คนมีธรรมต้องพูดเพราะ

คนมีธรรมต้องพูดเพราะ

980
0
แบ่งปัน

นี่… ไอ้น้องมันเอาหนังสือพุทธวจนะมาให้อ่านปึกเบ่อเร่อ

มันบอกว่าข้านี้ชี้ผิด ต้องชี้ธรรมตามพระโอษฐ์ มันถึงจะถูก

อีกพวกมาบอกว่า ข้านี่พูดหยาบ รับไม่ได้กับภาษาและคำพูด

ไอ้เรื่องภาษานี่ กับเพื่อนรักข้าก็พูดกันอย่างนี้ แต่ถ้าจะหลอกเอาตังค์นี่ ข้าพูดเพราะ จะเป็นเพื่อนรึเปล่า ถ้าไม่ใช่เพื่อน กูจะหลอกเอาตังค์มึง เดี๋ยวจะไปเปิดอีกเพจหนึ่ง เป็นเพจหลอกแดกตังค์ พูดเพราะๆ

ข้าเองนี่ ไม่ได้ปฏิเสธธรรมในหนังสือตำราอะไรหรอก เพียงแต่ข้าไม่ก๊อปเอาธรรมจากตำรามาฟาดฟันใคร หรือดูถูกภูมิปัญญาใครว่า

“หากไม่ใช่ธรรมจากพระโอษฐ์แล้วมันเป็นธรรมแห่งจัญไร ไม่ใช่ธรรม ”

ข้ามีน้องๆ ที่ศึกษาและรักพุทธวจนะมากมายหลายคน ก็ไม่เห็นว่า เขาจะมีตัวตนหรือยัดเยียดธรรม ว่าต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้เลยนี่หว่า

ทุกคนต่างก็มีการศึกษา รู้และฟังไปตามกำลังแห่งปัญญา อะไรผิดถูก เขาก็ตัดสินใจด้วยตัวของเขาเองได้

ไม่ใช่ต้องให้ใครมายัดเยียด ว่านั่นใช่นี่ไม่ใช่

ไอ้ห่า….!!! มัวยัดเยียดว่านั่นใช่นี่ไม่ใช่

นี่…มันแสดงความเป็นตัวตนที่เป็นสมุทัยทั้งแท่งนี่หว่า

การแตกแยกแห่งธรรมมันก็กระจายตัว คนมันเสือกไปเป็นเจ้าของพุทธวจนะ

มายัดเยียดว่านั่นใช่นี่ไม่ใช่ นี่มันเป็นการแสดงออกทางอัตตาตัวตนอย่างน่าสมเพช

มันมีดีแค่อ่านตามที่เขาว่ามา มีตรงที่ค้นหาข้อความจากหนังสือ

แต่ไอ้ห่าพวกนี้ มันไม่มีปัญญาวิเคราะห์ธรรมอะไร ได้ตรงตามความเป็นจริงที่เป็นธรรมอะไรเลย

ธรรมลึกๆ มันต้องมีผู้อธิบาย ขยายความให้เข้าใจและชัดเจน

ธรรมทั้งหลายมันมีกาลซ้อนๆ ทับกัน มันไม่ใช่เป็นของตายที่ใช่และตายตัว

กาลหนึ่งถูก แต่อีกกาลมันไม่ถูก

ไม่งั้นมันก็เป็นธรรมที่ขัดกับกฏอนิจจัง

พุทธศาสนาชี้ให้เห็นความเป็นอนิจจัง

แต่เจ้าพวกยึดธรรม มันยัดเยียดให้เป็นธรรมแห่งอัตตา

มันบอกว่า นี่พระพุทธเจ้าพูด มันเชื่ออย่างไม่ถอดถอนเลยจริงๆ

หนังสือพุทธวจนะที่หลายคนเอามาให้นี่ คนไทยมันเขียน และไปลอกเขามา

และคนไทยอีกนั่นแหละที่แปลจากเขามา แล้วมาอ้างว่านี่เป็นธรรมจากพระโอษฐ์

ไอ้ห่า ภาษาไทยแท้ๆ มันแปลออกมาตามวิสัยภูมิของผู้แปล

ถ้าผู้แปลเป็นพระอรหันต์เจ้ามาแปล ข้าจะไม่ว่า

แต่นี่ไอ้ห่า มีภูมิธรรมที่จำมาแปล เท่าที่ร่ำเรียนมา

อธิบายเชิงลึกภาษาแห่งธรรม มันยังแปลและเข้าไม่ถูก นี่ว่ากันอย่างป่าๆ

นี่..พระพุทธเจ้าพูด แสดงว่าไอ้คนแปล มันเป็นพระพุทธเจ้า

เพราะมันแปลจากภูมิปัญญาของมันที่เรียนมาจากตำราที่มันจำมาอีกที

ถ้ามันเข้าถึงธรรมแล้วมาแปลธรรม เออ..อย่างนี้ซิ มันค่อยน่าฟังน่าเชื่อถือหน่อย

อย่างน้อยมันก็พอรู้กาลและเข้าใจความหมายลึกซึ่งแห่งธรรมกันบ้าง

เอะอะก็พระพุทธเจ้าพูดๆๆๆๆๆ มันจะบ้ากันไปใหญ่

พุทธะท่านชี้สอนให้เข้าใจ ไม่ได้ยัดเยียดให้ใครต้องเป็น อย่างที่ตนต้องการให้คนอื่นเป็นซักหน่อย

เก่งเพราะคำจากพระโอษฐ์ ก็เก่งกันในกลุ่มคนบ้าคำจากพระโอษฐ์ไปซิ

ไปถกเถียงกัน ไปชี้สอนกันในกลุ่ม ข้านี่อ่านคำพุทธวจนเพื่อชี้ใจ ไม่อ่านเพื่อยกเป็นอาวุธพระสูตรไปบังคับใคร

อย่าได้มาเอาคำเหล่านี้ไปฟาดฟันใคร ว่าอะไรๆ ก็ไม่ถูกไม่ใช่ธรรม หากไม่ใช่คำจากพระโอษฐ์

ไอ้เหี้ย..คนมันแปลออกมาเป็นภาษาไทย มันจะใส่ยังไงก็ได้ ตามภูมิแห่งปัญญาตน

ไอ้ที่ตื้นๆ มันก็เข้าใจกันไป แต่ไอ้ที่ลึกๆ มันเข้าไปไม่ถึง

อ่านหนังสือแล้วบรรลุ ข้านี่โง่ชิบหาย มาฝึกปฏิบัติทำไมให้ลำบาก

อยู่บ้านเย๊ดเมียแล้วนั่งอ่านนอนอ่าน ก็เข้าถึงบรรลุได้ ง่ายกว่ากันเยอะ

ไอ้เหี้ย..ข้านี่ยิ่งโดนคนเขาด่าว่าพูดจาหยาบคายไม่เพราะอยู่ด้วย

เป็นพวกสันดานดิบ พูดจาไม้ถูกหูใคร

ไหนๆ พวกมันก็ด่าก็ว่า ยกย่องว่าข้านี่ พูดจาหมาไม่แดกอยู่แล้ว

เป็นพวกเลวสถุนต่ำช้า ถึงไม่ว่าข้าก็ยอมรับอยู่แล้ว จึงพูดจึงเขียนได้อย่างสบาย

ไม่ต้องมานั่งเกร็งไข่ให้ใครมันชม กับเพื่อนที่แสนรัก ก็คุยกันแบบนี้ ไม่ได้ปกปิดวาจาท่าทีอะไร

เพียงแต่พวกยึดดีมันชอบตำหนิ ว่าไม่ควรอย่างนั้นไม่ควรอย่างนี้ นู่น ไปหาพวกพูดเพราะๆนู่น จะได้อยู่อย่างสบายตาสบายหู

ดอกบัวมันอาศัยโคลนตมหล่อเลี้ยงดอก เป็นคนดีๆ พูดเลวพูดหยาบกันไม่ได้หรือไง

พูดดีพูดเพราะมาทั้งชีวิต ใจก็ยังเลวนี่หว่า

พูดไอ้เหี้ยมั่ง ไอ้ห่ามั่ง ลองพูดกันตรงๆเปิดใจกันไปเลย ดูซิ ว่าใจมันตะยอมรับคำก่นด่าได้ไหม

เมื่อรับได้ ใจมันก็อิสระ พูดหยาบ พูดเลว พูดเพราะ พูดหวานหรือขวานฝ่าซาก

มันก็แค่สื่อสมมุติความหมาย เป็นเครื่องปรุงลงไป ให้มันดูมีรสชาติเท่านั้น

คงต้องหยุดก่อนไอ้สัดดดเอ๊ยเดี๋ยวจะไปกันใหญ่

ยิ่งขยายยิ่งพูดไพเราะ พอแล้วเช้านี้

แหม..ของขึ้นๆๆ ถ้าคุยเรื่องพวกนี้ เหี้ยในใจมันจะแหกคอกออกมาไล่งับเอา

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง ” สัตว์ย่อมไม่รู้จัก อริยสัจ ” ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง