การใช้แรงกายในการสร้างกุศล
ที่นี่ตอนนี้ แดดร้อนและแห้งอบอ้าวมาก ยากที่พวกเราจะฝืนกำลังสู้
แต่พวกเราต่างก็ขอสู้ สู้ทั้งๆ ที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เลย
การได้เค้นแรงกายแรงใจเพื่อ
เป็นการฝืนและทวนกระแสแห่งห
การทำทานที่ยิ่งใหญ่ คือทานที่ออกไปจากแรงกาย แรงใจ ที่ไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทน
เรานำน้ำมารดทิ้งที่โคนไม้ รู้ไหม ผลมันเกิดที่ปลาย
แต่ผลนั้น ช่างแม่งมัน ขอให้ใจดวงนี้ ได้มีน้ำรดไปยังโคนไม้อย่าง
แม้เราจากไป ไม้เพิ่งจะมาให้ผล เหล่าลูกหลานเขาก็ยังได้ยล
ผลจะหอมจะหวานมากน้อยเพียงไ
เราขอรดโคนไม้ไว้ แค่ลำต้นพอแตกรากใบ แผ่ร่มเงาสาดไสวให้แก่ลูกหล
เราพอใจที่ได้มีส่วนในเงาไม
นี่..ผู้มีใจในกระแสแห่งจาค
ใจที่เป็นทาน ใจที่เสียสละ เป็นปกติที่ตั้งแห่งใจ
ย่อมเป็นไปแห่งผู้ดำเนินไปใ
ทานบารมี เกิดจากการสละที่ยิ่งใหญ่แห
บารมีคือ “กำลังใจ” เป็นกำลังแห่งภูมิให้เกิดกา
ใจเช่นนี้มีรากฐานมาจาก ใจที่ดำเนินในร่องแห่งที่ตั
ที่ตั้งแห่งใจในร่องครรลองน
จาคานุสติกรรมฐานนี้ เป็นกองกรรมฐานที่ยิ่งใหญ่ เป็นกำลังแห่งความเป็นไปในก
สีลานุสสติกรรมฐาน เป็นกองกำลังใหญ่มีความเป็น
กรรมฐานสามกองนี้อาศัยเกิดก
ด้วยการที่เรา มีสติทรงไว้ใน ..พุทธานุสติกรรมฐาน ธรรมมานุสติกรรมฐาน และสังฆานุสติกรรมฐาน
นี่ กรรมฐานทั้งหกกอง มันปรากฏขึ้นในใจเราผู้เป็น
การที่เรามาชดใช้แรงกายแรงใ
เป็นยอดแห่งนักกรรมฐานในกอง
กองแรกที่ทำให้เราหลั่งไห
นี่..เป็นจุดเริ่มแรกของเรา
หากเราระลึกถึงพระพุทธองค์ เราจะให้ความหมายเป็น ผู้มีที่ตั้งแห่งใจ ในกอง พุทธานุสติกรรมฐาน
พุทธานุสติกรรมฐาน นี่… ถ้าว่ากันตามความเป็นจริง ตามกระแสแห่งพระป่าๆอย่างข้
จะแปลว่าเป็นการระลึกถึงพระ
การระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าน
กล่าวอย่างนี้ พวกจำเขามามันก็คงได้โจมตีข
พุทธานุสติ นี่.. เป็นการระลึกถึง ..พระปัญญา.. เป็นพระปัญญาแห่งภูมิองค์พร
ส่วนกองกรรมฐานแห่ง ..ธรรมมานุสติ.. เป็นการระลึกถึง พระธรรมดา
พระธรรมดาคือ ความจริงอันเป็นธรรมดาอันปร
ไม่ใช่คำบัญญัติธรรมในตำรา อย่างที่เรายึดหาและเข้าใจ
คำบัญญัติธรรมในตำรา เรียกว่า สังฆา เป็นอัตตาสมมุติที่บัญญัตขึ
การระลึกถึงพระพุทธองค์เจ้า
ระลึกถึงพระสงฆ์องค์ได ก็เป็น สังฆานุสติ
สังฆานี่ ความหมายมาจากหมู่เหล่า ในสรรพสิ่งที่เป็นอัตตาสมมุ
อะไรที่บัญญัตืสมมุติกันขึ้
กล่าวอย่างนี้ สำหรับนักจำทั้งหลาย คงได้โต้แย้งกันชิ๊บหาย
แต่ไม่เป็นไร ข้าเห็นประจักษ์ใจในธรรมแห่
นี่..เป็นผู้ที่มีใจอยู่ในก
คือ พุทธานุสติ
ธรรมมานุสติ
สังฆานุสติ
ผู้มีใจแห่งความมีที่ตั้งแห
จาคานุสติ
ศีลลานุสติ
และเทวตานุสติ
นี่..หากระลึกถึงความตายขึ้
ผู้ที่ระลึกถึงความตายอยู่เ
มรณานุสติอันมีฐานมาจาก พุทธานุสติ ธรรมมานุสติ สังฆานุสติ จาคานุสติ ศีลลานุสติ และเทวตานุสติ
ย่อมมั่นใจว่า ใจดวงนี้ กายแตกสลายลงไปเมื่อไหร่ เขาย่อมได้ในส่วนแห่ง “สุคติ” คือไปสู่ภูมิแห่งความสว่างแ
หากเขาประคองใจ ไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดี รักษาความดีนี้ไห้เจริญยิ่ง
กายแตกเมื่อไหร่ ใจประคองได้เช่นนี้ เรียกว่า พระโสดาบันประเภท สัตตักขัตตุง กลับมาเกิดเผชิญทุกข์อีกไม่
ข้าขี้เกียจจิ้มแล้ว มีอะไรมาคุยกันซึ่งหน้าเลยด
รายละเอียดปลีกย่อยแห่งธรรม
วันนี้คงต้องขอสวัสดี
พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง ” กำลังใจแห่งผู้มีกำลังบุญ ” ณ วันที่ 17 มีนาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง