มีคนถามข้ามาว่า รกแมวถือเป็นของอวิชชาไหมคร
ข้าตอบว่า รกแมว ก็คือชิ้นส่วนหนึ่งของแมว ที่เกิดจากการคลอดลูกแมวแล้ว มันก็คือของที่จะต้องเหม็นเน่าเสื่อมสลาย ไม่ได้ให้โทษภัยหรือ คุณธรรมใหญ่หลวงให้แก่ใคร
ทั้งไม่ได้เป็นอวิชชา ของดี จัญไรอะไรกับใคร
มีแต่ใครๆ เท่านั้นที่ยัดเยียดยืนยัน ว่ารกแมวเป็นอย่างนั้นเป็นอ
อวิชชาเกิดจากความโง่ของคน อวิชชาไม่ได้เกิดจากรูปทรงท
และเขาถามว่า จำเป็นไหมที่เราจะตั้งพระพุ
ข้าตอบไปว่า หันไปตามเหตุปัจจัยที่ดูแล้
หากหันไปทางทิศตะวันออก จะรุ่งเรือง อะไรพวกนี้ นี่เป็นสมมุติที่ตั้งขึ้นมา
คนเราจะสุขจะทุกข์ ใช่อยู่ที่ทิศทางของการตั้ง
แต่ทุกข์สุขทั้งหลาย เกิดจาก เหตุปัจจัยที่เราสร้างกระทำ
พระพุทธรูปเป็นเครื่องยืนยั
มีคำถามมาอีกว่า…การท่องค
ข้าตอบไปว่า มันเป็นความเชื่อ เอาคาถาเหล่านี้ มาเป็นที่ตั้งแห่งใจ ท่องน่ะท่องได้ แต่ไม่จริง คาถาเหล่านี้ เป็นคำบาลี เป็นนิทานบ้าง เป็นการอ้อนวอนบ้าง เป็นการสาธยายคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์บ้าง
หากได้แปลออกมา จะเห็นว่า ไม่เกี่ยวกับอะไรที่จะมาห้า
นี่ว่ากันตามความจริง
แต่ที่ท่องๆกัน มันไม่รู้ความหมาย และคำแปล ใจมันเชื่อว่าช่วยได้ ถ้ารู้ความหมาย มันก็จะไม่เกิดความขลัง เมื่อความขลังไม่มี กำลังใจมันจะตั้งมั่นมันก็น
ความไม่รู้นี้ เป็นความเชื่ออย่างหนึ่งว่า
เพียงแต่เป็นความดีอย่างไสย
คาถานี่ มันเป็นสมมุติอย่างหนึ่ง ไว้ท่องเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิ
ยันต์มหามนต์ที่สลักไว้ข้าง
นี่..ความหมายของมหายันต์ พอรู้ความหมาย ก็เลยอมยิ้มและขำกลิ้งในควา
ข้าเองนี่ จอมคาถาเลยก็ว่าได้ เรียนรู้มนต์มาหลายตัว ผีบอกมาก็มี คนบอกมาก็มี พญานาคบอกมาก็มี เทวดาบอกมาก็มี
เวลาต้องเผชิญ ใช้แล้วได้ผลก็มี ไม่ได้ผลก็มี ในบทเดียวกันนั่นแหละ เคยโดนกระทำ เรียกว่าโดนของก็เคย ข้าแก้ของข้าเอง
ได้ผลก็มี ไม่ได้ผลก็มี จึงรู้ว่า มันไม่ได้แน่นอนอะไรเลย และที่สำคัญ มันไม่เกี่ยวกับบทมนต์ ที่ได้ผลมันเกิดจากจิตที่มี
เครื่องรางของขลังก็เช่นกัน
ข้านี่ เชื่อมั่นมาก รวมทั้งเขี้ยวเสือด้วย ไปไหนต้องพกพาไปด้วยละ เพราะผีมันสั่งไว้ ข้าเจอของข้าจริงๆ
เวลาเข้าป่าเข้าถ้ำข้ามีของ
แค่โดนแตนต่อย วิ่งกันน้ำบาน ยังปกป้องไม่ได้ แล้วจะไปป้องกันภัยอะไรที่ห
ที่จริงเจ้าของมันเอง ก็โดนยิงตีแปลงมาทั้งนั้น จึงเอาเขี้ยวเอาเล็บมันมา มันยังป้องกันชีวิตเจ้าของย
มันจะดียังไงมันก็มาจากของพ
วก เดรัจฉานทั้งนั้น เป็นคนแล้วยังหวังพึ่งเดรัจ ฉาน นี่..ใจก็เลยวาง
จากนั้น ยามเผชิญ ข้าก็เลยใช้การพิจารณา เอาปัญญาเข้ามาเป็นที่ตั้งแ
พวกของขลัง พวกคาถา ใช่ว่าจะไม่ดี หรือใช่ว่า พอรู้งี้ จะไม่เอา ตราบใดใจเจ้าของยังไม่แกร่ง
ตราบนั้น สิ่งเหล่านี้ ก็ยังเป็นที่ยึดมั่น เป็นที่ตั้งแห่งใจ เพื่อความมั่นใจและช่วยให้ เรามีกำลังฝ่าฟันอุปสรรคใดๆ
เพราะเป็นธรรมชาติแห่งใจ ที่ต้องมีอะไรไว้ใช้ไว้ยึด หากไม่มีที่ยึด ความตั้งมั่นในใจ มันก็ไร้กำลังที่จะต้านอะไร
เกิดมาแล้ว ยังไงก็ต้องมีเครื่องยึด ตามธรรมชาติจิต เพียงแต่สิ่งที่จะยึด มันจะมาทางไหน หากยึดด้วยความไม่รู้ ก็มาทางไสยะ หากยึดด้วยปัญญา ก็มาทางพุทธะ
ทั้งไสยะและพุทธะ มันก็เกิดมาจากใจดวงเดียวกั
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง