ความจริงซ่อนเร้น ที่ไม่เคยเห็นแม้ตั้งอยู่เบื้องหน้า

ความจริงซ่อนเร้น ที่ไม่เคยเห็นแม้ตั้งอยู่เบื้องหน้า

1249
0
แบ่งปัน

ที่นี่มีสัตว์เลี้ยงมากมาย หลายอย่าง ครั้งหนึ่ง เมื่อย้อนไปในสมัยเด็กๆ ข้านี้ซนเหลือหลาย

หากไม่ไปเรียนละก็ เป็นได้เข้าป่ายิงนกตกปลา

บางครั้งก็หนีเรียนไปยิงนกหาปลาอยู่ในทุ่งกว้างโน่น

ไปมันเรื่อย ใจมันชอบความสนุกที่อิสระ ไม่อยากอยู่ได้ภาวะกฏระเบียบอะไรเท่าไหร่ คนเดียวข้าก็ไป

นกตัวเล็กๆ ข้าก็ยิงด้วยด้วยหนังสติ๊ก เอามาถอนขนย่างกิน ในเป๋าเสื้อกางเกงนี่ มีแต่ศพนก

ข้านี่ยิงแล้วกินทุกตัว ผู้ใหญ่บอกว่า ถ้าฆ่าสัตว์ไม่เอาไปกินแล้วนี่ จะบาปมาก

โตขึ้นหน่อย ก็แอบซื้อปืนมายิงสัตว์ใหญ่ขึ้น ยิงกระรอก กระจง หมู เก้ง เลียงผา เจอเมื่อไหร่ ยิงทั้งนั้น มันเสพติด อาทิตย์ไหนไม่ได้ซัดซักโป้งแบ้วมันหงุดหงิด

ยิงเพื่อเอาไปอวดว่า นี่..ฉันมันคนเก่ง สามารถเข้าป่าหายิงสัตว์ได้ ข้านี่ แสนจะชอบใจ ว่างเมื่อไหร่ เข้าป่าล่าสัตว์

ชีวิตที่ผ่านมา มันขาดเมตตาต่อสัตว์โลกซะจริงๆ มันกระทำไปโดยไม่รู้เลย ว่าสิ่งเหล่านี้ มันเป็นบาป

แต่มันก็ได้กระทำไปแล้ว มันทำไป โดยไม่นึกด้วยซ้ำว่า นี่เป็นการพรากชีวิตผู้อื่น

นี่เพราะเราเห็นว่า สิ่งเหล่านี้ที่เราพรากที่เราฆ่านี่ มันเป็นแค่สัตว์ มันมีชีวิตเพื่อหนีการไล่ล่าของเรา

เมื่อกาลผ่านเลยมาจนถึงปัจจุบัน ข้าได้ย้อนรอย ระลึกไปถึงความแต่หนหลัง

เบื้องหน้าข้าคือกวาง ที่แสนเชื่อง

มันยืนเอียงคอเพื่อให้ข้าเกาคางมัน มันช่างน่ารัก มันมีชีวิตน่าโสภาต่อโลก ไม่ได้มีพิษมีภัยต่อผู้ใด

สายตาที่มันมองมา มันมองอย่างไร้เดียงสา ไร้มายาต่อสิ่งรอบข้าง

มันรู้ว่า ที่นี่ปลอดภัย ที่นี่ ไม่มีอันตรายใดๆสำหรับชีวิตมัน ข้าไปยิงมันได้ยังไง ทำไมมองไม่เห็นความน่ารักที่บริสุทธิ์ของชีวิต

เจ้าไก่ป่าหูขาว เดินมาแหงนหน้ามอง โกร่งคอขันลำพองแล้วเถๆอยู่ใกล้ๆ

เจ้านกยูงขาว มองเอียงคอยืนดูด้วยความสงสัย คงสงสัยว่าในมือข้า มีไข่ต้มที่มันเคยได้กินจากมือบ่อยๆ รึเปล่า

เจ้ากระรอกป่าหางเป็นพวง กระโดดโลดเล่นไปมา หลายสิบตัว ตรงที่ให้อาหาร มันเอามือสองมือประคองเมล็ดข้าวโพด ที่วางกองไว้

เคี้ยวตุ่ยๆๆ สองแก้มโป่งพอง มันกินอย่างมีความสุข ไม่กลัวข้าที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เลย

นกบินหลา กิ้งก่าหัวสีฟ้า ไก่แจ้ ไก่งวง แพะ กวาง นกกระจอกเทศ กระต่าย หมา และหลากหลายสัตว์ มันมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข

ทำไมเราจึงมองไม่เห็นความน่ารัก ที่แสนบริสุทธิ์ของสัตว์ทั้งหลายเหล่านี้ ในสมัยก่อน

เราฆ่ามันด้วยความคะนองเมามัว ด้วยความเพลินและให้คนได้ชื่นชม เราเอาชีวิตที่เขาหวงแหน และบริสุทธิ์ มาบำเรอความอยากแห่งตัณหาเรา

เรา..มองไม่เห็นความจริงอันเป็นจริงตรงหน้า ข้อนี้เลย นี่..ความเห็นแก่ตัวที่น่าสะอิดสะเอียนของมนุษย์

สัตว์เหล่านี้ต่างรักชีวิตตนเอง เหมือนที่เรารักชีวิตเรา

มันช่างโหดร้ายมาก ที่เรา ไปปลิดชีวิตเขา มาดูซิ มาดูใกล้ๆ ว่าชีวิตเขา มันก็เหมือนชีวิตเรา

มันอยากมีความสุข อยากมีความรัก รักชีวตตนเอง และไม่อยากให้ใครมาทำลายชีวิตเขา

ข้าขอโทษจริงๆ ที่สมัยก่อน มันได้ไปเบียดเบียนชีวิตของสัตว์หลายชีวิต

มันนึกไม่ถึงและมองไม่เห็น แต่เมื่อทำไปแล้ว ข้าก็ต้องขออภัย จะให้ชดใช้อย่างไร ข้าก็ยอม

ทุกวันนี้มันมองเห็นความเป็นจริงของชีวิต เป็นความจริงที่มองเห็นกันจริงๆ

ไม่ใช่มองเห็นอย่าง กูรู้แล้วว่ามันเป็นของมันเช่นนี้ แต่กูก็ยังทำ ทำเพราะกูรู้แล้วแบบเปลือกๆ

ท่านเอ๋ย..ชีวิตเขาชีวิตเรา ถ้าหากยังหยาบๆ ในการมองเห็นเส้นทางการเป็นอยู่ของชีวิต ว่าสัตว์มันเป็นแค่อาหาร เอาแต่ความคิดความรู้สึกตน

ไม่มองเห็นตรงตรงตามความเป็นจริง ชีวิตนี้ ท่านจะทุกข์ เป็นทุกข์ จากตัณหาที่ก่อเกิดจากใจดวงนี้ โดยไม่รู้จบ

มุทิตาจิตมันเกิดได้ ก็ด้วยการเห็นจริง ประสบจริง รู้จริงด้วยรอบของปัญญา

นี่..การอยู่ป่า การถือธุดงค์ มันมีคุณ มันเป็นสมาธิ มันเป็นปัญญา ให้พิจารณา รอบรู้ด้วยผัสสะ ที่เกิดตรึกตรอง และได้ย้อนไปมองความเป็นจริง

ที่ตัวเรา ได้กระทำทั้งดีเลวต่ำทรามและสูงส่ง ว่ามันเป็นธรรมดาของปุถุชน ที่ยังหยาบหนา ไม่มีดวงตามองเห็นความเป็นจริง ที่มันเป็นธรรมดา

เรามองธรรมดาของสรรพสิ่งไม่เห็น เราจึงเป็น เจ้าของสรรพสิ่งด้วยความคิดในอัตตาแห่งเรา ที่กระทำลงไป

วันนี้..ขอชดใช้ ให้แผ่นดินและสรรพสัตว์น้อยใหญทั้งหลาย

วันนี้..ขอให้ท่านทั้งหลาย พึงมีดวงตาเห็นธรรมกันทุกคน เราจะได้เห็นความจริงกัน ว่าเราทั้งหลายนี่ ช่างเลวร้ายต่อสรรพสิ่งทั้งหลาย อย่างน่าสะอิดสะเอียน

เหมือนที่ข้าเห็นความน่าสะอิดสะเอียน การกระทำเบียดเบียนพรากชีวิต ต่อสัตว์ทั้งหลาย ด้วยความคิดและอัตตาของตนเอง

แล้วเรา จะไม่กล้าพรากชีวิตใครอีกต่อไป แม้แต่มดตัวน้อยๆ..!!!

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง ** สิทธิแห่งความคิดเห็น ในเรื่องมุมมอง** ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง