เพื่อนฤษี

เพื่อนฤษี

686
0
แบ่งปัน

***** เพื่อนฤษี *****

เรามาคุยกันเรื่องของฤษีกัน เพราะก่อนเข้าถึงปัญญาหรือพุทธะได้ ต่างก็ต้องผ่านภพภูมิแห่งการเป็นฤษีกันมาแล้วทั้งนั้น

ข้านี่เจอนักบวชที่เรียกตนเองว่าฤษีนี่เยอะ ทางกาญจนบุรีนี่ เขาจะมาประชุมรวมตัวกัน ที่ถ้ำองค์จุ มาทำพิธีกรรมกันทุกปี

เพื่อนที่เป็นฤษีนี่ ก็เยอะ ทั้งที่เป็นโอปปาติกะ เป็นวิญญาณที่ยังไม่มีรูปนี่ก็มี

ข้าจะเล่าเรื่องฤษีที่เป็น โอปปาติกะ ที่เป็นวิญญาณอยู่ให้ฟังเอาไหม…??

>> ลูกศิษย์ : ฟังค่า
>> ลูกศิษย์ : เอาคร๊าปปปปปปปปป

<< พระอาจารย์ : ฤษีที่เป็นโอปปาติกะ และที่เป็นวิญญานนี้ มีหลายที่ เอาที่วัดถ้ำผาพิรุณ ที่ อ. ศรีสวัสดิ์ใกล้ๆ นี้เลยก็แล้วกัน

ที่วัดถ้าผาพิรุณนี่ เป็นสถานที่สำหรับพระท่านมาฝึกสวดปาฏิโมกข์

ที่นี้ เมื่อช่วงปี 50 ข้าได้นำเหล่าผู้ศรัทธา ไปเยี่ยมเยือน ที่วัดถ้ำผาพิรุณ

ที่วัดถ้ำผาพิรุณนี่ เหล่าพระที่มาฝึกท่องปาฏิโมกข์กัน ที่สำเร็จไปแล้ว มีหลายหมื่นองค์

แถวผนังถ้ำ จะมีพระอาศัยฝึกปฏิบัติทางจิตกันอยู่

เมื่อข้าเดินไปหยิบไม้กวาดมาทำความสะอาดเพื่อที่จะนั่ง

ท่านโต ซึ่งได้บวชติดตามกันมา ก็เดินหลังค่อมๆ เข้ามาหาด้วยท่าทางที่เชื่องช้า และบอกเป็นเสียงแหบๆ ว่า…

เพื่อนเอ๋ย..อยู่ให้สบายเถอะ เพื่อนมาเยี่ยมบ้าน ขอให้เราได้ทำการต้อนรับเพื่อนเถอะ มาๆ เราขอกวาดให้เพื่อนเอง..!!

นั่น..ปรากฏว่า.. ท่านโต ซึ่งบวชเป็นพระ ก็โดนวิญญาณปู่ฤษี ยืมใช้ร่างได้เช่นกัน

น้องชุดขาวอีกสองคนก็มีอาการเหมือนๆ กัน คือ หลังค่อมหมด และเชื้อเชิญให้พวกข้านั่งพักผ่อน

เมื่อได้คุยกัน ถึงได้รู้ว่า พวกปู่ฤษีทั้งสามนั้น เราเคยเป็นเพื่อนฤษีมาด้วยกัน

เคยฝึกตบะจนได้กำลังฌานทางจิตอย่างแรงกล้ามาด้วยกัน

เมื่อนับเวลาตามโลกมนุษย์ มันก็กินเวลากว่า 12,000 ปี

นี่แสดงว่า พวกเขา ตายก่อนได้พบพระธรรมของพระพุทธองค์เจ้า

เขาเล่าว่า เมื่อพวกเราฝึกตบะกัน มันเป็นการฝึกตบะ เพื่อเป็นไปในทางใหญ่ยิ่ง

นั่นก็หมายความว่า… เราฝึกเพื่อที่จะครองความยิ่งใหญ่ในสามภพ แต่อายุแห่งเรือนร่างนี่ มันมีไม่พอ

ทุกคนต่างมีกำลังจิตที่สูง กายหยาบได้แตกสลายไปซะก่อน ไม่สามารถครองร่างให้มันอยู่อย่างยาวนานได้

พวกเขาเอง ยังไม่หมดอายุขัย จึงอยู่ในสภาพอากาศวิญญาน ยังไม่ถึงเวลามาจุติ

แต่จิตของข้านี่ ได้มาเกิดและฝึกตบะต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน ในรูปเรือนกายแห่งมนุษย์

และเมื่อสองพันกว่าปีก่อน ท่านปู่ฤษีบอกว่า มีพระอรหันต์เจ้า ได้มาปรากฏกายนะที่นี่ คือถ้ำผาพิรุณนี้

ข้าที่เคยบำเพ็ญอยู่ที่นี่ ได้ฟังธรรมจากพระนักบวชโกนหัว ใจที่คิดจะฝึกเพื่อครองทั้งสามโลก

ได้หันเหมาทางปัญญาธรรม เหตุที่หันเห เป็นเพราะว่า… ในสมัยที่บวชเป็นฤษีนั้น

ข้าตอบโจทย์ธรรมง่ายๆ ต่อนักบวชโล้น ไม่ได้ซักข้อ มันจนแต้มด้วยปัญญาญาณ

แม้ภายนอกจะดูแข็งขืนไม่ยอมลง แต่ภายในมันยอมหมอบศิโรราบกับธรรมที่นักบวชโล้นนั้นแสด

นี่ ตรงนี้ เป็นเหตุหักเห ให้ชาติต่างๆ ต่อมา แม้จะเป็นฤษีบ้าง บางชาติและหลายชาติก็เป็นนักบวชโกนหัว

มาชาตินี้ เพื่อนคนนี้ ก็มาในคราบของนักบวชโกนหัว

ไม่ได้มาในคราบของฤษีผู้เคร่งครัดอย่างแต่ก่อน

นี่..ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงได้ออกมาต้อนรับ และขอเจริญรอยตาม

น้องศรัทธาที่ชื่อ แอน เธอหันมาร้องบอกว่า เธอบังคับกายไม่ได้ ขอให้ช่วยเธอด้วย เธอแสดงท่าดัดตัวต่างๆ ให้พวกเราดู

ท่านโตที่เป็นร่างฤษีบอกว่า

นี่เป็นของขวัญสำหรับเพื่อน ขอให้เพื่อนจำไว้ให้ดี ท่าดัดตนทั้งหลายนี้ จะช่วยเพื่อน ให้รอดจากวิบากทางกาย ที่เพื่อนจะต้องเผชิญ

นี่..ท่านฤษีท่านว่าอย่างนี

เหตุเพราะ กระแสวิบาก ที่ได้กระทำมาแต่ครั้งก่อนเก่า ที่ได้แสดงอยู่ในจิต มันได้บ่งชี้ และบ่งบอก ว่า วิบากทั้งหลาย ทางกายเกี่ยวกับเส้น กล้ามเนื้อ และเอ็น

วิบากกรรมจะมาให้ผลมาทางนั้น ซึ่งเกิดจากกรรม ที่ทำร้ายฆ่าฟันและทุบตีผู้อื่น

นี่..ท่านฤษีท่านว่าอย่างนี

ท่านกล่าวต่อว่า ฤษีดีๆ ที่ไปเกิดและกำเนิดเป็นมนุษย์ยุคนี้ มีกันมาก

พวกที่มาฝึกปาฏิโมกข์ ณ. ที่แห่งนี้ ต่างล้วนแล้วแต่เคยเป็นฤษีที่บำเพ็ญอยู่ที่ป่าแห่งนี้กันทั้งนั้น

เพราะป่าแถบนี้ เป็นที่ตั้งแห่งเขาไกรลาศ เป็นหนทางขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ผ่านไปยังชั้นพรหม

เป็นที่ชุมนุมของเหล่าเทพพรหม ฤษีทั้งหลาย ที่เคยมีสัญญาจิตต่อกัน ก็จะมารวมกัน และมุ่งมายังสถานที่แห่งนี้ ด้วยวิบากใดวิบากหนึ่ง

ฤษีที่มีคุณธรรมนี้มีมาก ฤษีเหี้ยๆ นี่ ก็มีไม่น้อย โลกมักจะเป็นเช่นนี้อยู่เสม

ฤษีที่ถ้ำผาพิรุณ แม้กาลยาวนานมากว่า 12,000 ปี

แต่ความดี ในความรักของเพื่อนฤษี ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม

เพื่อนได้ขออวยชัย ให้เพื่อนอย่างข้านี้ไปดี ขอให้เกิดมีปัญญาญาณ

เมื่อพวกเขาหมดวิบากแห่งกาล เขาจะขอมาเป็นผู้เรียนรู้ธรรมทั้งหลาย ที่ข้าได้ถ่ายทอดทิ้งไว้

นี่เป็นคำมั่นสัญญา..!!

ง่วงแล้วล่ะ คืนนี้ พอกันแค่นี้ก่อน ค่อยมาว่ากันวันหลัง หรือมีเวลา ก็แวะเวียนเข้ามาหามาคุยกัน

ต้อนรับเสมอ ขอให้มีแต่ความสุขกายสุขใจ

คืนนี้ขอสาธุคุณ..!!!

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง