โอกาสเลือกครั้งสุดท้ายก่อนตาย

โอกาสเลือกครั้งสุดท้ายก่อนตาย

513
0
แบ่งปัน

****** โอกาสเลือกครั้งสุดท้ายก่อนตาย ******

ข้านี่ เจอคนรวยๆ มามาก คนเหล่านี้ ต่างพยายามขวนขวายหาเงิน มันก็เหมือนดั่งเราๆ นี่แหละ ต่างก็แสวงหากันไม่รู้จบ

เราเสียสุขภาพและความหนุ่มสาว ไปกับการทำงาน เมื่อรู้ตัวอีกทีก็แก่ซะแล้ว เราแก่ตัวลงไปทุกวัน วันๆ เราเอาแต่หาเงินด้วยการทำงานวิธีการต่างๆ

เราควรหาความสุขให้แก่ตนเองบ้าง คนรวยๆ หลายคน พงาบๆ นอนราบอยู่บนเตียง เงินช่วยไม่ให้เขาไม่ต้องตายไม่ได้ เงินให้ใครมาป่วยแทนเขาไม่ได้ เงินซื้อความไม่ต้องแก่ ไม่ได้

เมื่อความตายเยื้องย่างเข้ามาหา จะยอมหรือไม่ยอม เขาก็ต้องยอมจำนนละ บางคนรู้ตัว แต่บางคนดิ้นรน ไม่อยากจากโลกไม่อยากตาย

แต่ก็ต้องตายต้องจากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากใจโดนย้อมมาทางหลงโลก มันก็จะห่วงหวงและยึดนึกคิดแต่บุคคล สัตว์ วัตถุและสิ่งของ

หากย้อมมาทางกุศลทางทาน จิตใจก็จะเอนเอียงมาทาง วัตถุ บุคคล และสิ่งของทางทานกุศลเช่นกัน

หลายคนจึงรู้ว่า ตนเองนั้น ไม่ได้ทำคุณอะไรให้แก่ใครๆ และแผ่นดินเลยยามเขาใกล้ตายและจะจากออกจากร่างอันน่าหวงแหนนี้ไป

วันนี้ และวันใก้ลๆ นี้ เขากำลังจะจากโลกนี้ที่เขาเคยหวงแหนไป เงินทองทั้งหลาย ที่เขาแสวงหามา จนแก่เฒ่าและเจ็บป่วย มันไม่ได้ช่วยให้เขา กลับไปเป็นดั่งเช่นหนุ่มๆ ที่มีความสุขอะไรเลย

ความทรงจำดีๆ ที่เขาเคยทำนี่ซิ มันอยู่ใกล้ๆ ตัวเขา มันเป็นไออุ่นที่พยุงใจเขา เขารู้สึกเสียใจ ว่าทำไม.. ตอนเขามีกำลัง ทำไม…เขาไม่รีบกระทำ

เขาหลับตาลงครั้งใด ทำไมมีแต่ความมืดมน เขากำลังจะตาย แต่ใจยังหวลแต่เรื่อง ครอบครัว สมบัติ เงินทอง วัตถุสิ่งของที่เขาเคยมี

สิ่งเหล่านี้ มันกำลังดึงดูดใจเขาให้ไปหา ใจมันหวลไปทางวัตถุ บุคคล สิ่งของ แต่สติที่มีปัญญามันรู้ว่า

หากยังไหลเวียนไปทางนั้น เขาจะต้องไปเกิดกำเนิดเป็นสัตว์ สติระลึกได้ว่าเขาต้องไปเกิดเป็นสัตว์ เขาไม่ต้องการๆๆๆ

คนใกล้ตาย สติกับกระแสใจมันแยกกัน ปัญญา สมาธิ ตัวรู้เห็น ผู้ดูอะไรต่ออะไรมันแยกกัน

มันต่างทำหน้าที่เต็มกำลังของมัน เพียงแต่เจ้าของไม่เคยหยุดยั้งที่จะไปดู ไม่รู้วิธีดู มีแต่ความทะยานอยากในตัณหา

ทะยายอยากในความอยากมีอยากเป็น และทะยานอยากในความหวงแหนในสิ่งที่มีและที่เป็น

จนมันกลบความเห็นชัดแห่ง สติ สมาธิ ปัญญา และความรู้สึกต่างๆที่มากระทบอายตนะแห่งตัวตน ที่ผัสสะ ทางตาหูลิ้นฯ

ใจที่ยอมจำนนต่อกระแสความตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มันเห็นชัดว่าต้องจากต้องตาย

สติระลึกได้ มันแยกตัวมาดูมารู้ เกิดปัญญาขึ้นมาว่า จิตเจ้าของนี้ กำลังไหลไปทาง วัตถุ สัตว์ บุคคล สิ่งของที่ได้แสวงหามา

และระลึกรู้ได้ว่า หากตายลงตอนนี้ ตนต้องใหลไปตามกระแสอุปาทานที่ยึด วิญญานเมื่อละจากกายนี้ มันต้องไปก่อรูปเป็นสัตว์แน่

มีสติรู้ แต่นึกอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ กระแส วัตถุ บุคคล สัตว์สิ่งของ ที่โดนย้อมว่าของกูๆๆ มันรุนแรง มันรู้..แต่ต้านไม่ได้

เหมือนตอนที่เขามีกำลัง หลายอย่างก็รู้ แต่ต้านไม่ได้ เพราะมีตัวกูจะทำซะอย่าง นี่..มันย้อมมาอย่างนี้ ปลายชีวิตมันก็ให้ผลดั่งที่ย้อมใจมาเช่นนี้เหมือนกัน

มีเสียงแว่วมาว่า นึกถึงพระอาจารย์ๆๆๆๆๆ

สายใยแห่งความเป็นผู้ศรัทธาพระอาจารย์ มันถักก่อให้เห็นท่อนไม้ที่ลอยเคว้งคว้างท่ามกลางทะเลใหญ่ ที่เจ้าของกำลังจะจมหาย

เจ้าของคว้าไม้นั่นไว้ คว้าไว้พอพยุงตัว เรียวแรงแห่งสติก็เริ่มมีมา เขาระลึกได้ว่า

พระอาจารย์เคยกล่าวไว้ว่า กระแสที่ย้อมใจหนักไปทางใด ผลแห่งกระแสย่อมพลัดพาเจ้าของใหลลงไปท่ามกลางกระแสแห่งการย้อมใจเช่นนั้น

เขาระลึกได้ว่า ช่วงเวลาสั้นๆ เขาได้ย้อมใจดวงนี้ด้วยความศรัทธาต่อพระอาจารย์

สายใยแห่งความศรัทธาต่อพระอาจารย์ มันยังถักทอสายใยอยู่ภายใน เป็นแต่ใจดวงนี้มันเกิดความไม่พอใจ มันเอาตัณหาความไม่พอใจ มากลบสายใยแห่งใจ ที่มันมีศรัทธา

เมื่อระลึกนึกถึงพระอาจารย์ สายใยที่ตรึงไว้มันซ่านไปในกระแสในหนทางแห่งทาน เขาเคยศรัทธาและมีทาน

มีสัญญาย้อมใจดวงนี้ ให้เต็มไปด้วยความทรงจำแห่งการได้สละทาน ต่อผืนแผ่นดิน เขาระลึกได้แล้ว

สายใยแห่งทาน มันถักทอโยงใยเป็นสายใยดุจใยแมลงมุม ปลายทางแห่งสายใยที่นำเขาออกไป เขาเห็นแล้ว

นั่น..เป็นเรื่องเฉพาะตัว เขาหลับตาลง และเขากำลังจะตาย สิ่งที่เขาจำความและพอจะภูมิใจได้ นั่นก็คือ….

เขาเคยได้มาช่วยแบกหินทราย เพื่อช่วยสร้าง องค์พระพุทธะบุญญพลัง

แค่เพียงครั้งเดียว แค่เพียงครั้งเดียว ที่เขาเคยมา เขาบ่นบอกกับภรรยาว่า ความทรงจำที่เขาพอจะจำได้

คือเขาได้ช่วยพระอาจารย์แบกหินทราย เพื่อมาเทหล่อฐานเพื่อสร้างองค์พระ เพียงแค่ครั้งเดียว และวันเดียวที่ได้มา

ภรรยาเขาบอกว่า สามีเขาจากไปด้วยรอยยิ้มแห่งน้ำตา เขาจากโลกไปอย่างมีคุณค่า ที่ชีวิตนี้ เขาได้บันทึกสัญญา ที่ได้กระทำไว้ต่อแผ่นดิน

ศพเขา…ไร้วิญญาน แต่ศพเขามีรอยยิ้มที่บรรเทาความเศร้าโศกของเหล่าผู้ใกล้ชิด ว่าชีวิตหบังความตายของเขา ไปสู่สุคติแน่นอน

เขาจากไปแล้ว ข้าแค่นำมาเล่าให้ฟัง และคนๆ นี้ ที่ข้าได้ทำการเยี่ยวใส่เบาะรถหรูของมัน ไม่นึกว่า นับจากเยี่ยวใส่ จนมาถึงวันนี้ มันได้ตายจากผืนแผ่นดินนี้ไปซะแล้ว

มันตายไปมันเอาสมบัติอะไรไปไม่ได้เลย สิ่งที่มันจำได้ และพอเอาไปเป็นเครื่องเกาะพยุงจิตได้

ว่ามันได้ทำงานแบกหินทรายชดใช้ แค่ครั้งเดียว ใจมันก็ไปสู่สุคติ โอเควะ จะคุยเรื่องคนรวย ดันมาออกเรื่องเจ้าสาโรจน์มัน มันตายไปหลายเดือนแล้ว

11 พฤศจิกายน 2558