******* “พุทธะตลอดชีวิตด้วยรอยสัก” *******
หวัดดี ดึกแล้ว
เราจะพูดถึงรอยสักกันซักนิด..!!
เมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมานี่ เหล่าน้องๆที่ได้ไปสักสัญลักษณ์แห่งองค์พระพุทธะมา
ได้ทำการลงเจตนา ด้วยความศรัทธาต่อพุทธศาสนาโดยข้า
คนที่สักนี่พระพุทธะนี่ มันมีคุณอย่างหนึ่งต่อใจ นั่นก็คือ ความศรัทธาที่นำพาไปสู่แสงสว่าง
เวลาวิญญานออกจากร่าง วิญญานจะนำรอยสักในภวังค์แห่งองค์พระไปด้วย
พวกนี้มีตั๋วเข้าสู่ทิพย์วิมาน ตายปุ๊บ มีวิมานอยู่ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
เนื้อหนังมังสาของเรานี่ มันเป็นของหวง
เราสักงู ก็มีตั๋วไปเกิดเป็นนาคได้ สักเสือ ก็ไปเป็นเดรัจฉานได้
มันเป็นลายลักษณ์บันทึกจิตน่ะ
หากเรามั่นใจในรอยสัก ความมั่นใจนั้นเป็นตัวก่อเหตุแห่งเจตนา
อันนี้มันมีเหตุปัจจัยอันมีเหตุประกอบอีกมากมายเป็นตัวจูงจิตอีก
แต่ถ้าสักแบบไม่รู้ค่า มันก็จะเป็นแค่ภาพหนังหนาเปื้อนสีที่ซึมเข้าผิวหนัง
รอยสักนี่ มันข้ามชาติได้ มันฝังลงไปในภวังค์จิต
ข้านี่ เกิดมาไม่เคยสัก แต่เมื่อถึงทิฏฐิอาการหนึ่ง รอยสักจะผุดขึ้นมาเต็มตัว
ตัวงี้ลายไปด้วยอักขระ กว่าจะจาง ก็ต้องสี่ห้าชั่วโมงโน่นแหละ
ส่วนที่ยื่นออกมาจากลำตัว เช่นแขนขา มันจะจางลงไปก่อน
และลายจะไปวิ่งวนอยู่แถวหน้าอกหน้าท้องอีกหลายชั่วโมง
นี่..ข้าเองก็อธิบายไม่ได้ว่า มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
แต่มันยืนยันได้ว่า รอยสักนี่ ข้ามภพข้ามชาติ หากใส่เจตนาจิต
ฉะนั้น ใครสักองค์พุทธะด้วยความเคารพ และระลึกไว้ว่าจะไม่ทำชั่ว
นี่เป็นตราปั๊มตั๋ว ที่แม้แต่พระพรหมยังปกป้องรักษา
พวกนี้ รอแค่ปัญญาที่จะแตกหน่อออกมาในกาลข้างหน้า
ที่สุดก็จะแตกช่อออกมาเป็นหน่อเนื้อที่รักษาจนกว่าเข้าสู่พระนิพพาน
การลงเจตนาจิตเมื่อวันวิสาขะ อันเป็นวันมงคลสมมุติของชาวพุทธ
เมื่อทุกคนที่ได้ทำการสักกันมาแล้ว ก็อยากจะให้ข้าลงเจตนาจิต
อย่างหนุ่มวินนี่ ได้เลี่ยมพลาสติกองค์ดำเอาไว้ พระองค์ดำมาอยู่ตรงตำแหน่งรอยสักพอดี
เมื่อข้าลงเจตนาลงไป ปรากฏว่า พลาสติกหุ้มองค์พระแตกละเอียด ติดลึกเข้าไปในเนื้อกลางหลัง
แต่พระองค์ดำ ไม่เป็นอะไรเลย
นี่เป็นพลังงานที่ผ่านพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ลงสู่รอยสัก
ที่เจ้าของสักมาด้วยความศรัทธาต่อแผ่นดินในพุทธศาสนา
บางคนก็จะแสบแผ่นหลังตรงรอยสัก
บางคนก็จะเกิดอาการจุก เหมือนมีอะไรมากระทุ้งแน่นอยู่หน้าอก แล้วค่อยๆแผ่สลายซ่านออกไป
บางคนก็ฟุบวูบลงไป เหมือนมีอะไรผ่านจากแผ่นหลังทะลวงหลุดออกไปยังเบื้องหน้า
บางคนก็ไม่มีอาการอะไร
แต่บางคนก็มีอาการ ของออก..!!
การสักพระพุทธะนี่ เป็นการสักองค์พระติดกายาไปตลอดชีวิต
นี่เป็นชาวพุทธ ที่จะไม่สั่นคลอนไปจากศาสนาตลอดชีวิต แม้เกิดมาใหม่อีกกี่ชาติ
กุศลวิบาก ก็จะทำให้ผู้ที่สักเกิดกำเนิดอยู่ในพุทธศาสนา ทุกภพทุกชาติ
หากยุคใดไร้ศาสนา พวกเขาจะไม่ลงมาเกิดด้วนอำนาจแห่งกุศลวิบาก
แต่หากยุคใด มีผู้ทรงปัญญาญานมากำเนิดจุติ
พวกเขาผู้มีรอยสัก ก็จะลงมาจุติเพื่อสานกำลังปัญญาจนกว่าเข้าสู่พระนิพพาน
บางคนนี่ รังเกียจรอยสัก เห็นการสักเป็นเรื่องของพวกนักเลง
โลกเรานี่ มันมีสองนัยยะเสมอ
สักแบบใสยะก็มี สักแบบปัญญาก็มี มันอยู่ที่เราใส่เจตนา
ธรรมดาเราก็สักความเลวลงในจิตใจของเราด้วยการกระทำ ทางกาย วาจา ใจ อยู่เนืองๆ
รอยสักแห่งกิเลสที่มองไม่เห็นด้วยตัวเรา เรายังสักลงไปในใจได้ทุกวี่ทุกวัน
รอยสักแห่งบุญญพลัง เป็นการสักเพื่อนอบน้อมต่อพระพุทธชินสีห์ ให้มีสัญลักษณ์แนบสนิทติดชิดกับเนื้อหนัง
ใครจะว่ายังไงก็ว่ากันไป
แต่สำหรับข้า มันแสนซาบซึ้งใจและเต็มใจในการขอสาธุคุณท่านผู้ปรากฏคุณในรอยจารึกแห่งบุญญพลัง..!!
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 9 มีนาคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง