สิ่งที่มี มันอาศัยเหตุ

สิ่งที่มี มันอาศัยเหตุ

903
0
แบ่งปัน

ลูกศิษย์ : ต้นไม้นั้นมีอยู่ครับ..เพียงแต่เราเอาสมมุติไปใส่ว่าสิ่งนี้คือต้นไม้.. แต่เมื่อเอาสมมุติออกต้นไม้มันก็เป็นแค่สิ่งหนึ่งครับ

มันจึงยังมีอยู่แต่เราแค่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรครับแต่เมื่อเราใส่สมมุติอแล้วเราก็มีสัญญารู้จักว่าสิ่งนี้คือต้นไม้

เมื่อผัสสะเราก็รู้ได้ทันทีว่านี้คือต้นเมื่อต้นไม้มีก็มีสัญญารู้จักเราก็ไหลไปกับกระแสของสมมุติอุปาทานก่อรูปไหลไปกับกระแสของโลกครับ

แต่ถ้าพระอาจารย์มาขยายท่านจะแยกธาตุต้นไม้ว่า…เปลือกคือต้นไม้หรือใบ…หรือแก่น… หรือกิ่ง..หรือรากตรงไหนคือต้นไม้…ครับ

พระอาจารย์ : เทพมันอธิบายอย่างคนเข้าใจเลยทีเดียว

คำว่า มันก็เป็นแค่สิ่งหนึ่งที่มี นี่ที่พวกบ้าบาลีชอบพูดว่า “สัตตานัง”

สัตตานังนี่ มันเป็นสิ่งหนึ่ง ที่มันมี ไม่ใช่ว่าไม่มี

แต่เมื่อสิ่งที่มีถูกบัญญัติสมมุติขึ้นมาว่า ไอ้สิ่งหนึ่งนี้ มันเรียกว่าต้นไม้

ต้นไม้นี้จึงมี เพราะเหตุแห่งการสมมุติ

แต่ความจริงต้นไม้ไม่มี ที่มีเรียกว่า ..สัตตานัง..คือมันเป็นสิ่งหนึ่ง

และถ้าลึกลงไป สัตตานังนี้ ก็ไม่มี ที่มีเพราะผัสสะมี

เมื่อผัสสะมี สัตตานังก็เลยมี

ลึกลงไป ผัสสะนี้มันก็ไม่มี ที่ผัสสะมี เพราะอายตนะมี

เมื่ออายตนะมี ผัสสะก็เลยมี เมื่อผัสสะมี สัตตานังมันก็เลยมี แม้ไม่มีสมมุติใดๆ มาบัญญติก็เหอะ

ลึกลงไป อายตนะก็ไม่มี ที่อายตนะมี เพราะมันอาศัยมีนามรูป

เมื่อนามรูปมี อายตนะก็เลยมี เมื่ออายตนะมี ผัสสะก็เลยมี

เมื่อผัสสะมี สัตตานังก็จึงมี สัตตานังมี การบัญญัตินู่นนี่นั้นในสมมุติก็เลยมี

เมื่อสมมุติมี ต้นไม้และสรรพสิ่งทั้งหลาย มันก็เลยมี

นี่..ที่มีมันเป็นแค่สมมุติที่เกิดจากเหตุปัจจัย

อะไรที่เป็นสมมุติ มันก็ย่อมบัญญัติออกมาจากสิ่งที่ยังไม่มี

เมื่อมี มันจึงเป็นสมมุติที่มี สมมุตินี้จึงไม่ใช่ความจริง

และเราทั้งหลายนี้ก็หลงไหลและถอดถอนสมมุติที่ไม่ใช่ความจริงนี้ไม่ออก

นี่ เรียกว่าสร้างขึ้นมาจนหลง หลงนี้เป็นอาการของอวิชชา

และอวิชชานี้ เป็นที่มาแห่งเหตุที่สมมุติขึ้นมาทั้งปวง

ที่สำคัญ… มันดันมีตัวกูเข้าไปยึดอาการแห่งเหตุที่เป็น อวิชชาเหล่านี้

ธรรมเหล่านี้ หากไร้ผู้มีภูมิธรรมชี้ มันก็จะชี้กันแค่เปลือกที่ตำราบอก

มันเข้าไม่ถึงเหตุและปัจจัยที่เกิด

มันละเอียดและวนรอบแห่งกาล

มันเป็นธรรมที่เกิดจากความเข้าใจแล้ว มันจึงอธิบายกันออกมา

แต่พวกเรา มันอธิบายจากความไม่เข้าใจ เพื่อให้คนที่ไม่เข้าใจฟัง

มันก็เลยกลายเป็นไม่เข้าใจซ๊ำยิ่งเข้าไปอีก

คนที่มันเหยียบขี้หมาก่อน มันจึงรู้รสชาดของการเหยียบขึ้หมา

คนไม่เคยเหยียบขี้หมามาอธิบายอาการของการเหยียบขี้หมา

มันก็ได้แค่ มโนเอา จากที่เขาว่าๆ กันมา

ธรรมแห่งมโนจำ กับธรรมที่เข้าถึงความเป็นธรรมดา มันจึงอยู่กันคนละฟากฟ้ากับเหว

แม้ฟากฟ้ากับเหว มันจะเป็นธรรมตัวเดียวกันก็ตาม

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง คุยกับ…..พระอรหันต์เจ้า ท่อนสาม ณ วันที่ 12 มีนาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง