ความจริงตรงหน้า มันอาจไม่จริงอย่างที่เราคิด

ความจริงตรงหน้า มันอาจไม่จริงอย่างที่เราคิด

611
0
แบ่งปัน

****** ความจริงตรงหน้า มันอาจไม่จริงอย่างที่เราคิด ******

ขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญ…

พุทธศาสนานั้น ท่านชี้ให้เห็นโลกแห่งความจริง ที่มันแสดงของมันไปตามธรรมด

เราจะเห็นว่า….

สรรพสิ่งทั้งหลายนั้น เกิดจากเรา เข้าไปเป็นเจ้าของทั้งสิ้น

มีหินก้อนไหนบ้าง ที่มันเดือดร้อนในเรื่อง สีสรร รูปทรง ขนาด และรูปร่างที่ไม่ได้ดั่งใจมัน

เป็นแต่มนุษย์เรานี่แหละ ไปเดือดร้อนแทนมัน ที่มันไม่ได้ดั่งใจ อย่างที่เราต้องการ

เห็นต้นไม้นั่นไหม..

มีต้นไม้ใดบ้าง ที่มันมีความเดือดร้อน เพราะต้นมันคดงอ เปลือกหนาเป็นปุ่มเป็นก้อนไม่สวยไม่งาม

หรือมีต้นใดบ้าง ที่มันยินดี ในลำต้นที่แสนตั้งตรง อย่างทรนงเหลือหลาย

มีแต่เราทั้งหลายนี่แหละ ต่างไปให้นิยามแก่มัน

ว่าต้นนั้นต้นนี้ ถูกใจและไม่ถูกใจ สร้างความเดือดร้อนใจ ที่มันไม่ได้ดั่งใจที่เราต้องการ

โลกใบนี้ มันมีธรรมดาของมัน ที่ต่างอาศัยเหตุปัจจัยเกิด

ดูซิ.. ระลอกคลื่น มันเกิดจากน้ำ หรือเกิดจากลมเล่า

เราต่างก็ให้นิยามว่า ระลอกคลื่นมันเกิดจากลม

ถ้าไม่มีลม ระลอกคลื่นมันก็เกิดไม่ได้

แล้วถ้าไม่มีลมมันจะเกิดขึ้นได้ไหม..??

เรามักจะปักใจเชื่อว่า ลม ทำให้เกิดระลอกคลื่น เราเชื่อกันอย่างนี้ เชื่ออย่างรูเดียวช่องเดียว

เราไม่คิดให้กว้างขึ้นไปอีกว่า

ระลอกคลื่น เกิดจากแผ่นดินไหวก็ได้

เกิดจากการตีน้ำก็ได้

เกิดจากก้อนหินก็ได้

เกิดจากอะไรก็ได้ที่ไปกระทบน้ำ

ระลอกคลื่นย่อมเกิดได้ทั้งนั้น

ฉะนั้น..นิยามแคบๆ แห่งเราที่เข้าใจ มันย่อมแคบเกินไปที่จะไปเข้าใจความเป็นธรรมดา
ของธรรมชาติ ที่มันอาศัยเหตุปัจจัยเกิด

ระลอกคลื่น มันอาศัยเหตุปัจจัยเกิด

มันไม่ได้เกิดจากลมอย่างเดียว ตามที่เราพากันเข้าใจกัน

เพราะแม้ไม่มีลม ระลอกคลื่นมันก็อาศัยเหตุปัจจัยอื่นเกิดขึ้นได้เช่นกัน

เราพอจะเข้าใจกันไหม..

เสียงที่เกิดสนั่นหวั่นไหวของภูเขาไฟระเบิด

มันเกิดจากภูเขาไฟระเบิด หรือเกิดจากสิ่งไหน ที่ทำให้เกิดความสนั่นหวั่นไหวของเสียงเล่า

เรามักจะเข้าใจว่า เสียงมันเกิดจากภูเขาไฟนั่นแหละ มันระเบิดขึ้นมา

ถ้ามันไม่ระเบิด เสียงก็จะไม่มีขึ้นมา ให้สนั่นหวั่นไหว

คำถามด้วยความสงสัยมันมีอยู่ว่า…

ถ้าเสียงนั้นเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ

คนหูหนวกทั้งหลาย มันจะได้ยินเสียงอันสนั่นหวั่นไหวนั้นไหม..??

เราก็จะข้าใจว่า คนหูหนวกนั้นย่อมไม่ได้ยินเสียงอันสนั่นหวั่นไหว

นี่..ย่อมแสดงว่า เสียงมันไม่ได้เกิดจากภูเขาไฟมันระเบิด

เสียงเกิดจากเจ้าของ ที่มีหูไม่หนวกเป็นเหตุปัจจัย

เสียงที่ไหนๆ ก็ไม่มี

ถ้าเจ้าของ ไม่มีเครื่องมือรับเสียงที่เป็นช่องต่อไปสู่วิญญาณ

นี่..เสียงทั้งหลาย เกิดที่เราผู้เป็นเจ้าของ ไม่ได้เกิดที่ไหน ที่จะทำให้เกิดเสียงได้

จึงกล่าวได้ว่า.. สรรพสิ่งทั้งหลาย

มันอาศัยเหตุปัจจัยเกิด

และเหตุปัจจัยทั้งหลาย จุดกำเนิด มันอยู่ที่เรา

บุรุษผู้มีปัญญา ย่อมหาช่องทางในการแก้ใข ที่จุดกำเนิด

จุดกำเนิดนี้เป็นเหตุ ส่วนสิ่งที่ประจักษ์นั้นเป็นผล

ธรรมชาติของเราก็คือ มักจะหลงในผล

ผลทั้งหลาย ทั้งที่ถูกใจและไม่ถูกใจ ล้วนแล้วแต่มีเหตุด้วยกันทั้งสิ้น

การที่จะเจือจางความเผ็ดร้อนแห่งใจที่ทุรนทุราย

มันต้องหาหนทางเข้าไปหาความหมายแห่งเหตุที่มันได้แสดงเป็นผลออกมา

เส้นทางเช่นนี้

ย่อมเป็นมรรคา ที่จะทำให้เจ้าของ

เป็นผู้ออกจากความเศร้าหมองและทุกข์ทน ในผลที่เจ้าของหลง

ความหลงทั้งหลาย แก้ได้ โดยการสาวผลทั้งหลาย เข้าไปหาเหตุที่ลึกๆ ลงไป อย่างไม่มีวันจะจบสิ้นได้

สาวเหตุ สาวผลไปตามกำลังแห่งปัญญา

วันหนึ่งเราจะรู้และยืนยันได้ว่า..

สรรพสิ่งทั้งหลาย มันก็เป็นของมันเช่นนั้นเอง

มีแต่ไอ้กูนี่แหละ..ชอบไปเสือกกะมัน..!!

..เช้านี้ ขอสาธุคุณ

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง