ไอ้แก่ที่น่าเบื่อ

ไอ้แก่ที่น่าเบื่อ

713
0
แบ่งปัน

******* ” ไอ้แก่ที่น่าเบื่อ ” ********

ที่นี่มีใครแก่มั่ง..

คนแก่นี่ เขาว่าน่าเบื่อจริงไหม..??

คนแก่นี่ มักจะเอาแต่ใจ เขาว่างั้น

ข้านี่ได้เจอคนแก่ที่มีปัญหา เป็นปัญหาที่คนแก่สะสมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ส่วนใหญ่ เป็นคนขาดเหตุขาดผลมาตั้งแต่เป็นคนในวัยหนุ่มสาว

เรียกง่ายๆว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว

คนแก่เหล่านี้ ขาดธรรมะมาหล่อเลี้ยงจิตใจ ทำแต่งานๆๆๆๆ ไม่มีเวลามาอบรมใจ ให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

บางคนเมื่อตนเองเกษียน ไม่รู้จะดำเนินชีวิตในบั้นปลายของตนยังไงดี

ยิ่งพวกคนเคยเก่งๆ มันเหมือนขาดอะไรไปในชีวิตเลยทีเดียว

ไอ้พวกที่พูดว่า เกษียนแล้วจะได้พักผ่อนอยู่บ้านสบายซะที

นี่..พวกพูดปลอบใจตัวเอง ธรรมชาติของความเคยชินแห่งจิตน่ะมันมีเป็นธรรมดา

เรียกว่าพูดเอาโชว๋ ไม่ตรงตามความเป็นจริง คนเราชีวิตอยู่เฉยไม่ได้หรอก แม้แต่พวกขี้เกียจก็เหอะ

พระแก่ๆ ก็เหมือนกัน ถ้ามาบวชตอนแก่ เสร็จทุกราย ในเรื่องอารมณ์

หรือพวกที่ไม่ได้ปฏิบัติจนเข้าใจธรรมดาของโลก ก็จะเป็นพระแก่ๆ ที่เป็นจอมอัตตามานะจัด ด้วยความเป็นพระ

พูดอะไรเป็นถูกหมด ไม่ฟังใคร เอาแต่ทิฏฐิความคิดตนที่บ่มเพาะมา เป็นเครื่องชูและอวดตน

แต่ธรรมจากใจตนนี่ ไม่มี ที่พูดธรรมก็อ่านๆจำๆกันมาหากิน

ข้านี่เห็นพระแก่ๆ โดนอุปโลกน์เยอะ เป็นเพียงแค่คนแก่ๆ ที่นั่งรับตังค์เพราะความเป็นหลวงพ่อ เป็นตาแก่ที่ไม่มีค่าอะไรต่อใจตนเอง

เพราะเป็นคนแก่ๆ ที่ขาดธรรม จากการบ่มเพาะด้วยปัญญามาตั้งแต่ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว

ธรรมทั้งหลายที่แสดง ก็มักเป็นธรรมตื้นๆ ที่จำเขามา เช่น..ขันธ์ห้าเป็นทุกข์นะลูก ทุกข์เกิดที่ใจ ให้ดับที่ใจทุกข์ก็จะดับ อะไรอย่างนี้

ธรรมเหล่านี้ มันรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองกันไปหมดแล้ว

ธรรมที่เขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง มันเป็นธรรมที่คนแก่ๆ ชอบเอามาทำมาหากิน แต่ผู้คนทั้งหลายไม่รู้กัน

พวกพระแก่บ้าการเมืองก็มี เสือกกับเขาทุกเรื่องที่เป็นการเมือง

มาบวชเพราะไม่มีอะไรทำ อยู่เลี้ยงหมาไปวันๆ ให้ผู้คนได้เรียกหลวงตา

แต่ธรรมห่าอะไรนี่ อย่าไปถามเลย เป็นธรรมเบบี๋เด็กน้อย ที่ใครๆ เขาก็รู้กัน

นี่..เป็นความงมงายทางศาสนา ที่มีต่อผู้คนเช่นกัน

คนแก่ๆ บางพวก ไม่มีอะไรทำ ก็เข้าวัดเข้าวา ขวักไขว่ค้นคว้าหาตำราทางพุทธมานั่งอ่านนั่งจำ

คนแก่พวกนี้เอาจริงเอาจัง เพราะความแก่ของตนเป็นเหตุ กลัวว่าจะไม่มีอะไรไปอวดใครเขา

พวกนี้นี่ เรื่องธรรมจำจากตำราเป๊ะ ใครว่าผิดไปจากตำราที่ตนรู้มา เป็นผิดหมด

มักจะโอ้อวดธรรม เพื่อให้ผู้คนเห็นว่า เป็นผู้รู้ธรรม ไม่ใช่แค่เป็นตาแก่หัวหงอกธรรมดาๆ

แต่ข้อเสียที่ติดมา ตนเองไม่รู้ว่า..

สิ่งที่ตนยึดนั้น มันเป็นตัวตนที่ทำลายตนเองโดยไม่รู้ตัว เป็นพวกอัตตาธรรม รู้แม่งทุกเรื่อง แต่ไม่รู้เรื่องใจตนเอง

ข้านี่เจอคนแก่อวดธรรมมาเยอะ มันไม่ค่อยชอบข้าหรอก มันบอก ข้ามันไม่งาม ไม่สมควรเป็นสงฆ์ พระต้องไม่เป็นอย่างนี้

ทั้งคำพูด ท่าทาง การแต่งกาย ดูจากภาพ ไม่เห็นจะสำรวมชวนน่าศรัทธาอะไรเลย

นี่..พวกคนแก่บ้าตำราบ้าธรรมนี่ มันมักจะคิดกับข้าเช่นนี้ มันตัดสินด้วยสายตาที่มันมองและคิดเอา

ความคิดที่ยึดดีของคนแก่ๆ นี่แหละ มันเป็นตัวทำลาย

แต่พวกคนแก่ๆ ไม่รู้ว่ามันเป็นตัวทำลาย เพราะเขาเข้าใจว่า..

เขาเองนั้นทำในสิ่งที่ดี ทำตามตำรา ทำตามพระธรรมวินัย นี่..พวกคนแก่มักยึดดีกันอย่างนี้

เขาไม่รู้ว่า เขาเอาตัวตนเข้าไปเป็น เอาตัวตนไปเป็นผู้รู้ธรรม

เขาจะคิดว่าเขา เป็นผู้ทำตามธรรม เป๊ะทุกอย่าง จะไม่ดีได้อย่างไร

ข้าเองไม่ค่อยอยากคุยกะคนแก่ๆ ไม่ใช่รังเกียจ แต่ขึ้เกียจคุย เพราะคุยไปก็ฟังกันไม่รู้เรื่อง

คนแก่มันเหมือนเด็กน้อย ที่ยึดเอาว่า บนดวงจันทร์มันมีกระต่าย

บอกยังไงคุยยังไง ก็เป็นเรื่องกระต่ายบนดวงจันทร์

เพราะเขาฝังใจไปกับดวงจันทร์นั้นมีกระต่าย เขาย้อมของเขามาอย่างนั้น

ตรงนี้…

พระพุทธองค์จึงทรงได้ตรัสออกมาว่า..

การสอนคนแก่ มันสอนยาก ไม่มีอะไรจะยากเท่ากับการชี้แนะคนแก่ๆ

ไอ้คนหลับน่ะ ปลุกไม่นานมันก็ตื่น

แต่ไอ้คนตื่นแกล้งหลับนี่ ปลุกเท่าไหร่มันก็ไม่ลุกขึ้นมาว่ามันตื่นแล้ว

มันจะหลับแช่อยู่อย่างนั้น ด้วยยึดหมายว่ามันน่ะเป็นผู้หลับ ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้หลับ

คนไม่หลับนี่ มันปลุกยาก อย่าเสือกไปปลุกมันขึ้นมาเลย

พวกเรานี่…

อีกไม่นานก็เป็นคนแก่ พวกเราหลายคน มันก็เป็นคนแก่ ที่ไม่ค่อยฟังใครอยู่เหมือนกัน ทั้งๆ ที่ยังไม่แก่

ความแก่นี้มันน่าเบื่อ มันไม่ยอมฟังความใคร มันฟังแต่ใจที่มันคิดว่าใช่ของมันอยู่เพียงข้างเดียว

คนก่อนแก่ หากได้ย้อมความมีปัญญา เล็งเห็นชัดถึงเรื่องใจเขาใจเรา

คนที่ย้อมมาทางใจเขาใจเรามาตั้งแต่ยังเป็นวัยหนุ่มสาว

ใจเช่นนี้ จะเป็นคนแก่ ที่ไม่ค่อยจะน่าเบื่อ มันเข้าใจคนเข้าใจโลก

การมีกำลังมองเห็นใจเขาใจเรา มันจะอภัยให้ใครๆ เขาได้ง่าย มันมองโลกบนความเป็นจริงได้

มันจะละอายชั่วกลัวบาปทางกาย วาจา ใจ ด้วยตัวมันเอง

คนวัยหนุ่มสาวที่ย้อมใจเช่นนี้อยู่เนืองๆ ด้วยสติตรึกตรอง

เมื่อยามเข้าวัยแก่ มันก็จะเป็นคนแก่ที่แสนน่ารัก..

เป็นที่รักของวัยเยาว์รุ่นหลังๆ เพราะเธอเป็นคนแก่ ที่ไม่บ้าพลัง

มีความเข้าใจชีวิตเธอฉันตรงตามความเป็นจริง

นี่..คนแก่ประเภทนี้นี่ น่ารัก

เป็นคนแก่ที่รู้จัก อภัยและการให้ คนแก่เช่นนี้ เมื่อชีวีวอดวายมะลายเมื่อใด

นี่แหละๆๆๆๆ เรียกได้ว่าพระโสดาบัน

เรา…จะโตขึ้นมาแก่แบบไหน..??

เป็นคนแก่น่าเบื่องี่เง่า

หรือเป็นคนแก่ที่ทุกคนแสนรักเจ้า

เรา..เป็นผู้เลือกที่จะย้อมสีลงไป

หวัดดีกับคนเริ่มแก่ทั้งหลาย หวัดดีไอ้แก่..!!

วันที่ 27 เมษายน 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง