วันชิงเปรต

วันชิงเปรต

670
0
แบ่งปัน

พรุ่งนี้วันพระ เดือน 10 นี่เทศน์ในไลน์ นำเอามาลงสดๆร้อนๆ

เมื่อเช้าท่านมหา ถามว่า พรุ่งนี้เป็นวันพระ เป็นวันชิงเปรต ไทย หรืออะไรนี่แหละ ท่านให้ข้าอธิบายให้ฟังหน่อย พรุ่งนี้เป็นวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 

ท่านเคยไปอยู่ภาคใต้มา ท่านบอกว่า พรุ่งนี้ เป็นวันทำบุญเดือน 10 เป็นวันชิงเปรต ข้าเองนี้ อันที่จริงก็จำไม่ได้หรอก ว่าเป็นวันไหนอะไรอย่างไร

อยู่ป่านานๆแล้วลืมเรื่องทางโลกๆหมด แต่ก็จะขอเล่าให้ท่านมหาฟัง สมัยเด็กๆ ข้านี้อยู่ภาคใต้ อยู่ที่จังหวัดพังงา พอถึงเทศกาล การทำบุญเดือน 10 แม่จะเอาเสื้อผ้า ข้าวสารแห้ง สิ่งของเครื่องใช้ของแต่ละคนในบ้าน มารวมๆกันไว้ แล้วท่านให้เราอธิฐาน อุทิศส่วนกุศลไปให้เหล่าเปรตทั้งหลาย

พอตอนสายๆจะมีชาวเล เราเรียกเขาว่าชาวเล ที่จริงคนเหล่านี้ เขาจะอยู่ทำมาหากินอยู่ตามเกาะแก่ง ในทะเลโน่น พอถึงเวลาเดือน 10 เขาก็จะยกพลรวมตัวกันขึ้นบก

แยกกระจายไปตามอำเภอและจังหวัด เท่าที่เขาจะไปได้ มันเป็นประเพณีของเขาด้วย ปีละแค่ครั้งเดียว คือวันพระเดือน 10 นี่แหละ

สายๆเขาจะหอบลูกจูงหลาน มายืนอยู่หน้าบ้าน เราก็จะเอาเสื้อผ้า ข้าวสารมอบให้กับเขา เขาก็จะเก็บจะหอบไปด้วยความดีใจ สมัยนั้นก็สี่สิบกว่าปีมาแล้ว
พวกเขาจะมาล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ มาเดินรับของบริจาคตามบ้าน พวกเขาก็เต็มใจที่จะรับ ผู้ที่ให้ก็เต็มใจที่จะให้ มันเป็นการทำบุญที่บริสุทธิ์ ทั้งสองฝ่าย ประเพณีเช่นนี้ ไม่ทราบว่าเดี๋ยวนี้ ยังมีอยู่อีกรึเปล่า

ผู้ให้ ก็จะถือว่า นี่เป็นการทำบุญล่วงหน้าให้เปรต พอถึงวันพระ คือวัน 15 ค่ำเดือน 10 พวกเราก็จะหิ้วปิณโตไปวัดทำบุญกัน ทุกคนจะมานั่งกันเต็มโบสถ เราพวกเด็กๆ ก็จะออกไปวิ่งหาซื้อของเล่น จากชาวเล นั่นก็คือ ไม้ซาง

มันเป็นไม้ใฝ่ปล้องยาว ยาวสองเมตรเลยก็มี แล้วเขาจะมีลูกดอกสีสวยๆ ใส่ปุ๊บ พอเป่า มันจะพุ่งไปยังเป้า พวกชาวเลเขาเอาไว้ล่าสัตว แต่พวกเราเอามาไว้เป่าเล่น เป็นที่หนุกหนาน

พวกชาวเล เขาจะเอาพวกประการังสีขาวๆเป็นพุ่มๆ พุ่มใหญ่ก็ 3 บาท พุ่มเล็กๆก็ 1 บาท เปลือกหอยสวยๆก็มี ชาวเลนำมาขายถูกๆ แต่เราเป็นเด็ก ไม่ค่อยสนใจสิ่งเหล่านี้ เราชอบแต่ไม้ซางลูกดอก

พอพระสวดเสร็จฉันท์เสร็จ ชาวบ้านก็จะนำเอาอาหารมารวบรวม และไปกองไว้ใต้ต้นไม้ พวกชาวเล ก็จะเฮกันเข้าไปเก็บอาหารนั้น ไปกินกัน อาหารในวันนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นขนมลา เป็นขนมแป้งเส้นเล็กๆ

ทอดโดยการเอาแป้งใส่ลงไปในกระลามะพร้าวที่เจาะรู แล้วโรยลงไปในกระทะน้ำมันร้อนๆ จนเป็นแผงกว้าง พอกรอบดีแล้ว ก็พับซ้ายขวา พับจนมีความกว้างซัก 2 นิ้ว จึงดึงขึ้นมาเพื่อซับน้ำมัน ปล่อยให้แห้งแล้วนำไปเก็บ เรียกว่าขนมลา

เขาเอาไว้ให้สำหรับเปรตได้กินได้ง่าย เพราะมันเป็นเส้นๆ เขาเชื่อว่าเปรตมีปากเท่ารูเข็ม กินอาหารอย่างอื่นไม่ได้ ประเพณีเขามีมาอย่างนี้

การชิงเปรต พวกชาวเลเขาเป็นตัวแทนแห่งเปรตมารับสิ่งของ พวกชาวเล เขาถือว่า การที่ได้ขึ้นบกมาทำเช่นนี้ ก็จะเป็นกุศลให้กับญาติทั้งหลายของเขา ที่ล่วงลับไปแล้ว เมื่อเขากลับคืนสู่ทะเลไป เขาก็จะหาปลาได้อย่างไม่ฝืดเคือง

ชาวเลพวกนี้ โบราณเขาเรียกว่า ชาวนาค คือหาปลาเลี้ยงชีพกินอย่างนาค พวกเขาจะไม่อยู่ห่างทะเล ทุกๆวันพระ พวกเขาจะนำดอกไม้ธูปเทียน ใส่กระทงลอยลงไปในทะเล เพื่อเป็นการบูชา รอยพระพุทธบาท ที่สถิตย์อยู่ปากแม่น้ำ อโนธารนที

ที่จริง ก็ไม่ใช่แม่น้ำหรอก อยู่ปากอ่าวในทะเลโน่น เราเอาประเพณีการลอยกระทง มาจากพวกชาวเลนี่แหละ

ที่เขาเอาดอกไม้มาบูชา ไม่ใช่เขาเอามาขอขมาพระแม่คงคา แต่เขานำเอามาบูชา รอยพระพุทธบาทโน่น หากขอขมาแต่พระแม่คงคา พระแม่ธรณีก็งอนกันตายชัก

ชาวเลพวกนี้ ล่อยเรือมาจากศรีลังกา มาอาศัยตามหมู่เกาะทางภาคใต้ เรื่องประเพณีการชิงเปรตนี้ มาจากอินเดีย ที่เมืองสารนาถ ในยุคนู้น สมัยที่ เปรตมาร้องขอส่วนบุญ ผู้คนเขาเกิดความหวาดกลัว

พระพุทธองค์ทรงให้ชาวบ้าน ร่วมกันทำบุญ และแผ่อุทิศส่วนกุศลนั้น ไปยังหมู่เปรต เสียงเปรตที่มาหวีดร้อง จึงได้สงบลง ช่วงนั้นเป็นช่วงวันพระเดือนมืด เขาเชื่อกันว่า นรกเปิดประตูออกมาให้เหล่าเปรต ได้มีโอกาศ พบญาติพี่น้อง จะได้รับส่วนบุญ ส่วนกุศลกัน

เมื่อสิ้นวันพระข้างแรม เปรตทั้งหลายก็ต้องกลับคืนไป ยังนรกที่ตัวเองต้องเสวย นี่คืนนี้ และพรุ่งนี้ ข้าก็จะเข้ากรรมฐานแผ่เมตตาจิตไปยังหมู่เปรต ใครจะฝากกุศลก็น้อมใจกันเข้ามา แค่น้อมก็ถึง มันถึงด้วยใจที่นอบน้อม ข้าจะเป็นสะพานให้ งมงายซักหน่อย แต่เหล่าเปรตพวกเขาก็มาขอรับจากข้าทุกปี มันเป็นสัญญา และข้าก็เต็มใจ วันนี้คุยกันแค่นี้นะ ท่านมหา….