ชนะสงครามใจ ดุจได้รัตนมณีใสในฝ่ามือ

ชนะสงครามใจ ดุจได้รัตนมณีใสในฝ่ามือ

1180
0
แบ่งปัน

ขอสาธุคุณยามเช้า ให้มีแต่ความสุขความเจริญ

ในภาพนี่ กำลังเทขี้อยู่ นี่ เทสบายมาก เมื่อใจมันทำสงครามชนะผ่านไปได้แล้ว

เมื่อก่อนนี่ รังเกียจนัก แทบเป็นแทบตาย เมื่อสยบใจลงได้ด้วยเหตุด้วยผล และกำลังใจที่จะฝ่าฟัน

ชัยชนะอันเป็นนิรันดร์ ก็เป็นของเรา

ตอนเล่าเรื่องเหล่านี้ ให้น้องๆ ฟัง พอนำมาลงเฟส

เหล่าอรหันต์เฟสก็โจมตีว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เอาขี้ราดหัว ธรรมข้อนี้ไม่มี ไม่มีใครบรรลุได้ด้วยการเอาขี้ราดหัว

นี่..พวกบ้าตำรามันออกมาวิจารณ์ หาว่าอย่างนั้นหาว่าอย่างนี้

ดูถูกดูแคลนธรรมอันเอาขี้ราดหัว

คนเหล่านี้มันไม่ได้เข้าใจเรื่องจิตอะไรเลยจริงๆ

ไม่เคยเผชิญการแก้ปัญหาทางจิต บ้าตำราเอาแต่มโนอย่างเดียว

คนกลัวผี กลัวนั่นนี่ พระพุทธองค์ก็ทรงชี้ ให้เดินเข้าไปหาสิ่งที่กลัว

หาเหตุที่กลัว แม้พระพุทธองค์เอง ท่านก็กลัว

อยู่ผู้เดียวในป่ามันน่ากลัว

เมื่อมันน่ากลัว มันก็ต้องทำสงครามกับความกลัว

ถ้าไม่มีสงครามระหว่างกัน ความกลัวนั้นก็จะกลัวไปกันจนชั่วนิรันดร์

คนอยู่ป่า ถ้ากลัวรูป กลิ่น เสียงอยู่ มันก็อยู่ในป่าอันโดดเดี่ยวและน่ากลัวไม่ได้

การปฏิบัติก็จะไม่บังเกิดผล….

แค่เปลี่ยนจากความกลัวผี มาเป็นกลัวความสะอิดสะเอียนของกลิ่นขี้ที่ต้องนำไปเททิ้ง

ใจชาตินักรบ มันก็ต้องทำสงครามกันหน่อย

สงครามตัณหานี่ มันเป็นสงครามที่แสนจะชนะได้ยากยิ่ง

เรามันมักจะพ่ายแพ้ ไม่เคยเลยที่จะไปชนะใจที่ขี้แพ้

แค่เล่าเรื่องชนะใจที่พ่ายแพ้ต่อความสะอิดสะเอียนขี้

โดยการเอาขี้มาราดหัวที่ใจมันแสนสะอิดสะเอียน

และอยู่อย่างน่าสะอิดสะเอียนเรียกว่าทำสงครามกับมัน แบบตายกันไปข้าง

ที่สุด… ข้าก็ชนะ ชนะใจที่มันขี้แพ้อย่างราบคราบ

แต่ความชนะนี้ เมื่อนำมาเล่าขาน กลับกลายเป็นว่า…

นี่เป็นการปฏิบัตที่ไม่ถูก พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน ไม่มีในตำรา

ไอ้ห่า..เอาขี้มาราดหัว ใครเขาทำกัน ผ่านมาสองพันกว่าปี ไม่เคยได้ยินการปฏิบัติโดยการเอาขี้ราดหัว

นี่..มันเอาวิธีการเอาขี้ราดหัว ที่ข้าเล่ามาเป็นผล

มันไม่เอาเหตุที่ว่า ทำไมต้องเอาขี้ราดหัว

ใจคนเรามันหยาบช้าดื้อด้านไม่เท่ากัน

การทำสงครามใจกัน มันก็ย่อมหลากหลายวิธีการ

ผู้ปฏิบัติหากเอาจริง มันก็ต้องกล้าเผชิญจริงซิ

การแก้ไขอุบายจิต มันต้องแก้กันในขณะที่ใจมันทุกข์นั่นแหละ

ทุกข์กับอะไรก็ต้องสาวไปหาใจที่มันเป็นเหตุแห่งทุกข์

มัวมานั่งอ่านแล้วมโนเอา นั่นไม่ดีนี่ไม่ใช่

ไอ้เหี้ย..ชาตินี้แค่ขี้ยังชนะไม่ได้ โม้ธรรมไป อับอายหมามันไปเปล่า ถ้าจะไปบอกใครเขา ว่าใจนี้มันกำลังฟาดฟันต่อสู้กับกิเลส

เช้านี้วันอาทิตย์ คุยกันเรื่องขี้แต่เช้าเอาฤกษ์ก่อน เหอๆๆ

ทุกวันนี้ ใจที่เคยรังเกียจขี้ มันก็ยังรังเกียจอยู่นั่นแหละ เป็นธรรมดาของมัน

แต่มันมีปัญญาพอที่จะอยู่กับมันอย่างแข็งแรง ไม่ได้ทุกร้อนกับความรังเกียจนั่น

นี่..มันเป็นกำลังที่ยิ่งใหญ่ในหมู่ข้าศึกที่ไม่มาเป็นพิษภัยต่อใจ

ข้าศึกมันมีก็มีไป แต่ใจมันไม่หวั่นไหวและสะท้านใจ ต่อกลิ่นอายแห่งข้าศึก

ไม่มีนักรบคนไหนทำศึกโดย ..ไม่มีบาดแผล..

แต่คำว่า ” แค่บาดแผล ” มันไม่ได้มีผลมาทำลายใจที่มันมีพลังและยิ่งใหญ่ต่อการทำศึก

นักรบใจหีมด โดนดาบข้าศึกสะกิดผิวหน่อย

สะดุ้งรนรานหำเหี่ยวหด ถดถอยแหยงต่อบาดแผล

สู้ต่อไปใจคงละลายและพ่ายแพ้

แค่บาดแผลเล็กน้อยยังดูเป็นเรื่องใหญ่ ไฉนเลยที่จะไปทำการรบราวีกับจอมทัพแห่งข้าศึก

ข้านี่ ชนะมันอย่างเด็ดขาด ชนะมันอย่างนิรันดร์ ชาตินี้ความน่าสะอิดสะเอียนแห่งขี้ที่เคยเป็นข้าศึก

มันเป็นแค่แมลงรำคาญเล็กน้อย ที่ไร้พิษภัย

ศึกเล็กยังชนะไม่ได้ จะกล่าวไปใยกับศึกใหญ่ที่มันรอตะหง่านอยู่เบื้องหน้า

แค่ชกต่อยกับโจรกระจอก ใจยังวุ่นวายแทบบ้า

ไฉนเลยจะไปกล้า ท้าฟันกับมหาจอมโจรใหญ่

ศึกเล็กใจยังพ่าย ศึกใหญ่ อย่าไปทำกร่างดีกว่า

วันเวลามันหล่อหลอมให้ใจแกร่ง

แต่ความแกร่งทั้งหลายนี้ มันต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดแห่งบาดแผล

ใจที่มันก้าวผ่านรอยปริแตกแห่งรอยแยกของบาดแผล

ย่อมเป็นใจที่บาดแผลน้อยใหญ่ ไม่ทำลายใจที่จะก้าวไปทำศึกใหญ่ที่ชนะได้ยากยิ่ง

เรา..เตรียมตัวเตรียมใจรักษากำลังใจ ที่จะทำศึกใหญ่แห่งชีวิตเราให้ได้ซักครั้งกันแล้วรึยัง..??

หรือทำแต่ศึกที่เป็นอากาศมโนฝัน..!!

ศึกที่มีแต่กลิ่นขี้ฟัน เจ้าของฝันก็คงได้แก่เหี่ยวตาย อย่างไร้ความหมายที่ได้เกิด กำเนิดผ่านช่องคลอดแม่ออกมา

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง เอาแต่ข้าว ไม่เอารำเอาฟางเอาแกลบ ณ วันที่ 8 มีนาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง