ธรรมหยาบๆพวกโลกสวยย่อมรับไม่ได้

ธรรมหยาบๆพวกโลกสวยย่อมรับไม่ได้

725
0
แบ่งปัน

สาธุ..สาธุ..สาธุ.. น้องเขาได้ถามมาว่า

: ธรรมะจากพระสกล วันที่ 9 พ.ย. 2553 ได้มีโอกาศสนทนาธรรมกับ พอจ. ในช่วงเช้า มีเรื่องหนึ่งที่พอจ ได้เล่าถึงพระที่เดินทางจากจังหวัดสกลนคร มาเยี่ยม พอจ.
แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ พอจ. ได้พูดถึงการยอมรับในเรื่องของความเป็นจริง แต่พระจากจังหวัดสกลยอดรับไม่ได้

แต่เนื้อหาตรงนี้ไม่สะดุดใจ แต่ที่สะดุดใจผมเป็นอย่างมาก นั้นคือคำพูดของ พอจ. ที่พูดให้พระรูปนั้นได้คิด

ถ้าบุลคลอื่นที่ได้ยินคำพูดของ พอจ. จะรับได้หรือเปล่า ผมขออนุญาตินำคำพูดของ พอจ. มาลง นะครับ

พอจ พูดว่า ” …ถ้าอาจารย์ยอมรับไม่ได้ ก็ไปเย็ดหีให้มันควยดีกว่า”
พระสกล “….อาจาร์ย ทำไมพูดหยาบคายอย่างนี้

นี่..คือช่วงสนทนาในเช้าวันนั้น หลายคนที่ไม่เคยรู้จัก พอจ. ก็คงคิดว่า พอจ.ไม่ใช่พระเป็นแน่ หรือไม่ก็หาเรื่องปาราชิก สึก พอจ. ก็เป็นได้

แต่ถ้าเราใช้ สติ ในการฟัง และใช้ปัญญา ในการพิจารณา ก็พบกับคำว่า อะไรคือหยาบ อะไรคือไม่หยาบ แล้วอะไรมาตัดสินว่าคำนี้หยาบ คำนี้ไม่หยาบ

ถ้าเรามาแยกคำพูดของ พอจ. ก็จะได้แบบนี้ เย็ดกัน เอากัน ปี้กัน และคนเขาบอกว่าสุภาพ คือคำสังวาด เท่ากับ การผสมพันธ์ของมนุษย์ และ คำว่าหี ปิ จิ๋ม และไพเราะสุดๆ ก็คือ โยนี คำเหล่านี้ก็ใช้แทนอวัยวะสืบพันธ์ของผู้หญิง

ส่วนคำว่าควย หำ จ้อน หรือสุภาพสุดๆ ก็คือศิวลึงค์ คำเหล่านี้ใช้แทนอวัยวะเพศชาย

ในเมื่อคำเหล่านี้ใช้สื่อถึงความเป็นจริงในชีวิตมนุษย์ แล้วทำไมจึงต้องเป็นคำหยาบ คำนี้เป็นคำไม่หยาบ

เป็นเพราะมนุษย์เป็นคนกำหนดกันเองใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นคำที พอจ. พูด ผมก็บอกว่าเป็นคำสุภาพได้ไหม

ผมคิดว่าจะหยาบหรือไม่หยาบ อยู่เจตนาคนพูดมากกว่า เช่น การพูดให้คนเจ็บช้ำน้ำใจ การพูดให้ร้าย หรือใส่ร้าย พูดโกหก คำพูดเหล่านี้ผมถือว่าเป็นคำพูดที่หยาบช้าที่สุด

พระอาจารย์ : เรื่องที่พูดนี้เรายกมาเล่าให้ฟัง เมื่อยกมาเล่า มันก็ต้องยกมูลเหตุมาทั้งดุ้น เพื่อให้เห็นเหตุแห่งการโดนผัสสะ

ผู้ฟังก็ต้องฟังและพิจารณาให้จบทั้งมูลเหตุ ว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างนี้

มันเป็นเรื่องๆ หนึ่ง ที่ยกมาแสดง ไม่ได้กล่าวหาว่าใคร มันจึงไม่ได้ไปหยาบตรงไหน นี่..เป็นวินิฉัยข้อหนึ่ง

ส่วนกาลแห่งเหตุที่เกิด ที่ไม่ได้นำมาขยายเป็นเรื่องเล่า กาลนั้นก็เป็นอีกอย่างหนึ่งอีก ระหว่างพระอาจารย์ สองรูป ที่ท่านกำลังชี้ธรรมด้วยวิสัยจริตภูมิ

หากฟังจบแค่คำพูด มันก็เป็นคำหยาบ เพราะโดนสรุปโดยขาดเหตุขาดผล แต่เมื่อฟังจนจบพร้อมชี้เหตุชี้ผล

คำเหล่านี้ เป็นอาวุธทำลายความมืดบอดที่เจ้าตัวหลงยึดด้วยอำนาจแห่งทิฐิได้ เพราะผลมันแสดงอยู่ ว่าพระอาจารย์อีกรูป ยังหลงยึดผิด

การชี้ธรรม ไม่ใช่ว่าจะใช้คำหยาบหรือละเอียดสุภาพ มันขึ้นอยู่กับจิตของเจ้าตัวด้วย บางท่านพูดจาดีๆ มันก็รู้และเข้าใจ

แต่มันไม่เข้าไปทะลุทะลวงถึงข้างใน ความประจักษ์ใจมันไม่เกิด เพราะมีเหตุแห่งพรรษาและความอาวุโสขั้นอยู่

ที่สำคัญ…. พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จะชี้ทางท่านได้ ท่านต้องชี้ด้วยอารมณ์ที่ครูบาอาจารย์ที่ท่านนับถือชี้ และการชี้ ต้องเป็นสัจจธรรมที่ผู้รับดิ้นไม่ได้ ท่านจึงจะลงใจ

การแสดงธรรมมันมีวิธีหลากหลาย ใช่ว่าจะต้องใช้คำเช่นนี้กับทุกคน เรา…ผู้ฟังยังไม่เข้าใจกันนัก เรา…ฟังเอาหนุกๆ เป็นข้อคิดก็พอ…

การยกคำพูดมาแค่ประโยคเดียว หากเป็นคำหยาบ ผู้ฟังที่ สองที่สาม ก็ว่าหยาบ เพราะมันขาดเหตุปัจจัยประกอบ

แต่เมื่อมีเหตุปัจจัยประกอบ คำหยาบนั้นเป็นได้ทั้งหยาบและไม่หยาบ ตามเจตนาของผู้ชี้ คำพูดลอยๆ แต่มีอารมณ์ที่แสดงออกเป็นเหตุปัจจัย

หากเป็นโทสะ มันก็หยาบ หากสนุกๆ ก็เป็นคำหยาบที่ไม่หยาบ เพราะไม่ได้ทิ่มแทงใจใคร

หากที่ลึกลงไป เพื่อใช้คำหยาบทะลวงทิ่มเข้าไปในความโง่ อุปทานก็พังได้ คลายได้ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ อบรมศิษย์ที่ดื้อด้านตัวตน

ท่านมักใช้ทางนี้กระแทกจิต ฟังคำแล้วมันกระแทก แต่ท่านมีธรรมรองรับได้ตลอด ใช่ใช้คำหยาบอย่างพล่อยๆ ด้วยสันดาน

พระอาจารย์จากสกลนคร เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แต่ท่านยึดดีที่กระทำมายี่สิบกว่าพรรษา

ความดีที่เป็นข้อวัตรปฏิบัติ มันแคบตีบไป แต่สำหรับท่านมันยิ่งใหญ่จนบดบังช่องทางอื่น ที่มันยังเป็นรูรั่วอยู่

การจะบอกกล่าวด้วยภาษาดีๆงามๆรื่นหู มันไม่ทะลวงและกระแทกใจ สำหรับผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์คนไปแล้ว

ความยึดมั่นในธรรมที่ตนปฏิบัติ และราตรีอันยาวนาน ใจมันจะไม่ฟัง มันย้อมไม่เข้าลึกถึงใจ

การหลงยึดในธรรมด้านใดด้านหนึ่ง มันไม่อาจเข้าถึงธรรมแห่งความเป็นจริงไปได้

การชี้ให้เห็นช่องทางเข้า ที่ตัวตนได้แสดงออกมา มันย่อมชัดเจนและเข้าถึงภายในใจได้ดีกว่า

การบอกกล่าวธรรมด้วยวลีนุ่มๆ สำหรับจริตบางคน

ท่านอาจารย์จากสกลนคร ท่านยึดแต่ทางตัดรส
แต่ท่านไม่ได้ตัด รูป ตัดเสียง ตัดกลิ่น ตัดสำผัส ตัดอารมณ์

เรือที่อุดอยู่รูเดียว แต่อีกห้ารูไม่ได้อุด และไม่ได้รู้ว่ามันก็คือรูที่ยังรั่ว

เรือเช่นนี้ แม้ปัญหาคือรูรั่ว แต่เมื่ออุดอยู่รูเดียวยังไงเรือก็ย่อมจม แล่นไปไม่ถึงฝั่ง

การกระแทกธรรมเข้าไป มันทำให้ท่านตื่นตาตื่นใจ หูตาสว่างขึ้นมายอมรับความจริงของเรือท่าน ที่มันยังรั่วอยู่

นี่เป็นภาษาธรรมที่เป็นอาวุธฟาดฟันกับกิเลสอันแข็งโป๊ก

มัวแต่เอาสำลีฟาดฟันเพราะกลัวกิเลสเจ็บ

ชาตินี้ชาติไหนก็อย่าหวังหั่นเชื้อพิษร้ายออกจากใจไปได้

ข้ามันหยาบเลวทรามอยู่แล้ว สำหรับพวกยึดดี

พวกโลกสวยยึดดีก็ถอยห่างๆออกไปให้ไกลตีนก็แล้วกัน ไม่เช่นนั้นอาจเจอเพลงมวยพันตีนเข้าไปเต็มหูเต็มปาก ฟันจะหักซะเปล่าๆ

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง