เหยียบ อินตะระเดีย ท่อน 1

เหยียบ อินตะระเดีย ท่อน 1

460
0
แบ่งปัน

***** “เหยียบ อินตะระเดีย ท่อน 1” *****

ชาวบุญญพลังว่า 160 ชีวิต ไปพร้อมกันที่สุวรรณภูมิ

นี่..กว่าจะมาถึงวันนี้ เราใช้เวลากว่าสองปี เพื่อเตรียมการ ใช่ว่าปุ๊บปั๊บจะไปๆกันเลย

หลายคนไม่ได้ไป เพราะติดเงื่อนไขอันหลากหลาย นี่..ไม่เป็นไร

กลุ่มเราใหญพอสมควร ต้องแบ่งกลุ่มกันนั่งเครื่องไป

กลุ่มแรก สามสิบกว่าคน ไปกันก่อน บินราวตีสอ

กลุ่มสองกว่าร้อยยี่สิบคน บินตอนตีสี่

ที่สนามบิน..!!

เหล่าพวกลิงต่างเต้นแร้งเต้นกา เป็นที่ฮือฮาต่อแขก จีน ไทย ทั้งหลาย

เรื่องกายสำรวมนี่ มันเหมือนจะสูญพันธุ์ไปจากใจของพวกลิงอยู่แล้ว

ข้าก็ได้แต่มองด้วยความขำๆ พวกมันช่างกล้าดี

หรือว่า วันนี้เป็นวันปล่อยผี..!!

เจ้าพวกนี้มันจึงชักดิ้นชักงอกันเป็นแถวๆ

เครื่องบินชุดแรกบินไปแล้ว พวกเขาไปรอที่โกวกาต้าก่อน

ส่วนชุดใหญ่ กำลังขึ้นเครื่องติดตามไป

หลายคนยังไม่เคยขึ้นเครื่องบิน

หลายคนยังไม่เคยไปอินเดีย

ครั้งนี้ ชีวิตพวกเขามีโอกาศละ

ข้านี่..อยากจะให้โอกาศดีๆ เวียนเข้ามาสู่ภายในใจของชนทุกๆคน

ครั้งหนึ่งก่อนตายจาก จะได้คุกันได้ว่า

เกิดมาแล้ว ตูดของพวกเรา ได้ยัดลงไปบนเบาะแข็งๆของเครื่องบินแล้วเว้ย

มันคุยได้ๆ จะได้มีชีวิตไม่อายหมามัน

พวกเราหลับอย่างผาสุขด้วยความเพลีย ที่ต้องเฝ้ารอเวลาบินมาทั้งคืน

ข้าน่ะ เข้ากรรมฐานตามวิสัย

ตั้งระหัสใจไว้ราวๆ ชั่วโมง สี่ห้านาที ก็จะถึงอินเดีย

เมื่อถึงเวลา ข้าก็ลืมตาขึ้นมา ฟ้าเริ่มสางแล้ว

แต่ดูเหมือนเครื่องจะยังบินไม่ถึง

จึงหลับตากำหนดจิตต่อไป

ราวเกือบชั่วโมงลืมตาขึ้นมา

ฟ้าสว่างแสงแดดแทงตา เครื่องก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะถึงสนามบิน

จึงมองออกไปนอกหน้าต่าง

เผื่อเห็นเหล่านางฟ้าและเทวดาดั่งที่เขาเล่าลือกันบ้าง

พระอาทิตย์ที่สาดแสงอยู่ขอบโลก ที่บินผ่านไปเมื่อกี้นี้

ดูเหมือนว่า เครื่องบินจะบินผ่านไปอีกหนนะ

และเมื่อกาลผ่านไป มันก็ดูเหมือนว่า

เครื่องบินลำนี้ จะแสดงอภินิหาริย์ บินผ่านพระอาทิตย์หลายต่อหลายรอบ

สามชั่วโมงแล้ว ที่เรายังค้างอยู่บนฟ้า

มองลงไปข้างล่างนอกหน้าต่าง มีแต่ความหนาทึบของเหล่าหมู่เมฆ

เราน่ะ..บินเหนือเมฆ

เรา..มุดเมฆลงไปยังพื้นโลกไม่ได้

ที่สุดถึงได้รู้ว่า เครื่องบินลำของเรา ต้องบินวนเหนือพื้นโลกที่มีแต่เมฆบัง มากว่า สามชั่วโมงแล้ว

และยังคงต้องบินวนต่อไป เป็น สี่ชั่วโมง…ห้า..ชั่วโมง..???

ไม่มีใครแตกตื่นกันเลย

ทุกคนดูเป็นเรื่องลั่นล้า ฟรีไทม์

ต่างออกเดินถ่ายรูป กระเซ้าเหย้าแหย่กัน เพราะถือว่า เครื่องบินมันดีเลน์ ที่จะลงในสนามบินแล้ว

แต่ข้านี่ ชักวิตกแทน..!!

แม้เราจะอยู่อย่างปลอดภัยในเครื่องบิน

แต่เครื่องบิน มันร่อนอยู่ในอากาศน่ะ

น้ำมันหมดเมื่อไหร่ เราก็คเซย์กู๊ดบายกัน

และนี่มันบินมาตั้งห้าชั่วโมงแล้ว

เครื่องบินก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร

มันจะจุน้ำมันได้แค่ไหน เพราะระยะบินแค่ 1.45 ชั่วโมง..!!

ดูเหมือนความตายจะรอเราอยู่

แต่พวกลิงทั้งหลาย ยังลั่นล้าเย้าแหย่กันหนุกหนาน ที่ได้นั่งเครื่องบินนาน

ที่สุด กัปตันก็ลงความเห็นว่าให้ไปลงที่เมือง อัสสัม

ห่างออกไปจากโกวกาต้าอีกราวๆ 45 นาทีบิน

เราขึ้นเครื่อง ตีสี่กว่า.. สี่โมงเศษแล้ว เรายังนั่งเล่นเพลินอยู่บนเครื่องบิน

พวกที่มารอดักพบข้าที่สนามบิน คงกลับบ้านไปกันหมดแล้ว ขอโทษที..!!

วันนั้น ข้าจึงกินม่าม่าอินเดียเป็นครั้งแรก บนเครื่องบิน

มันเป็นมาม่าที่อร่อยที่ซู๊ดด

เครื่องบิน บินลงเติมน้ำมันราว 1 ชั่วโมง

มันจึงพาเราเหินบินกลับมาโกวกาต้า

ที่สุด…เราก็ถึงโกวกาต้าอย่างปลอดภัย

เรา..ถึงรันเวย์สนามบินอย่างปลอดภัย เกือบเที่ยงเลยทีเดียว..!!

นี่..แค่เริ่มวันแรก ชีวิตก็มีเรื่องตื่นเต้นซะแล้ว

ที่เหลือร่วมอาทิตย์ กับคนเป็นร้อย ชีวิตมันจะวุ่นวายขนาดไหนหนอ..!!

22 มกราคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง