แหกคอกความรู้แห่งตนซะที สู่โลกกว้างซะบ้าง

แหกคอกความรู้แห่งตนซะที สู่โลกกว้างซะบ้าง

885
0
แบ่งปัน

ขอสาธุคุณ ให้มีแต่ความสุขความเจริญ

ในหน้าเฟสที่เข้ามาอ่านๆ ฟังๆ และเมนท์ข้อความกันนี้ มีแต่พี่น้อง

มีแต่เพื่อนๆ มีแต่ครอบครัวที่พูดที่คุยกันได้ในทุกสถานะการณ์

ข้านี่ มีความสุขใจเมื่อได้เห็นความสนุกสนานแห่งใจของเหล่าสาธุชน

มันได้เห็นธรรมชาติของคน ที่ไม่ได้ปกปิดอีกด้านหนึ่ง ที่ปลดปล่อยออกมา

ตรงนี้มันก็เป็นสมมุติอย่างหนึ่ง ที่เหมือนดูหนัง

ไม่พอใจไม่ชอบใจ เราก็ปิดจอหนังไปเสีย

มีเรื่องราวดีๆ ซ่อนเร้นในจอหนังอีกมากมาย

เราจะเอาเรื่องราวที่สมมุตินี้มาทำลายใจ นี่ก็โง่เต็มทน

เรื่องราวหลากหลาย เขาแสดงให้เราดู

การแสดงในสมมุติกับการเอาตัวเข้าไปเป็นผู้แสดงนี่ มันก็ต่างกันหนอ

ในจอ มันมีผู้ร้ายมีนางเอกพระเอกน่ะ เราดูเรารู้ แสดงไปตามสมมุติกันไป

แต่แสดงแล้วเอาตัวเข้าไปเป็นนี่ โง่หลายๆ เป็นเอามากและประสาทหลอน

คนเราต่างแค่ภาชนะในการรับไม่เท่ากัน

ฉะนั้น เราอย่างเอาภาชนะแห่งใจเราไปเทียบกับเขา

บางอย่างเราแค่ฉลาดในสิ่งที่เขาโง่

แต่บางอย่าง เราก็โง่ในสิ่งที่เขาฉลาด

การตัดสินใจของเราต่อใครเขาด้วยความเห็นนี่ มันแสนอัปปรีย์และอวดตัวตน

แต่ถ้าเขาเอาภาชนะอันน้อยนิดของเขามาเทียบเรา

เราก็ย่อมส่งภาชนะของเราไปยืนยันภาชนะของเขาได้นี่ธรรมดา

ทุกภาชนะต่างเก็บเรื่องราวร้อยเรียงเทียบเคียงกันมา

ภาชนะที่แสนใหญ่แสนดีที่เจ้าของต่างคิดเอาว่า

แต่เป็นถาชนะที่ไร้ค่าเพราะความว่างเปล่าจากสิ่งเลอค่า มีแต่ขยะ ภาชนะเช่นนี้มันก็มี

เม็ดฝนโปรยจากฟ้า มันมีค่าเป็นหยาดฝนเย็น

ใครมีภาชนะใหญ่เล็กแค่ไหนต่างก็รองรับกันไปตามภูมิกำลังแห่งภาชนะที่มี

ได้แค่ไหน เอาแค่นั้น พอใจเท่าที่ได้

ดื่มกินพอหอมลิ้มชื่นฉ่ำใจ ไม่ต้องถึงกับเก็บเอาไว้อาบรดหรือเผื่อแผ่ใครก็ได้

ภาชนะแค่ไหน ทุกคนนิพพานได้แค่นั้น

ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องรู้มากยึดมาก เป็นขยะรกภาชนะ

น้ำฝนแห่งธรรมแค่แก้วเดียวก็ซาบซ่า พอมีแรงแสวงหาประตู… เข้าสู่นิพพาน

ความรู้ทั้งหลาย เปรียบเหมือนก้อนอิฐิที่มันแข็งแรง

เราเอาอิฐิแห่งความรู้ที่มันแข็งแรง มาเป็นกำแพงก่อกั้นตัวเรากับชาวโลก

อิฐความรู้มากมายอันหลากหลาย ที่เรานำมาก่อกั้น

เรากับพื้นที่ว่างของโลก ก็เริ่มแคบลง

เจ้าของช่องว่างแห่งกำแพงอิฐจะรู้ตัวไหม

ว่าอิฐความความรู้ที่เป็นก้อนๆ มันก่อกำแพง แสดงความขวางโลก

ยิ่งก่ออิฐก็ยิ่งสูง

เจ้าของหมุนมองไปทางไหน ก็ภูมิใจได้แค่อิฐิที่นำมาก่อกั้น

ข้างนอกเขามองดูเหมือนสัตว์อย่างหนึ่ง ที่ขังตัวตนอยู่ในช่องว่างระหว่างอิฐ

แต่สัตว์ในช่องว่างแสนภูมิใจในกำแพงอิฐที่ตนเองก่อ

ที่สุด… มันก็มองไม่เห็นโลก

มันเห็นแต่อิฐิที่มันก่อ โลกทั้งหลาย…มันไม่มี

สัตว์พวกนี้ เวียนวนพอใจอยู่ในช่องแคบๆ ระหว่างอิฐ

มันลืมไปว่าโลกนี้มันแสนกว้างใหญ่

แต่ตัวสัตว์มันเห็นช่องว่างระหว่างอิฐมันแสนกว้างใหญ่

โลกมันจะใหญ่แค่ไหนก็สู้ไม่ได้ ในช่องว่างที่มันยึดอยู่

มองไปทางไหนมันก็เห็นแต่ อิฐ ที่มันก่อ

เศร้าใจจริงๆ หนอไอ้สัตว์ที่ชอบก่ออิฐิ

พังทะลายกำแพงอิฐออกมาเห็นโลกจริงๆ กับเขามั่งซิ

มันจะได้รู้ได้ทราบมั่งว่า อิฐิที่มันก่อกับกับโลกที่เปิดกว้างนี้ มันห่างกันไกล

ไม่ใช่พอใจแต่ในช่องว่างระหว่างอิฐที่มันยึดมันก่อ

แล้วเอากำแพงอิฐที่ตนก่อ มาอวดโลกที่กว้างใหญ่

ปราชญ์ย่อมทำลายกำแพงอิฐิ ที่ปิดบังโลก มองไม่เห็นความจริงอะไร

ใครพอใจแค่อิฐิที่ก่อเป็นกำแพงล้อมตัว ก็ช่างแม่มัน..!!

หวัดดี วันที่น่าทุบกำแพงอิฐ ทุบเมื่อไหร่ เหี้ยก็ออกมาเพ่นพ่านอีก เย๊ดเข้..!!

โลกนี้อยู่ยากเพราะเรา ไม่ใช่เราอยู่ยากเพราะโลก

อิฐแห่งกรูรู้แล้วนี่ เมื่อก่อมาเป็นกำแพงที่บดบังใจตนแล้ว

ทะลายกำแพงมาเจอโลกยาก

มันย่อมเป็นสัตว์ตานังที่น่าสงสาร

แต่ความน่าสงสาร มันเสือกเป็นความภูมิใจของมันซะอีก

อิฐแห่งกรูรู้แล้ว โดนฉาบด้วยปูนตรา มึงเชื่อกู กับตรา เออๆๆๆ กูก็ว่า

มันทำลายยาก มันแข็งและแกร่งไปด้วยน้ำยาแห่งสันดานหนา ทุบยังไงมันก็ไม่แตก

นี่..สันดานที่พอกพูน ด้วยอิฐิและปูนฉาบที่มันกลมกลืนกัน

ไปภูมิใจอะไรหนักหนา กับสันดานขี้ข้าความรู้ของกู ที่ก่อเป็นอิฐปิดล้อมใจตน

พังมันออกมา ลองเหลียวซ้ายเหลียวขวามองไปยังหน้าหลัง

แผ่นฟ้าแผ่นดินอันแสนกว้างใหญ่ กับบรรยากาศที่สดใส

ยังคงรอโอบกอดด้วยแขนกว้างใหญ่ รอรับใจไร้ตัวกูจูงมือเข้าสู่ วิมุติญาน
พระธรรมเทศนาจากบทธรรม เรื่อง ” คนจะดี ไม่จำเป็นต้องอยู่อย่างหงิ๋มๆ ” ณ วันที่ 21 เมษายน 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง