รอยพระพุทธบาท กับความเชื่อเมื่อเห็นรอย

รอยพระพุทธบาท กับความเชื่อเมื่อเห็นรอย

515
0
แบ่งปัน

คำถาม : พระอาจารย์ช่วยวิเคราะห์กลุ่มคนที่เชื่อเรื่อง

รอยพระพุทธบาทว่าน่าเชื่อถือรอยเท้านี้ได้
ขนาดไหนเป็นความจริงหรือที่พระพุทธองค์
เคยมาย่ำพระบาทแถบสุวรรณภูมิ รอยนี้พึ่ง
พบที่บุรีรัมย์ล่าสุด….(ผมไม่เคยเชื่อเลยครับ)
กรามนมัสการพระอาจารย์ครับ

อาจารย์ตอบ : รอยพระพุทธบาทนี่ ทุกที่ ถือว่าเป็นสมมุติ

เป็นตัวแทนขององค์พระบรมครู กราบได้สนิทใจได้ทุกที่ ถ้าเราคิดว่า นี่คือรอยพระพุทธบาท

เราไม่ได้กราบรอยตีน แต่เรากราบเพื่อเจริญรอยตามเบื้องบาทแห่งพระพุทธองค์

รอยพระบาททั้งหลาย เกิดจากคนทำขึ้นมาทั้งนั้น ผู้มีศรัทธาทำกันขึ้นมา เพื่อเป็นที่ตั้งแห่งใจ ว่าขอเจริญรอยไปตามเบื้องบาทแห่งพระพุทธองค์ เพื่อก้าวเข้าสู่นิพพาน

พุทธนี้ ชี้ชัดถึงความมีปัญญา รอยตีนใคร มันจะใหญ่ผิดไปจากความเป็นจริงขนาดนั้น เป็นไม่มี

ที่มีก็ทำขึ้นมา ทึกทักตามความเชื่อที่ตีบตัน สมองกลวงและไปไม่ถึงความเป็นจริง

แม้จะทรงอภิญญา เพื่อจะประทับรอยพระพุทธบาทเอาไว้

ร่องรอยนั้น ก็จะเป็นรอยพระบาทอย่างชัดเจน ของรอยเท้าแห่งสัตบุรุษ ด้วยอำนาจแห่งอภิญญา

ขนาดรอยเท้าสัตว์อย่างไดโนเสาร์ ที่มันประทับรอยมาเป็นล้านๆปี

รอยมันยังเด่นชัด และรู้ว่า นี่เป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์ชนิดไหน

นี่เป็นรอยพระบาทของพระบรมครู บางที่ยังต้องมานั่งตีความ ไหนเท้าซ้ายไหนเท้าขวา ไหนหัวแม่ตีนไหนนิ้วก้อย จินตนาการกันมั่วไปเลยก็มี

เพื่อโน้มเอียงและแทรกความคิดลงไปให้ได้ ว่ารอยคล้ายๆตีนนี้ เป็นรอยพระบาทแก่งพระพุทธองค์

ธรรมะแห่งพระพุทธองค์ยังชัดเจนชัดแจ้ง

หากรอยเท้ายังคลุมเคลือ มีแต่ความเชื่อว่า นั่น นู่ นี่ ด้วยการตีความ มันก็งมงายแล้ว

สถานที่ ที่มีรอยพระพุทธบาท อาจเกิดจาก พระบรมครูท่านได้เคยเสด็จไปโปรดชาวเมืองหรือชาวบ้านแถบนั้น

ผู้มีความศรัทธาในพระพุทธองค์ ก็คงแกะสลักเพื่อระลึกถึง เพื่อเป็นที่ตั้งแห่งใจ ดั่งเรากราบพระพุทธรูป หรือสร้างพระพุทธรูปไว้เป็นตัวแทน

เป็นตราสัญญาลักษณ์ ว่า สถานที่ตรงนี้ หรือที่นี่ แถบนี้ พระพุทธองค์ได้เคยเสด็จมาโปรด

หรืออาจเป็นการสร้างขึ้นมา เพื่อเป็นกุศโลบาย ขยายเขตแดนพระพุทธศาสนา หรือเพื่อน้อบน้อม เจริญรอยตาม เบื้องยุคลบาท ตามรอยพระบาทแห่งพระพุทธองค์

แผ่นหินนั้น เราแกะสลักลงไปได้ สร้างได้ทำได้ เป็นความหมายทางกุศโลบาย ไม่ใช่เครื่องมือพ้นทุกข์

หากงมงาย นอกจากจะไม่พ้นทุกข์ เมื่อตายไป อาจได้เกิดมาเป็นสัตว์เฝ้ารอยเท้า ที่แกะขึ้นมา เพราะความยึดหลงเป็นเหตุ

ขอขยายต่ออีกหน่อยว่า.. แม้ทางพราหมณ์ ทางฮินดูหรือลัทธิบางเผ่าในป่าทางออสเตเรีย บาร์ซิล หรือทางลุ่มน้ำอเมซอน แม่น้ำยูเฟนตีส ไทคริส บริเวรเมโสโปรเตเมีย ทางกรีก

ในทางประวัติศาสตร์ต่างก็พบรอยเท้า ที่แกะสลักลงไปในหิน โขดหินใหญๆ ผนังถ้ำ

นี่..หากเป็นไทยเรา เราก็ต้องว่ากันว่าเป็นรอยพระพุทธบาทกันยันเต เพื่อเตรียมตัวหาตังค์ หาศรัทธา เรียกให้ฝูงชนมางมงายรอยตีนอันไม่รู้เหตุ อันประทับอยู่บนโขดหิน ในถ้ำ ผนังถ้า แม้แต่เพดานถ้ำ มันก็ยังไปเสือกถ่ายรูปมาให้ดู ว่านี่เป็นรอยพระบาท ของพระพุทธเจ้า ประทับไว้กลางเพดานถ้ำ

นี่..พวกหลากจิตนาการ งมงายและทำตัวเป็นผู้มีบุญเชิญชวน พวกคลั่งใคล้รูปวัตถุ มาร่วมสักการะบูชา กับผู้มีบุญที่เฝ้ารอยตีนในจิตนาการ

ข้าพูดเช่นนี้ มันคงได้ด่าข้าอีก ว่าดูหมิ่นลบหลู่ความเชื่อคนที่เขาศรัทธา นี่..พวกโต่งขวาโต่งซ้าย ทำลายความเชื่อมัน มันไม่ชอบขี้หน้า

ในทางพราหมณ์เอง หรือบางลัทธิชนเผ่าในป่า หรือพวกบ้าประติมา เพื่อความสำเร็จผลอะไรซักอย่าง ต่างก็แกะสลักรอยเท้าลงบนหิน บนภูผา เพื่อเป็นสัญญาลักษณ์

ทางพราหณ์เรียกว่า รอยพระวิษณุบาท ทางเผ่าในป่าแถบออสเตเรียเรียกว่า ฝ่าบาทแห่งเทพเจ้า

พราหมณ์นี่ เขามีประวัติยืนยาวมาหลายพันปี เขาแกะสลักรอยเท้าแห่งพระผู้เป็นเจ้าของเขาไว้เยอะ

แถบเขมรแถบอิสาน กินมาถึงภาคกลางเรา แถบนี้ เป็นอธิพลของศาสนาพรหมณ์ทั้งนั้น

ถ้าทางภาคใต้นู่ ส่วนใหญ่นับถือผี อย่างหลวงปูทวดนี่ คำว่าหลวง ทางใต้หมายถึง ยิ่งใหญ่ พี่ใหญ่ มีบารมี เจ้าเมือง อะไรอย่างนี้ เหมือนๆคำว่าพ่อหลวง ทางภาคเหนือ

พระที่บวช ทางใต้เขาก็เรียกว่า หลวงเจ้า หรือเจ้าหลวง แสดงถึงความเป็นนักบวช ผู้บวช ผู้บริสุทธิ

หลวงปู่ หรือหลวงพ่อทวดนี่ เป็นชื่อเรียก ผีบรรพบุรุษ แถวพังงาอย่างครอบครัวข้าดั้งเดิมนี่ นับถือ ตาหมอเฒ่า

ตาหมอเฒ่านี่ก็คือ ทวด จะเรียกว่าหลวงทวดก็ได้ หลวงทวดนี่เป็นผีบรรพบุรุษที่ผ่านร่าง เพื่อรักษาโรคต่างๆ หรือรักษาเวลาโดนของโดนคุณไสย โดนผีเข้าอะไรอย่างนี้

ของหาย ควายไม่ออกลูก เป็นเอดส์เป็นมะเร็ง เป็นใข้หวัดนก เป็นโรคห่าเหวอะไรก็ได้ ปูทวดเป่าพรวดเดียว หายเกลี้ยง

นี่..เป็นความเชื่อของคนถือผี ถือร่างทรง ขวางหรือพูด้วยเหตุด้วยผลไม่ได้ ผีโกรธ ที่จริงเจ้าร่างทรงนั่นแหละโกรธ โกรธที่ไปทำลายความงมงายที่หนาแน่นแกะออกอยากของเขา

ส่วนหลวงปู่ทวดทางวัดช้างให้ นั่นปู่ทวดผ่านร่างพระ รักษาคนใด้ เราจึงได้หลวงปู่ทวดในรูปของพระ

ส่วนประวัติก็ว่ากันไป เพราะต่างก็เกิดไม่ทัน แต่ที่แน่ๆ พวกพ่อค้าพระเครื่อง รวย

รอยพระบาทนี่ก็เป็นความเชื่อเหมือนกัน พระเกจิอาจารย์บางรูป พอมีชื่อเสียงทางปฏิบัติเข้าหน่อย คนนับถือเยอะ

ดันไปให้นิยามทางความคิดความรู้สึกทึกทักเพื่ออวดตนอีกว่า นั่น นู่น นี่ เป็นรอยเท้าของพระพุทธเจ้า พาลูกศิษย์ลูกหา มาทำพิธี อ้างโน่นอ้างนี้เพื่อให้เกิดความขลัง

ใครขออะไรก็จะได้สมดั่งความปรารถนา จะร่ำรวย จะเจริญ คนชอบกันอยู่แล้วเรื่องงมงาย ที่ลูกพี่แกแต่งเรื่อง ต่างคนก็ต่างเอาตังค์มาถมรอย แต่ถมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม

เจ้าของที่ คนเฝ้าต่างก็สบายแฮ อาศัยรอยตีนเลี้ยงชีพด้วยความศรัทธาที่ตนชี้มา ให้เกิดความงมงาย

ข้าพูดอย่างนี้ มันก็ขวางตีนคนที่เชื่ออย่างหัวทิ่มหัวตำอีก อย่าว่าแต่คนเลย ผีที่เฝ้ารักษารอยตีน มันยังเชื่อเลย ข้าเองนี่เคยเจอผีเฝ้ารอยตีนมาหลายรอย

เมื่อย้อนลึกลงไปถามผีว่า ที่มาเป็นเทวดาเฝ้ารอยตีนนี้ และบอกว่าเป็นรอยพระพุทธบาท นี่เป็นรอยพระบาทพระพุทธเจ้าจริงๆ ที่รู้เห็นกับตาประสพด้วยตนเองรึ

ผีบอกว่า พ่อเขาและใครๆก็บอกว่านี่ เป็นรอยพระบาท มาตั้งแต่เขายังมีชีวิตอยู่ตอนมีร่างเป็นมนุษย์

นี่..ข้าเจอมาอย่างนี้ แม้แต่ผีที่เฝ้า ยังเชื่อตามๆเขามาแล้วบันทึกไว้ ว่ารอยเหล่านี้ เป็นรอยพระพุทธบาท

ใครมาเจออย่างข้า มันก็มึนเหมือนกันกับความเชื่อ ที่เอาแต่ผลมาเป็นสรณะ

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ข้าก็กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ แม้รอยเท้านั้น จะเป็นรอยตีนควาย

แต่ถ้าโลกเขาสมมุติว่า นี่คือรอยเท้าอันเป็นรอยตัวแทนแห่งพระพุทธองค์ ข้าก็ก้มลงกราบ กราบอย่างสนิทใจเหมือนกราบ พระพุทธรูปทั้งหลายที่ข้าเคารพเลยทีเดียว

แม้สิ่งเหล่านี้ จะเป็นวัตถุ อิฐ ปูน ทองเหลืองทองแดงก็ตาม แต่มันเป็นวัตถุ ที่เป็นตัวแทน เป็นเปลือกอันรักษาเนื้อเยื่ออันเป็นสัจธรรม ขยายกาลเวลาแห่งพุทธศาสนา ให้ยืนยาว

นี่..กราบอย่างไม่ได้งมงาย แต่กราบอย่างงมงายตามโลกที่เขางมงายนิยม

ว่ากันพอหนุกหนานแค่นี้นะ ไม่ว่างซะแล้ว

พระธรรมะเทศนา ถามตอบในเฟสบุ้ค วันที่ 20 กรกฏาคม 2559 โดยพระอาจารย์ ธรรมกะ บุญญพลัง