หวัดดี ทุกคน ขอสาธุโมทนาบุญทุกบุญให้ทุก
คราวนี้ การโม้ธรรมทางเฟสนี้ โม้ยาวๆ มันก็น่าเบื่อ คนบางคนมันก็ไม่ชอบฟัง แต่บางคนนี้ ก็ชอบฟัง มันไม่เสมอกัน ข้าเองก็ไม่ได้หวังผลอะไร เป็นแค่การชวนคุยกันหนุกๆ เท่านั้น
ธรรมจากการอ่าน มันเป็นตัวตน มักตีความเข้าข้างทิฏฐิตนเอ
คราวนี้ ธรรมบทนั้น ก็ไม่มีใครจะถามให้ลึกลงไป อ่านแล้วก็ผ่านเลย เหมือนพวกเราอย่างนี้ หาธรรมมาจรรโลงใจให้แน่นอนไ
สิ่งที่ข้าได้พูดและยกตัวอย
ที่เข้าใจมันก็เข้าใจอย่างเ
ในพุทธศาสนา ชี้เรื่อง อัตตา และอนัตตา มาในธรรมบทที่สอง ที่กล่าวชี้ ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า ให้เข้าถึงความเป็นอรหันต์ผ
ทำไมเราอ่านตามฟังตาม เราจึงไม่บรรลุตามท่านไปด้ว
แต่วันนี้ ข้าไม่ค่อยสบายเท่าๆ ไหร่ ลุกนั่งไม่ค่อยคล่อง อากาศมันเปลี่ยน เหมือนจะเป็นไข้ จึงขอเป๊กไว้ก่อน วันหน้าค่อยคุยกัน วันนี้อยากอ่านข้อความและธร
ข้าขอต่อเช้านี้เลย เพื่อวันนี้ตายไป จะไม่ได้อธิบายธรรมอะไรได้ เดี๋ยวมันค้างใจกันไปอีก
คำว่า อนัตตา ที่เราเข้าใจกัน มันเป็นความเข้าใจ อย่างพวกพราหมณ์เขาเข้าใจ ไม่ได้เข้าใจอย่างพุทธ
และมักจะเอาคำว่า อัตตา มาใช้อย่างพร่ำเพื่อ โดยมากมักจะอ้างและถกเถียงก
นี่..พวกนักรู้ธรรมทั้งหลาย
ส่วนอีกพวกหนึ่ง ก็จะเล็งโต่งออกไปอีกว่า ทุกอย่างเป็นอนัตตาของมันอย
พุทธศาสนาเป็นเพียงศาสนาเดี
ไม่ใช่อนัตตาอย่างตำราบอก หรือจำๆเขามาพูด แต่เจ้าของไม่รู้จักอะไรเลย
อนัตตาในวิถีพุทธ ก็คือ ความรู้แจ้งในความมีอัตตา อนัตตาอาศัยอัตตาเกิด ฉะนั้น ที่ชอบพูดกันว่า นั้นเป็นอัตตา นี่เป็นอัตตา เป็นคำกล่าวที่เพ่งโทษและไม
เพราะอัตตาและอนัตตา มันคือตัวเดียวกัน เพียงแต่ อนัตตาเป็นเงาซ้อนทับความเป
พวกชอบที่พูด ก็พูดอย่างคนมองไม่เห็นอนัต
นั่น..เรามองไปเบื้องหน้าซิ
บ้างก็จะกล่าวว่า มันไม่เที่ยงไง มันเป็นทุกข์ มีความเสื่อมสลาย บังคับบัญชาไม่ได้ นี่..เอาไตรลักษณ์มา เป็นตัวอนัตตาซะนี่
ต้นไม้นั้น ที่มองเห็นอยู่ นั่นคืออัตตา ถึงบังคับบัญชาไม่ได้ ก็เป็นอัตตา ไม่ใช่อนัตตา
ต้นไม้ที่ตั้งอยู่ ผู้ที่มองเห็นอนัตตาก็คือ ต้นไม้มันไม่มี ทั้งๆที่มีต้นไม้ มันตั้งอยู่เบื้องหน้า
ตรงนี้ เหล่าพราหมณ์เขามองไม่เห็น เขามองไม่เห็น สิ่งที่ไม่เห็นในสิ่งที่มี เป็นธรรมดาของโลก ที่ต่างก็มองเห็นต้นไม้ ไม่มีใครมองไม่เห็นต้นไม้ หากต้นไม้นั้นตั้งอยู่ให้เห
นี่..ตรงนี้ พุทธศาสนาเข้าถึงความจริงว่
พูดเช่นนี้ เราก็ไม่เข้าใจอีกนั่นแหละ ก็ต้องถามต่ออีก ว่า..ต้นไม้ที่เห็น มันอยู่ตรงไหน
เปลือก เป็นต้นไม้หรือ
กระพี้ เป็นต้นไม้หรือ
แก่น เป็นต้นไม้หรือ
หรือใบ กิ่ง ดอก ผล ยอดอ่อน เป็นต้นไม้
เราจะทราบได้ว่า นั่นไม่ใช่ต้นไม้ แต่ทั้งหลายมันเป็นปัจจัยปร
ฉะนั้น ต้นไม้จริงๆนั้น ไม่มี ที่มีเกิดจากองค์ประกอบจากเ
คำว่าต้นไม้นี้ มันเป็นสมมุติอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นอัตตาในการให้มี โดยความจริงแล้ว มันไม่มี ที่มีเป็นสมมุติเรียกให้มัน
คำว่ามีนี้ เป็นอัตตา เป็นตัวแทนความเป็นอนัตตา คือไม่มี อะไรที่ไม่มีเมื่อทราบตรงตา
เมื่อรู้ชัดตรงตามความเป็นจ
เราก็เอาเหตุปัจจัยที่มันมี
เอาเหตุที่มีมาซักอย่าง เช่นใบมันมีจริงๆหรือ ใบมันอยู่ตรงไหน ริ้วก้านนั่นใบหรือ ยางนั่นเป็นใบหรือ ขนเล็กๆเป็นใบหรือ สีเขียวๆเหล่านั้นเป็นใบหรื
เราก็จะเห็นชัดลงไปอีกว่า แม้ใบมันก็ไม่มี ที่มีมันเป็นอัตตา ที่อาศัยเหตุปัจจัยที่แยกย่
แสดงว่า ใบไม้ก็เป็นอัตตา แทนตัวตนสมมุติขึ้นมาจากเหต
หากสาวลึกลงไปถึงเหตุที่ประ
เราไปให้ความหมายและบังคับบ
บัญฑิตเมื่อรู้ความจริงเช่น
ความเป็นอนัตตานี้ มีเฉพาะพุทธศาสนา ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเร
เช้านี้มีกิจแล้ว คงไว้โม้วันหลังอีก นี่เป็นธรรมแห่งมุตโตทัย ที่ออกจากใจโดยไม่ต้องง้อตำ
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 6 กันยายน 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง