พระกะเหรี่ยง ครูบาอาจารย์ ผู้ทรงคุณ

พระกะเหรี่ยง ครูบาอาจารย์ ผู้ทรงคุณ

2117
0
แบ่งปัน

1380571เรื่องนี้คุยกันเฉพาะคณะศิษย์ ในไลน์ มีภาษาอันไม่น่ารื่นหู ท่านที่เป็นผู้ดีรับเรื่องหยาบๆไม่ได้ ไม่ควรอ่าน ขอให้ข้ามๆไป เพราะผู้ที่เล่า ท่านเป็นอาจารย์เรา มีเพื่อนเราที่ไม่ได้ฟังเทศน์ใกล้ชิด เขาอยากฟังกัน เราเตือนกันก่อน…

“เวลาคุยกัน ทำไมพวกเราไม่ตั้งสาระกระทู้ธรรม 
ที่เรามีภูมิกันบ้างละไอ้น้องๆ ที่บุญญพลัง
ใครอยู่ที่นี่ เขาก็มักจะปรารภธรรมกัน
ข้าเองก็ปรารภธรรม หรือเราคุยธรรมมะกันไม่เป็น
คุยหนุกหนานมันก็ดี แต่คุยเรื่องธรรมดีกว่า

บางคนในห้องนี้ เขาก็ใช่ว่าจะชอบใจ
เพราะเขาไม่รู้ว่าพวกเรามันสนิทสนมกัน
พวกเขาเลยออก เพราะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด
ที่จริงมันไม่ผิดหรอก เราถือว่าเป็นการมาประชุมกัน ดีเสียอีก

แต่บางท่านเขารับกันไม่ได้ เราก็เลยต้องเคารพการตัดสินใจด้วย
ก็ค่อยๆจูนกันไป ท่านทั้งหลายก็ขอให้เข้าใจพวกน้องๆ
น้องๆก็ขอให้เข้าใจท่านทั้งหลาย

การเล่นไลน์นี้มันมีสองด้าน จะเป็นเฟสบุ๊กก็เหมือนกัน
มันไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรกับใครหรอก
พิษภัยมันเกิดที่ใจเรานี่ ไลน์ไม่เกี่ยว
ข้าเองเกือบหยุดขยายความทางไลน์

แต่เมื่อมาพิจารณาดู ไลน์ไม่เกี่ยว มันเกี่ยวที่คน
ถ้าคนว่าเลว มันก็เลว ถ้าคนว่าดี มันก็ดี
มันอยู่ที่ใจคน ว่าใจเราจะฟิตมาทางไหน ฟิตมาทางเลว
ย่อมได้เลว ฟิตมาทางดีย่อมได้ดี

เรารู้กันอยู่อย่างนี้ เรายังไล่ตามมันยังไม่ทัน เรายังปล่อยใจให้ไหลไปตามกระแสจนได้
คนเรามันมักจิกอยู่แค่ฟากเดียว ทั้งๆที่มันมีให้จิกทั้งสองฟาก
ชอบก็ถูกใจ ไม่ชอบก็ไม่ถูกใจ มันไม่ยอมรับรู้เลยว่า
ในไม่ชอบ มันมีชอบอยู่ และในที่ชอบ มันมีที่ไม่ชอบซ่อนอยู่เช่นกัน

มันอาศัยเหตุและปัจจัยเกื้อหนุน พระอริยเจ้า ที่ท่านไม่เดือดร้อน เพราะท่านเห็นทั้งสองฟาก
ความสุขก็มีทุกข์อยู่ในนั้น ความทุกข์ ก็มีสุขอยู่ในนั้น
มันอยู่ที่ว่าเราจะฟิตไปทางไหน ทั้งหลายมันเกิดที่ใจ

เพียงแต่เราดับความเร่าร้อนแห่งใจไม่เป็น
การเข้าถึงธรรม มันเข้าถึงยาก ตรงที่ติดตัวตนนี้แหละ
ธรรมสามารถเข้าใจได้ทุกคน แต่ทุกคน
ไม่สามารถเข้าใจได้เหมือนๆกัน มันขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายอย่าง

“ขอโทษธรรมมันไหลไม่ออก พวกเราบางคน เล่นเฟสส่งข้อความกันอยู่ ข้าเองต้องหยุดก่อนทุกที ธรรมมันสดุดเสร็จรึยังจ๊ะหนู”

“ถึงไหนแล้วแล้ววะ..!!”

การที่เราจะเข้าถึงธรรม เราจำเป็นต้องมีครูบาอาจารย
ขาดครูบาอาจารย์ได้แค่ไหน มันมักจะหยุดอยู่แค่นั้น
จะเพียรยังไง ปัญญาเราแก้ไม่ไหว
การฝึกทางธรรมจะมีปัญหาทางจิตตลอด เหมือนคนเดินในที่มืดๆ เดินได้ แต่ไม่เห็นอะไรที่จะเป็นเครื่องยืนยันได้เลย ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง มันจะเกิดการกระทบให้ได้คิดอยู่ตลอด

ผู้ปฏิบัติจะเจอปัญหาแบบนั้น หากปฏิบัติ แม้หนักแค่ไหนก็ไม่เจอ
มันเป็นการปฏิบัติ แบบเข้าข้างกิเลส
มันสร้างความดีและยึดความดีนั้น เพื่อให้ตัวเอง และคนอื่นชื่นชม
ที่คิดว่าทำดีนักหนา แท้จริง ทำไปเพราะโลกเขาว่า
และตัวเองว่า ไม่ได้ว่าตามธรรม

สมัยหนึ่งข้านี้ฝึกอยู่ในป่ากับเพื่อนภิกษุอีกรูปหนึ่ง
เดี๋ยวนี้ท่านสึกออกไปแล้ว

ข้าเองได้เข้าไปอยู่ป่าทางแถบ ทุ่งใหญ่นเรศวร
ติดค่อนมาทางบ้านภูเตย
เป็นป่าโปร่ง แต่อากาศเย็น

สมัยก่อนนี้ ข้าเป็นผู้ที่ฝึกอย่างเอาจริงเอาจัง ความเพียรสูง บางครั้งไม่กินไม่นอนอยู่หลายวัน
ข้าแขวนกลด กับกิ่งไม้ไกล้ๆลำธาร น้ำที่นั่นเย็นมากๆ
อากาศก็หนาวมากๆ ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าหนาว

อ๋อ..เขาเรียกแถวๆนั้นว่าบ้าน พุเตย นี่…มีคนแอบมากระซิบ
ข้าเองอยู่โคนไม้ อาหารนี้ไม่ตกถึงท้องเลย
เป็นเวลาหลายวัน เพราะพวกเขาไม่ใส่บาตรกัน
เรื่องไม่ใส่บาตรนี่ค่อยว่ากันทีหลัง มันมีเหตุ

ยามเช้า ข้าบิณฑบาตรแล้วไม่ได้ข้าว
ก็กลับมาเดินจงกลมต่อในระหว่างโคนไม้
เดินอยู่จนสาย ก็เห็นพระชาวกะเหรี่ยงรูปหนึ่ง
ก้มๆเงยๆอยู่ในห้วย
ทีแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก เราก็ทำหน้าที่ของเราต่อไป

แต่ในใจก็ครุ่นคิด ตามประสาผล เมื่อเจอเหตุ
ก็ในหมู่บ้านไม่มีวัด เขานับถือคริสกัน
แล้วอีตาลุงกะเหรี่ยงนี้ มาจากไหน..?

เดินไปคิดไป เหลียวไปมองหน้าท่านโต เห็นท่านโตยิ้มๆ ก็เลยไม่สนใจ ธรรมดาข้าเองนี้ ก็เจอพระชาวกะเหรี่ยงมาหลายรูป
ส่วนใหญ่ แม้จะทำตัวเคร่งแค่ไหน ก็ไม่ค่อยรู้ธรรม
เขาอ่านหนังสือธรรมไม่ค่อยออก
แต่บางรูปอ่านภาษาธรรมจากพม่าออก
แต่การปฏิบัติ ยังเข้าไม่ถึงผล นี่ที่ข้าเจอมา
จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับ พระชาวกะเหรี่ยง เท่าที่ควร
เพราะไม่สามารถ แสดงธรรมอะไรที่เราต้องการ ยิ่งๆขึ้นไปได้

เขามักจะไปติดอยู่กับเรื่อง ฤษี หรือเทวดา
พวกนี้บางคนบวชมาแล้ว เขาคุยกับเทวดาได้ จิตเขาถึง
และหลงในจิตประเภทนี้ ไม่ยอมถอน
จึงยากที่จะไปชี้ว่า ธรรมเหล่านี้ ไม่ไช่เรื่องหลุดพ้น
การบวชเข้ามา ไม่ใช่เพื่อการนี้
แต่พวกเขาที่อยู่ถ้ำ อยู่ป่าไม่ฟัง ดูเหมือนจะฟัง แต่ไม่ฟัง

เพราะที่สุด แม้เขาจะจนแต้มต่อธรรมข้า เขาก็ยังกลับไปหลงในจิต ที่คิดว่าวิเศษนี้เหมือนเดิ
ใจเขาติดในลาภสักการะ ที่เกิดจากคนศรัทธา
จึงถอนตัวยาก และใครๆต่างก็เป็นเช่นนั้น

พระรูปนั้น เดินเข้ามาใกล้ จึงมองเห็นว่า
ในมือท่านนั้น ถือหลาวเหล็ก
มันเป็นแบบก้านร่มปลายแหลมไว้แทงกบ
ในมือท่าน ถือพวงกบ จะเรียกว่ากบก็ไม่ถูก

เขาเรียกกันว่าเขียดเหลว มันเป็นเขียด เหมือนอึ่งอ่างตัวเล็กๆ ชาวกะเหรี่ยง เขามักเอามาย่างแห้งทั้งตัว มือและขางี้ จะเยียดชี้ทีเดียว เคยมีชาวกะเหรี่ยง ใส่บาตรมาให้กิน มันเหม็นมาก ข้ากินปลาร้าไม่ได้ ไอ้เขียดเหลวนี้ ก็ยัดไม่ลงเหมือนกัน

พระกะเหรี่ยงผอมๆ ก้มๆเงยๆเดินเข้ามาใกล้
ท่านแทงโช๊ะๆๆไปตามร่องหิน แล้วจับกบตัวเล็ก ที่เรียกว่าเขียดเหลวนั้น แทงร้อยเข้าไปในเชือก
ข้าเห็นแล้วอดที่จะเสือกไม่ได้

คือธรรมดาชาวกะเหรี่ยง เวลาบวช ส่วนใหญ่ไม่ได้บวชจากใจ
บางทีแก่แล้วไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยมาโกนหัวบวช
บวชแล้วก็ไม่รู้จักข้อธรรมวินัยอะไร บวชๆไปงั้น ให้หมู่บ้านได้มีพระไว้
บางทีบวชแล้วยังเมาแหลก
อยู่ถ้ำก็ยังเมา อ้างว่าแก้หนาวไม่เป็นไร ใครๆก็กินกัน
บวชแล้ว นั่งสูบยาเส้นทั้งวันก็มี ทำอะไรไม่เป็น
บางท่านบวชมาตั้งยี่สิบสามสิบพรรษา ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แต่รูปลักษณ์ มักเป็นพิมพ์นิยมของชาวเมือ
ข้าจึงไม่ค่อยให้ความสนใจ กับพระประเภทนี้นัก
แม้เราจะเจอกันในป่าก็เหอะ

ท่านเดินแทงเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงที่ข้าเดินจงกลมอยู่
ด้วยความเสือกจึงร้องถามออกไปว่า
ทำอะไรน่ะ นั่น..??

พระกะเหรี่ยงหยุดกึก… มองหน้า แล้วก็ก้มแทงต่อ ไม่สนใจอะไร
ข้าก็ไม่ใส่ใจอะไรอีก เรื่องของแกละวะ

เดินไปเดินมาสักสองสามรอบ เสือกอดไม่ได้อีก จึงร้องถามอีก นั่นทำอะไรลุง..??
พระกะเหรี่ยง ตัวเหลืองฟันดำ หยุด ..และหันมองหน้า

ข้าจึงร้องบอกไปว่า เราเป็นพระเป็นเจ้าแล้ว ทำอย่างนี้น่ะ…มันไม่ดี มันเป็นบาป..!!
พระกะเหรี่ยงพูดสวนออกมาเลย บาปแล้วเป็นไง..??

ข้าก็ตอบว่า เอ๊ะ…มันก็ต้องลงนรกนะซิ เรามันเป็นพระนะ..
แล้วกูลงรึมึงลง..!!! พระกะเหรี่ยงสวนออกมา

แค่นั้นแหละ… ใจข้างี้สั่น เดินออกจากทางจงกลม ก้มงุดๆเข้าไปหา แล้วก้มลงประนมมือ ท่านโตก็แทบคลานเข้ามาเหมือนกัน
เพราะมันแทงใจอย่างแรง มันสะท้านไปทั้งร่าง

เพราะเราเจริญสติอยู่หลายวัน ปัญญามันมีกำลังแรง กระทบอะไรนิดเดียว รู้ดีรู้ชั่วทันที
พระกะเหรี่ยงล่อเลย…!

ขอโทษนะจะเล่าให้ฟัง นี่เล่านะ.!!! ต้องถ่ายทอดภาษาเท่าที่จำได้ ออกมา ไม่ได้ว่าใคร มันคงไม่หยาบรกหูใครหรอกนะ ยกเอาหนังมาฉายให้ดู ว่าข้านี้ …โดนขนาบขนาดไหน อย่าได้ถือกัน…เราโตๆกันแล้ว คงแยกอารมณ์เป็น อะไรคือหยาบ อะไรไม่หยาบ รับไม่ได้ ก็ข้ามๆมันไป อย่าเอามาใส่ใจ เป็นเพียงแค่เรื่องเล่า เล่าละนะ ทำใจด้วย…!!!

ไอ้เย็ดแม่..!!! กูจะลงนรกหรือขึ้นสวรรค์มันก็เรื่องของกูโว๊ย ไอ้พระหัวควย..!!!
พวกมึงจะไปเย็ดหี หรือจะไปนิพพานที่ไหน มึงก็ไปกันเซ่…
มายุ่งเกี่ยวอะไรกับกูด้วยละโว๊ย!,, ไอ้สัตว์ ..
เป็นไงหา..!!! กูจะลงนรก มึงจะมาลงนรก กะกูด้วยเหรอหา..!!! ไอ้เหี้ยยย.. ทำไมมึงถึงมาเสือกกะกูด้วย..!!!
พวกมึงจะทำควยอะไรก็ทำไปเล้ย..!! กูไปเสือกหัวควยอะไรกับมึงรึไง ไอ้เย็ดแม่…ไอ้พวกพระหัวควย ชอบเสือกเรื่องของคนอื่น หน๋อยเพียรปฏิบัติประคองสติ ไอ้เหี้ยยย.. แต่เสือกมายุ่งเรื่องของกู ไอ้พระสัตว์นรก ไอ้พระส้นตีน ไอ้พระเหี้ยยๆๆ

ข้ากับท่านโต นั่งก้มหน้านิ่ง หูอื้อตาลายไปซะหมด
นี่ถ้าเป็นสมัยยังไม่บวช มีหวังข้าตบสลบ
แล้วตามนวดด้วยไม้หน้าสามต่
ชะตาอีตาแก่นี้ ขาดตั้งแต่แกเอ่ยคำชม แรกๆนู่นแล้ว

เรานั่งมองหน้ากัน ปล่อยให้พระกะเหรี่ยงด่า
โห…แต่ละคำ แม่ค้าปากคลองเด็กๆ
ท่านด่าอยู่สักพัก ก็เอาจีวรถกขึ้นมาพาดๆ
เดินแบบวางกล้าม โวยวายลั่นไปทั้งป่า

ไอ้เหี้ยยยย…กูอยู่ไม่ได้แล้วโว๊ยยย… จะทำอะไร ไอ้พระหัวควยเหี้ยๆ นี้.. มันก็บอกว่าตกนรก นรกพ่อนรกแม่มัน เสือกไม่เข้าเรื่องกับเรื่องคนอื่น ไอ้พระส้นตีน…!! อ่านแต่หนังสือ เก่งแต่ตำรา ดูถูกภูมิปัญญาของผู้อื่น ไอ้ส้นตีน ไอ้พระหัวควย..!! แล้วก็เดินก่นด่า ชนิดฟังแล้วชิบหายวายป่วง ฟืดฟาดหายไปในดง

ข้ากับท่านโต มองหน้ากัน แล้วข้าก็ถามว่า
เป็นไง สะใจดีไหม..!! อาหารชุดใหญ่ ไม่ได้กินมาหลายวัน
เจอของจริงเข้าไป ใจเป็นยังไง
ท่านโตอมยิ้ม ส่ายหน้ายักไหล่ ตอบว่า
คิดว่า เราน่าจะโดนนะท่าน… ข้าเองก็เห็นด้วย

พอพระกะเหรี่ยงหายไป เรายืนขึ้น สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฏ
หลาวเหล็กที่พระกะเหรี่ยงทิ้งไว้ มันไม่ใช่หลาวเหล็ก มันเป็นแค่กิ่งไม้ผุๆ ส่วนพวงเขียดเหลว มันก็เป็นแค่ใบไม้ที่ร้อยๆกันด้วยเถา ทุกอย่างไม่มีอะไรอย่างที่เห็นในตอนแรก เรากลับมาเดินจงกลม พิจารณาสิ่งที่เกิด ว่ามันคืออะไร

ข้าไม่แปลกใจเรื่องพระกะเหรี่ยง แต่แปลกใจว่าทำไม เราฝึกมาถึงขนาดนี้ ยังไปพลาดได้ นี่ครูบาอาจารย์มาทดสอบจิตแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเป็นท่านไหน

ข้าเคยชินกับเรื่องพวกนี้ จึงไม่ค่อยจะตื่นเต้น อะไรเท่าใดนัก
แต่ธรรมที่ท่านได้แสดงไว้ในคราวนั้น ทำให้ข้าเห็นรายละเอียดแห่งสติ ที่เราคิดว่าดีแล้ว ต่อเนื่องแล้ว มันไม่จริง

ความจริงก็คือ เรายังชอบที่จะไปเสือก เรื่องของชาวบ้าน เราเอาความดีของเราที่คิดว่าดีสุดยอด
ไปทำร้ายผู้อื่นด้วยความหวังดี นี่…ครูบาอาจารย์ท่านได้มาสั่งสอน

ครูบาอาจารย์ท่านสอนชี้กันอย่างนี้ ข้าถึงได้ดี
และเข้าใจในสิ่งที่คิดว่ามันดีที่สุดแล้ว ว่ามันยังไม่ดี ที่ดียังมีดีไม่พอ
และข้าก็กราบ ครูบาอาจารย์ท่านนั้นตลอด
และข้าก็รู้แล้วว่า ท่านคือใคร..!!!

ท่านเองไม่ใด้สอนว่า อย่าไปเสือกเรื่องของคนอื่นหรอกนะ
ท่านแค่ชี้ให้เห็น จริตจิตในส่วนที่คนเรายังพร่อง มันสามารถแสดงเองออกมาได้ ทั้งทางฟากดีและเลว

สิ่งที่เราคิดว่าดี มันอาจเลวในสายตา และมุมมองของคนอื่นๆ
เราจงอย่าไปหวังดี ด้วยอำนาจความคิดของตัวเรา
ถูกเรา ผิดคนอื่นมันยังมี
ผิดเราถูกคนอื่ก ก็ยังมีอีกเหมือนกัน

ครูบาอาจารย์ ท่านมาชี้ให้เห็นความจริง ทั้งสองฟาก
ข้าพิจารณาจนตกร่องไปนานแล้ว คำกล่าวโทษใดๆ
มันจึงเข้ามาทำร้ายใจดวงนี้ไม่ได้เลย ภูมิคุ้มกันมันสูง

มันเคยเจอยาแรงๆมามากต่อมากแล้ว
นี่คือความทนทาน หน้าด้านที่แตกต่างกัน ระหว่างข้ากับพวกเรา
ใจมันโดนฟอกไปแล้ว มันไม่หวนกลับมาเปื้อนได้อีก มันรักษาตัวมันเอง

นี่แหละที่ท่านเรียกว่า ใจมันเข้าใจ ใจมันไม่สงสัยใจ และใจนี้ไม่มีใจ จะไปกล่าวโทษใจใคร เพราะมันเป็นใจที่ไรัตัวตน.…!!!

คืนนี้โอเคนะ..
พระกะเหรี่ยงท่านด่า ไม่เกี่ยวกับข้านะว้อยยย
นี่คือเรื่องราวตอนหนึ่งในพรรษาสอง

ครูบาอาจารย์ท่านนั้นคือ พระมหากัสสปะ นี่แอบบอก..จุ๊ๆๆๆๆ
อย่าไปบอกไอ้ปอ แหม..ข้านี้มัน..อดไม่ได้ ชอบเสือกจริงๆ
สิ่งเหลือเชื่อในโลกเรา ยังมีเยอะแยะ
แต่เราไม่มีวิบากเจอเอง
จึงคิดว่าไม่มี

เรามักรู้ธรรมสวยหรูจากหนังสือ
แต่ธรรมอันสวยหรูวิจิตรเหล่านั้น เข้าไปถึงในใจเราไม่ได้เลย
ธรรมดิบๆที่ข้าเผชิญนี่ซิ พวกมีวาทะอันวิจิตรรับไม่ได
พวกแกโชคดี ที่ข้าไม่เคยเรียนนักธรรมอะไร
ไม่งั้น เราคงคุยกัน ด้วยภาษาที่ไม่รู้เรื่อง
แต่ข้าไม่ได้มั่วๆนะว้อยยยย
แม้บางทีจะมีมั่วๆบ้าง เพราะพวกแก มั่วมาก่อน

ถามไรยุ้ย..ข้ารอตั้งนานแล้ว เริ่มง่วง
วันนี้ยุงกัดข้าเต็มไปหมด

วิบากที่ข้าเจอเรื่องพวกนี้ เพราะข้าเอาจริง เอาชีวิตเข้าแลก
จิตที่สะสมอะไร มันก็ย่อมแสดงวิบากทดสอบสิ่งนั้น
มันเป็นโปรแกรมปกป้อง
พวกแกคงเข้าใจยาก
หากแกมาทางด้านผี และแกฝึกจริงเอาจริง
ไม่ใช่เอาแค่ปาก แกก็ได้เกี่ยวเนื่องกับผี
หากมาด้านเทพ ก็ได้เจอเทพ
หากมาด้านกิเลส แกก็เจอกิเลส
หากแกมาด้านโง่ แกก็เจอโง่
หากแกมาด้านดับ แกก็คงได้เจออย่างข้า เพราะวิบากมันส่งผลอยู่
การดำเนินมันเป็นเรื่องของจิต แต่พวกเรามันชอบเข้าไปเสือกเอง
เราเจอนั่น เราเจอนี่ จะมีเราหรือไม่มีเรา
มันก็เจออยู่อย่างนั้นนั้นแหละ เรามันตัวเสือก
ไอ้ตัวเสือกนี่แหละ ทำให้จิตวางอะไรไม่ได้จริง
เพราะมันเสือกไปทุกเรื่อง
แกชอบเสือกไม๊ยุ้ย..?!

ยุ๊ย: ค้าาา.. ของชอบค่ะ พระอาจารย์..