ฉลาดที่จะโง่

****** ” ฉลาดที่จะโง่ “********

ขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญวันสงกรานต์จ้า

ที่อธิบายที่เขียนออกมานี่ ไม่ได้เป็นศัตรูอะไรกับใครน่า
แค่ให้เห็นมุมองอีกมุมที่เรามักจะไม่มองกัน

เรากระทำศาสนพิธีอย่างไม่พิจาณากัน ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี
มันเป็นความดีที่การกระทำและเชื่อกันอย่างไม่เข้าท่า

หลากหลายพิธี มันเป็นแค่ความเชื่อว่า…เท่านั้น

พิธีต่างๆนี่ มันเป็นกระแสมาจากพราหมณ์

เหล่าพราหมณ์ เมื่อบวชเข้ามาในพุทธศาสนา

เมื่อขยันและเรียนรู้มากขึ้น กระแสแห่งความเชื่อมันก็เลยกระจายออกมา สู่รุ่นต่อรุ่น

ความเป็นพุทธะมันก็เลยโดนกลืนเป็นพุทธะพันธุ์ทาง

นี่…เกิดจากความหวังดี

ที่สำคัญ…ผู้เขียนตำรา มักไม่ใช่ผู้แตกฉานทางปัญญาญานซะด้วย

นี่…คือเรื่องจริง ธรรมทั้งหลายที่มี ที่เขาแตกฉาน มันเอามาจากตำรา

จำเขามา ฟังเขามา และมาตรึก มานึก มาท่อง มาบ่น มาเขียน ถ่ายทอดลงไป

รุ่นหลังๆ ก็แปลตามพจนานุกรม ไม่ได้แปลออกจากใจที่มันมีธรรมที่เข้าถึงและเข้าใจ

ความเชื่อและแต่งเติมทั้งหลาย จึงพอกพูนเข้าไปรุ่น
สู่รุ่นให้มันหนาเตอะ

ความหนาเตอะแห่งความเชื่อ…นี่แหละ มันยากจะมีผู้อาจหาญมาค้าน มาทวนความเห็นในความเชื่อ
ทั้งหลายว่า มันไม่ตรง

ข้านี่…โดนนักปริยัติ กล่าวหาว่า ทำลายพุทธศาสนา ดูหมิ่น พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์มาแล้ว

นี่…เพราะไปทำลายความเชื่อที่เขาต่างยึดแน่น ไม่โยกคลอน ไม่ถอดถอน

เมื่อสะกิดเข้าไป มันเลยกลายเป็นค้อนปอนด์ทุบกระจกแท่งใหญ่ไปซะนี่

สมัยหนึ่ง…ข้านี่ไปอินเดีย

มันไปมองเห็นความงมงายอย่างบ้าคลั่งของชาวพุทธที่มีต่อสถานที่

มันยื้อแย่งตะกุยตะกาย เพื่อที่จะกระทำตามความเชื่อแห่งตน ให้มันบรรลุผล

ข้าก้มลงกราบพระ มันก็เดินเข้ามาเหยียบมือเลย เพื่อที่ตนเองจะเอาพวงมาลัยไปใส่ที่ตีนพระพุทธรูป

ข้านี่มองตีนมันที่กดทับมือที่กราบพระ

นี่…ถ้าเป็นหมา ข้าก็จะงับน่องมันให้หายซ่าไปเลย

พอยกหัวขึ้นมา ตูดมันก็อยู่เต็มหน้า

ดีที่มันไม่ตดใส่หน้า ตดมาข้าก็จะดม

มันหันมามอง และหันกลับไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ข้าปล่อยให้มันเหยีบบ มันเซจากการแย่งชิงพื้นที่ เพื่อการสักการะบูชาของมัน ตูดมันมากระแทกหน้าข้า

นี่…ตั้งแต่เกิดมา ก็ได้เอาหน้าทิ่มตูดผู้หญิงก็ที่อินเดียนี่แหละ

ที่สำคัญ อีเจ้าของตูด มันเป็นคนไทย เป็นคนไทยที่ไปแสวงบุญที่อินเดีย

พวกแสวงบุญ อยากได้บุญจากรูปเคารพ

แต่ใจนี่ ขาดการเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

บุญเฮงซวยเช่นนี้…มันเป็นบุญอย่างงมงาย..!!!

การบ้าแสวงบุญอย่างบ้าคลั่งของผู้คน

หากเรามีปัญญา เราจะเห็นชัด และจะเห็นความงมงาย ที่เกิดจากการยึดมั่น ถือมั่นที่ไม่ยอมถอดถอน

พระไทยเรา ไปนั่งสมาธิกันท่ามกลางผู้คนพลุกพล่าน
ดูว่า น่าเข้มขลังและเป็นผู้ทรงคุณ…

แต่แขกยามมันหัวเราะพระไทย มันบอกว่า พระไทยชอบโชว์ในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความจริง

สมาธิของนักบวชโน่น…ไปนั่งที่สงัดโน่น
ไม่ใช่มานั่งโชว์ออฟ เพื่อให้โยมศรัทธาเห็นว่า ตนนั้นเป็นพระดีเข้มขลัง

นี่…พวกโง่ยึดชายจีวรเข้านิพพาน

เอาวัตถุและสถานที่ ที่พลุกพล่าน แสดงความตั้งมั่น
เป็นผู้ทรงคุณ น่าหวั่นเกรงน่ากราบไหว้

พวกแขกยามที่นั่น เขาก็บอกว่า พระไทยมันชอบเสแสร้ง อยู่วัด ไม่ค่อยทำ

แต่พอออกมาถึงที่นี่ แล้วชอบโชว์โยมว่า นี่…เป็นพระผู้ทรงสมาธิ

นี่…แขกมันว่านะ ข้าแค่เล่าให้ฟัง

ที่อินเดียนึ่ แขกเขาเล่าว่า พวกพระไทยอยู่วัดแบบต้อนรับคณะทัวร์ เป็นการขายโปรแกรมทัวร์ มีแต่พุทธพานิช หาตังค์เข้าวัด

ไม่เห็นจะชี้สอนอะไรให้แก่ชาวพุทธด้วยกัน คำว่าพุทธนี่ แขกเขาแปลว่าจิตที่มีปัญญา

แต่พระผู้นำทางปัญญาที่นี่ มีแต่พระโง่ๆไม่เหมือนศาสนาฮินดูเขา ที่มีนักบวชกระทำกันอย่างเคร่งครัด

นี่…แขกเขาว่าเข้าใหัและเล่ามา

แต่อีกนัยหนึ่ง สำหรับเรื่องการกระทำในสิ่งโง่ๆทั้งหลายนี่

มันเป็นเปลือกอย่างดี ที่จะรักษาเนื้อเยื่ออันเป็นสัจธรรมเอาไว้

ผู้ฉลาด ย่อมแกะเปลือก เพื่อเลือกทานเนื้อเยื่อ

เหล่าผู้โง่ ย่อมทานแต่เปลือก ด้วยสำคัญว่าเป็นเนื้อเยื่อ

นี่…สิ่งโง่ๆเหล่านี้ มันเป็นเปลือกที่แสนดีที่ผู้คนเขานิยมกัน

เรารู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเปลือก

เราก็เลือกทานเปลือกอย่างผู้รู้ว่า นี่มันเป็นเปลือก อย่างโง่ๆ

รู้ว่ามันเป็นเปลือกอย่างโง่ๆแล้วทาน ย่อมดีกว่า ทานอย่างโง่ๆ ที่ไม่รู้ว่ามันเป็นเปลือก

โลกเขานิยมแดกเปลือก ไม่มีปัญญาแกะเปลือก เพื่อเลือกทานเนื้อเยื่อ

เรา…ก็ทานเปลือก แดกเปลือกไปอย่างโลกเขานิยมย่อมดีกว่า เอาแต่เนื้อเยื้อโดยไม่ยอมเอาเปลือก
เพราะความรู้มากของเจ้าของ

ท่านว่า คนโง่มากเปรียบเหมือน…ขนโค

คนฉลาดน้อยเท่า…เขาโค

เป็นข้าถ้ารู้ชัดเช่นนี้ ขอเลือกอยู่อย่างขนโคที่มันแสนโง่ตามโลกเขาว่า

อยู่อย่างเขาโค มันคงว้าเหว่นักหนา

อยู่อย่างโง่ๆ ทำอย่างโง่ๆ แต่รู้ว่า…นี่โง่

นี่…อยู่อย่างสบายใจ ที่ขนโคทั้งหลาย มันไม่รุมกระทืบเอา…!!!

วันที่ 21 ตุลาคม 2558 โดย พระอาจารย์ ธรรมกะ บุญญพลัง