เจตสิก

เจตสิก

643
0
แบ่งปัน

****** ” เจตสิก ” ******

คำว่าเจตสิกนี่ มีความหมายมาทาง การปรุงแต่งโดยเจตนา

ในที่นี่ กระบวนการปรุงแต่งของขันธ์ห้านี่ ท่านเรียกกระบวนการนี้ว่า เจตสิก

เช่นหูกระทบเสียง รู้ว่าเสียงอะไร นี่มันปรุงเรียบร้อยแล้ว

ไม่รู้ว่าเป็นเสียงอะไร นี่มันก็ปรุงเรียบร้อยแล้ว

หูกระทบเสียง เกิดเวทนา..

เวทนาตัวแรกนี่ เป็นอวิชา คือมืดบอด แต่มีเหตุผัสสะแล้ว จากทางหู

การประมวลผลแห่งเสียงนี่ เป็นสังขาร คือนำสัญญามาปรุงแต่ง เพื่อเทียบเคียงเสียงที่ผัสสะ

เมื่อปรุงแต่งตรงตามสัญญา รู้ได้ในสัญญาเสียง นี่เป็นวิญญาน

ผลแห่งการประมวลทั้งหมดนี่ เป็นเวทนา

เวทนาตัวนี้ เป็นเวทนาที่เป็นผลมีสมมุติปรุงแต่งเรียบร้อยแล้ว

กระบวนการทั้งหมดนี่แหละ เรียกว่า เจตสิก..!!

เหมือนเรานำน้ำเปล่ามาหนึ่งแก้ว นำเปล่าในแก้วนี่ เป็นเสมือนจิต

เมื่อเรานำผงกาแฟใส่ลงไปในน้ำ ผงกาแฟละลายซ่านกระจายไปตามเนื้อน้ำ

จนน้ำนั้นค่อยๆกลายเป็นสีดำที่เราเรียกว่า กาแฟ

ผงที่กระทบน้ำ และกระจายซ่านไปทั่วเนื้อน้ำ ผงกาแฟย้อมน้ำใสจนกลายเป็นสีดำที่เรียกว่ากาแฟนี่

เปรียบกระบวนการตั้งแต่ผัสสะจนกลายจากน้ำใสมาเป็นกาแฟนี่ เรียกว่า เจตสิก

สิ่งที่โดนปรุงเรียบร้อยแล้วนี่ เป็นผล ที่เรียกว่า เวทนา

ในเวทนานี้ มีสมมุติที่เรียกว่า กาแฟไม่ใช่น้ำใส เป็นอุปาทานเรียบร้อยไปแล้ว

กระบวนการปรุงแต่งจนสำเร็จไปสู่สมมุติอีกสิ่งหนึ่ง กระบวนการเช่นนี้ เรียกว่า เจตสิก

คือจบกระบวนการตามเจตนารมณ์ปรุงแต่งของขันธ์ห้า

เราปรุงเก๋ยวเตี๋ยว การปรุงเป็นเจตสิก จบการปรุงเราชิมรู้รส การรู้รสเป็นเวทนา

เมื่อเวทนาเกิด ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาต ก็เกิดเป็นกระบวนการธรรมดา

มันเกิดตามๆกันมาก็อาศัยการปรุงที่เกิดจากผัสสะ

นี่..เป็นเรื่องของเจตสิกที่หลายคนยังไม่รู้จักและเข้าใจมัน

ขอสาธุคุณยามเช้าสายๆ ของวันพฤหัส…!!!

พระธรรมเทศนา วันที่ 12 พฤษภาคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง