่เคลื่อนไปตามรอยแยกและอุโมงค์ใต้ดิน ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของผนังที่เป็นโพรง

การปะทุของความร้อนและแรงอัด มันมีไม่เท่ากัน

แต่เมื่อไหร่ที่เหตุปัจจัยพร้อม เช่นความร้อนสะสมที่เกิดแรงอัดเข้ามาจากหลายทิศ เกิดไหลมารวมตัวกัน

การขับดันด้วยมวลมหาศาล ย่อมพุ่งไปหาทางออกของช่องว่าง

ภาวะเช่นนี้ ผนังอุโมงค์ยักษ์ที่พัดผ่านเกิดการสะเทือนส่งผลไปถึงผิวโลก ตามเส้นทางที่เราเรียกว่ารอยเลื่อนพาดผ่าน ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

การเกิดแผ่นดินไหว จะมากน้อยมันขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยของแรงอัดจากความร้อนที่มารวมตัวกัน

แม้บนท้องฟ้า ยามเกิดอากาศอัดแน่นเกิดการบีบรัดกัน การเสียดสีและสั่นสะเทือน มันยังกระจายลงมาถึงพื้นโลก จนเรารู้สึกได้

แต่ใต้ดินนี่ มันไปไหนไม่ได้ หากแรงอัดมากๆเข้า มันก็จะดันผิวดินปูดขึ้นมาเป็นเนินเป็นภูเขา

แรงอัดใต้ดินที่เกิดจากมวลความร้อน ยามเคลื่อนตัวกระแทกไปตามผนังโพรง มันจะเกิดช่องว่างที่เรียกว่า โฮล

ช่องว่างนี้ จะเป็นสูญญากาศที่มีความเย็น มันเหมือนแก๊สที่ถ่ายเทออกมาในถังแก๊ส

เมื่อแก๊สถ่ายเทออกไป ถังแก๊สก็จะเกิดโฮล ทำให้ถังแก๊สเย็นจนเป็นน้ำแข็งขาวขึ้นมา

โพรงใต้ดินก็เหมือนกัน เมื่อเกิดความดันอัดแน่นด้วยมวลความร้อน พักผ่านวิ่งไปเป็นก้อน

กระแทกและประสานงากับมวลแรงอัดอื่นที่ที่พุ่งขึ้นมาตามทาวช่องว่าง

โฮลที่เกิดขึ้นนี้ จะทำให้ความร้อนทั้งหลาย ที่จะก่อตัวขึ้นมาอีก มันหยุดและสงบไป

การเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อเกิดมาครั้งหนึ่ง มันจึงใข้เวลานานกว่าจะเกิดใหม่ครั้งใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง

นี่..ด้วยอำนาจแห่งช่องว่างของอากาศที่เรียกว่าโฮล

ที่เขื่อนศรีนครินทร์ตรงที่ข้านั่งเล่านิทานให้ฟังนี่ มันเคยเกิดแรงประทุขึ้นมาครั้งหนึ่งล่าสุด เมื่อกว่าสองแสนปีที่แล้ว

ครั้งนั้น ทำให้เมืองแถบนี้ ยุบหายลงไปในผืนดิน เกิดเป็นภูเขาและเนินดินไปตามเส้นทางแห่งมวลที่ดันอัดขึ้นมา

และช่องว่างแห่งโฮลนี่แหละ มันมีแรงดูดตามหลังมวลอากาศที่อัดแน่น

มันดูดและดึงดินจากผิวโลกลงไปแทนที่ช่องว่าง ที่แรงอัดพาดผ่าน

นี่..เป็นเหตุแห่งการยุบตัว และกลืนเมืองทั้งเมืองอย่างแอสแลนด์ติกมาแล้ว

ฮะ..ชักโม้ออกนอกเรื่อง..!!

ทีนี้ ผู้มีญานทั้งหลายนี่ อาจเห็นช่องทางเช่นนี้ ไปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อเกิดการสร้างเขื่อนขึ้นมาในที่ตรงนี้ ความวิตกกังวลของเรื่องการเกิดแผ่นดินไหวและเขื่อนแตก มันก็เลยมีออกมาเป็นระยะๆ

สิ่งเหล่านี้ เกิดจากการคาดคิดและสุ่มเดา ว่ากันไปต่างๆนาๆและว่ากันมาเป็นเวลานานพอสมควร ถึงเรื่องการเกิดแผ่นดินไหวและเขื่อนแตก

ทีนี้ เรื่องแผ่นดินไหวและเขื่อนแตกนี่ มันมีคำพยากรณ์

พยากรณ์ว่าอย่างไร ว่างแล้วค่อยมานั่งเล่านิทานกันใหม่

พระธรรมเทศนา วันที่ 8 มิถุนายน 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง