กูถูกมึงผิด ใครคิดอย่างนี้มันก็เลว

กูถูกมึงผิด ใครคิดอย่างนี้มันก็เลว

1266
0
แบ่งปัน

คำว่าธรรมะนี่ จะมีพระพุทธองค์เจ้าหรือไม่มีพระพุทธองค์เจ้า ธรรมะมันก็แสดงตัวมันก็มีของมันเช่นนั้น นี่พระพุทธองค์ทรงตรัส

ท่านนั้นเป็นผู้ให้คำสมมุติบัญญัติแห่งธรรมทั้งหลาย ตามที่ภูมิปัญญาได้เห็นแจ้งในธรรมทั้งหลายเหล่านั้น

ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา นี่…มันภาษาชาวบ้านที่ได้ฟังกันง่ายๆ ที่เราแปลๆเขามาเป็นภาษาเรา แต่จะทำให้เข้าใจผลแห่งกาลมันผิดไป

ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นตถาตา นี่..ผู้เห็นธรรมก่อนใครเราเรียกแทนตัวพระองค์ได้ ว่า ตถาคต

ความเป็นตถาตค มันเป็นรากศัพท์ทางบาลี ที่ใช้แทนชื่อตัวพระพุทธองค์

คือผู้มีปัญญาเห็นความเป็นจริงก่อนใครทั้งหมด ว่าธรรมชาติทั้งหลายมันเป็น ตถาตา

ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา ไม่ใช่เห็นเรือนร่างแห่งพระพุทธองค์

แต่เห็นตรงตามความเป็นจริงที่พระพุทธองค์ชี้ถึงความเป็นตถาตา

ว่าสรรพสิ่งทั้งหลาย มันก็เป็นของมันเช่นนั้นเอง มันมีเหตุมีปัจจัยเป็นธรรมดา

ผู้ที่เจริญรอยเดินตามๆ กันมา ก็ย่อมมองเห็นในสิ่งที่พระพุทธองค์ ชี้ให้มองให้เป็น

เมื่อมองเห็นธรรมแห่งความเป็นตถาตา

นี่…ได้ชื่อว่า มองเห็นธรรมตามที่พระพุทธองค์ทรงพบเจอ

ธรรมะ ไม่ว่าใครจะเห็น ก็ย่อมมองเห็นในสิ่งเดียวกัน คือ ตถาตา

แม้รู้สมมุติที่แตกต่างรายละเอียดไม่เหมือนกัน หรือไม่รู้อะไรเลย แต่ต่างก็เห็นถึงความเป็นตถาตาเหมือนๆกัน

เพียงแต่วาสนาจริตมันไม่เหมือนกัน เราจึงควรศึกษาให้ถึงธรรมและมองเห็นธรรม ก่อนที่จะไปติเตียนตำหนิและฟาดฟันใคร

>> : สงสัยคงจะมีบางคน ไม่ค่อยชอบผมเท่าไรนัก ในฐานะที่ผมอยู่ในกลุ่มพุทธวจนะ

<< พระอาจารย์ : ที่นี่เป็นบ้านน่ะ พลัง ธรรมชาติ ไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนอะไรไดๆ หรอก

ไม่แยกว่า นี่…. กลุ่มพุทธวจน นี่… กลุ่มธรรมกาย นี่… กลุ่มบุญญพลัง

มิตรก็คือมิตรซิ ไม่ใช่ศัตรู

หากถกถามธรรมกันอย่างฉันมิตร และฟังเหตุฟังผลกันเพื่อก่อเกิดภูมิปัญญา

ไม่มายึดว่า ข้าถูกเอ็งผิด ข้าดีเอ็งชั่ว หรือส่อออกมาในทางฟาดฟันโดยเจตนา แทนที่จะไถ่ถามกัน เพื่อความกระจ่างแห่งธรรม

บางคนมันเข้ามาดึงดัน มันจะเอาชนะคะคาน

กูถูกคนอื่นผิดหมด เช่นนี้ การถกเถียงธรรมกันมันก็ย่อมเกิดกันเป็นธรรมดา

ถ้าการถกเถียงนั้น ลงกันด้วยเหตุด้วยผล เช่นนี้ก็เป็นการปราศัยที่เกิดภูมิปัญญา

แต่นี่ส่วนใหญ่ ตัดแปะมา แล้วอ้างตำรา เอาตำราเป็นสรณะ ไม่ฟังเหตุไม้ฟังผล วิวาทะมันจึงเลยเถิด

คุยกันฉันมิตร ทุกคนย่อมเป็นมิตร เพราะเรามันต่างเป็นพุทธศาสนิกชนด้วยกัน

แต่บางคน แค่เห็นชื่อ มันก็จะฟัดกันแล้ว มันไม่ฟังเหตุฟังผลกัน เพราะมันเคยฟัดกัน

หมาตัวเดียวมันเห่า มันก็หนวกหูอยู่ ถ้าขืนไปขู่อีก มันก็จะเป็นหมาสองตัวเห่าใส่กัน มันก็ยิ่งหนวกหูหนัก

แต่นี่บางทีรุมกันฟัด ก็ต้องปล่อยให้ฟัดกันไป ห้ามไม่ไหว

ห้ามเมื่อไหร่ก็จะเพิ่มหมาตัวใหม่ ที่เห่าใหญ่ให้มันหนวกหูเพิ่มหนักเข้าไปอีก

ที่นี่ต้อนรับทุกๆคน พร้อมอ้าแขนรับ แต่ถ้าคิดจะฟัดจะกัด โอเค…เราก็มากัดมาฟัดกันให้พอมีแผลเวอะแหวะกันไป แล้วมาเป็นมิตรกันไหม่ที่นี่ก็โอเค

พระธรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง “เข้าใจธรรมอย่างโง่ๆ ด้วยความฉลาดแห่งความโง่ ” ณ วันที่ 9 มีนาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง