เอามโน มาเป็นสรณะ

เอามโน มาเป็นสรณะ

1338
0
แบ่งปัน

:อยากทราบว่าท่านที่ใช้นามว่าแฝงว่าธรรมกะ บุญญพลัง นี้เป็นใครคะ เหตุใดท่านจึงไม่แสดงตัวอย่างเปิดเผยล่ะคะ

การที่ท่านมาอธิบายธรรมลักษณะนี้สร้างความสับสนให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก เพราะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านอธิบายหรอกค่ะ

เพราะท่านก็ยังใช้ภาษาที่คนทั่วไปเข้าใจไม่ได้เหมือนกัน คนที่ปรุงแต่งก็มีไม่น้อย แต่ของจริงที่พิสูจน์ได้เป็นปัจจัตตังเฉพาะบุคคลก็มีที่เรียกว่ายืนยันผลการปฏิบัติ

ไม่ใช่จิตปรุงแต่งอย่างเลื่อนลอยไม่มีอะไรมาเป็นเครื่องพิสูจน์ ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีอยู่จริง เพียงแต่มนุษย์เข้าไม่ถึงถึงความมีอยู่จริงนั้นต่างหาก

แม้แต่ตัวท่านที่อธิบายมานี้ ดิฉันก็ไม่ทราบว่าท่านปฏิบัติอยู่ในระดับไหนแล้ว หรือเพียงเพราะอ่านมามากเหมือนกัน ถ้าท่านปฏิบัติได้จริง ท่านจะไม่พูดแบบนี้

เป็นการลบหลู่พระอรหันต์เจ้า ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ทุกองค์ ซึ่งครูบาอาจารย์ทุกองค์ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันถึงความมีอยู่จริง สาธุค่ะ

พระอาจารย์ : สำหรับ สุนิรินธน์ จิระตรัยภพ

ในเมื่อเพิ่งเห็นข้อความ ไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยฟังกัน ไฉนเลย ถึงได้มาตัดสินและตำหนิกัน

ข้านี่ว่ากันไปตามความเป็นจริง ที่ทุกคนสามารถตามรู้ตามเห็นและเข้าใจได้

หลวงพ่อฤษีลิงดำเอง เป็นผู้จูงข้าข้ามผ่าน จุดแห่งอัปนาสมาธิ ที่ข้าติดอยู่หลายปี ไฉนเลย จะไปให้ร้ายกล่าวตู่ครูบาอาจารย์

การตัดสินคนอื่นโดยเอาความคิดตน เพราะความไม่ถูกใจ และไม่ได้สาวผลที่ไม่ถูกใจไปหาเหตุ

แต่ดันมายัดเยียดตำหนิติเตียน เพราะเหตุแห่งตนเข้าทึกทักใจเอาเอง

นี่.. ใจมันจัญไรอย่างป้าๆ แล้ว รู้บ้างไหม

ข้านี่ นามธรรมกะ จะบอกว่าเป็นนามแฝงหรือ ผีมันก็เรียกกันอย่างนี้

ใครเขาก็รู้แทบจะทั่วบ้านทั่วเมือง ว่าไอ้พระหน้าเหี้ยๆ เช่นนี้ น่ะมันกวนตีน ไม่ใส่ใจใครแม่ะงอยู่แล้ว จริตสันดานมันก็เป็นของมันไป

ไม่ได้ปกปิดเพื่อทำตัวเป็นพระดีในสายตาใคร ไม่ได้บวชมาเพื่อหวังศรัทธาใคร ไม่ได้บวชมาเพื่อเป็นครูบาอาจาย์ใคร

รู้เห็นยังไงข้าก็ว่าไปตามธรรมของมันเช่นนั้น พร้อมเหตุพร้อมผล ผิดก็ด่าแม่มาซิ ยกในข้ออรรถข้อธรรมมาด่าแม่กัน ว่าธรรมนี้มันผิด มันไม่ใช่ เช่นนี้ไม่เป็นไร

เราก็อธิบายกันไป ถ้าต้องการความหมายที่ขัดหูขัดตีนเรา ตรงไหนไม่ใช่ก็ขอให้ว่าๆกันมา ไม่ใช่แค่ความไม่ถูกกิเลสใจ แล้วมาเพ่งโทษ

ธรรมที่ข้าแสดง แสดงออกไปจากใจที่มันเห็น ที่มันประจักษ์ เป็นไปเพื่อการถอดถอนอุปปาทาน เพื่อความรู้ตรง เพื่อความคลาย แต่ด้วยจริตวิสัยทางภาษา

มันไปขัดธรรม มันไปขัดใจของพวก ยึดธรรม ยึดครูบาอาจารย์ ยึดนั่น ยึดนี่ ที่พวกมันยึดๆ และคิดๆ เอา ว่าเป็นพระกวนส้นตีน เป็นพระไม่มีสกุล เป็นพระเถื่อน พระดิบ

พูดจาก็หยาบคาย รับไม่ได้ ผิดพระธรรมวินัย ไม่สำรวม ยิ่งไอ้พวกทุศรลนี่ เกลียดข้ายังกะส้นตีนเหยียบขี้ที่เดียว นี่ภาษาอย่างนี้ รูปหน้าก็โชว์หรามาเป็นปีๆ นี่ยังปกปิดกันอยู่อีกหรือ

ไอ้ห่า ธรรมมันก็ต้องว่ากันไปตามธรรม หากเอาธรรมมาว่าด้วยความเป็นตัวกู เป็นตัวเป็นตน ศาสนามันก็ชิ๊บหายป่นปี้ไปยังลูกยังหลานอีกซิ

มโนมันก็ชี้อยู่แล้วว่า เป็นความคิด และความคิดนี้มันปรุงแต่งได้ เพราะความเป็นมโน

อย่างป้านี่ หากมันเข้าไปเห็นจริง ยืนยันแดนนิพพานจริง พบเห็นพระพุทธเจ้าจริง

แล้วสิ่งเหล่านี้ มันไม่ช่วยให้ใจมันสะอาดขึ้นมามั่งไม่ได้หรือไง

นี่..ยังไปโจมตี คนนั้นคนนี้ ชอบท่าซุง ไม่ชอบธรรมกาย ชอบนั่นนี่ ไม่ชอบนี่นั่น

อาศัยตัวตนตัดสินใจเอา นั่นถูกใจ นี่ไม่ถูกใจ

อย่างงี้ ตนเองถูก ตนเองดี คนอื่นเหี้ยแม่งหมด หากผิดไปจากใจตนคิด

นี่มันตัวตนทั้งแท่ง กิเลสทั้งตัว แล้วคนเช่นนี้ จะมาบอกว่า ตนเองคิดถูก คนอื่นผิด นี่มันเอาแต่ความคิด ที่อ่าน ที่จำ มายืนยัน

ภาษาข้านี่ ฟังกันง่ายๆ ไม่ได้สร้างความสับสนอะไรเลย หากฟังอย่างใจเป็นกลาง

นี่..มันบ้าตำรา บ้าครูบาอาจารย์ จนหลงงมงาย ใครแตะอะไร ก็หงุดหงิดท่าเดียว เป็นพวก อาจารย์กู วัดกู

แล้วนี่ มาเดาสุ่มว่าข้านี่ อ่านมามาก ลบหลู่พระอรหันต์เจ้า นี่มันติเตียนด้วยการเอาตัวตน เข้าไปตำหนิติเตียนทีเดียว

ถ้าคำตอบนี่ มันมีข้อตำหนิ วัดท่าซุง หรือหลวงพ่อฤษีลิงดำ เออ มันก็น่ามารุมกันกระทืบข้าหน่อย ในฐานะที่กวนส้นตีน

หนอย..เสือกปากหมา ต่อว่าครูบาอาจารย์เรา ที่มาชี้สอนจิต ว่าไม่ดี ว่าชี้ผิด นี่มันเป็นศิษย์คิดล้างครูนี่หว่า นี่อย่างนี้ด่าไอ้สัตว์กันได้เต็มปากเต็มคำ

อ่านให้ดี ฟังให้ดี ก่อนจะมาชี้ผิดใคร อย่าเพิ่งไปตัดสินใจ

ตายไป มันจะได้เข้าเฝ้าพระได้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่มโนเพียงอย่างเดียว แบ้วไปเที่ยวเพ่งโทษคนอื่นเพราะเหตุแห่งกิเลสตน

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง นิพพาน สูญหรือ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง

: มีพระองค์หนึ่งบอกว่าเราไม่ควรไปสนทนากับผู้ที่ไม่ใช่สายเดียวกัน เพราะเขาไม่รู้ไม่เห็นเป็นการสร้างบาปให้เขาและตัวเราก็จิตเศร้าหมองด้วย

ถ้าคุณบอกว่าเป็นนิมิตหลอกก็แสดงว่าศิษย์วัดท่าชุงศิษย์หลวงพ่อสดถูกหลอกเพราะฝึกกสินสายเตวิชโช

: เรื่องจิตนี่ จะมาบอกว่า นี่ สาย เตวิชโช นี่สาย ฉฬภิญโญ นี่สายนั่นนี่ นู่น

นี่มันพวกบ้าสาย คุณ ปัญญา เท่าหางอึ่ง

นิมิตนี่ มันเป็นอากาศ มันเป็นเครื่องหมาย มันปรุงขึ้นมา มันก็แสดงตัวอย่างเด่นชัดอยู่แล้ว

การเพ่งกสิณนี่ มันเป็นตัวทำให้จิตสงบ เป็นจิตเดียว มันง่ายในการฝึกให้ใจมันเป็นสมาธิ

เพ่งนี่ มันเป็นเปลือก เนื้อเยื่อนี่ มันเป็นปัญญาโน่น

การเพ่งลูกแก้ว ถ้าพาคนไปนิพพานได้ ก็ไม่ต้องอาศัยปัญญาแล้วซิ

เพ่งเข้าไปเถอะ พอถึงอาการปิติจิต มันก็ปรุงของมันตามเจตนาที่ใส่ลงไปนั่นแหละ

และมันปรุงโดยไม่รู้จบ มันหานิพพานไม่เจอ มันขาดปัญญา

จิตที่ไหนมันจะนำปัญญา มีแต่ปัญญานี่ เข้าไปย้อมนำจิตให้มันสว่างเห็นแจ้ง

จิตมันก็หลงของมันด้วยอำนาจแห่งอวิชชาอยู่แล้ว

ถ้าให้มันปรุงของมันไป แล้วเจ้าตัวเอาสติตามรู้ มันก็รู้ก็ตามด้วยอำนาจแห่งความหลงแห่งจิต ที่มันหลงเป็นธรรมดาของมันอยู่แล้ว

ปัญญาซิ เป็นตัวย้อมจิต มันย้อมให้เห็นตามความเป็นจริง

ไม่ใช่โง่ตามการปรุงแต่งแห่งจิต จิตโง่ สิ่งที่ปรุง มันก็ปรุงอย่างโง่ๆ เหมือนกัน

อย่ามายัดเยียดว่า ศิษย์วัดท่าซุงและศิษย์หลวงพ่อสด ถูกหลอก

ไม่มีใครถูกหลอก ที่ท่านชี้ ท่านชี้เพื่อให้เป็นเบื้องต้นในการเข้าสู่ ความเป็นปัญญา

ไม่ใช่แช่อยู่แค่ว่า ต้องเพ่งกสิณแล้วแค่ไหนแค่นั้น เพ่งกสิณแล้วเข้านิพพานได้ มันก็บ้ากันเท่านั้นชาวพุทธเรา

ข้านี่เป็นตัวเพ่งจนจนเทียนลอย จะให้มันแตก มันใหญ่มันเล็กออกเป็นกี่ล้านดวงก็ได้ มันเป็นอาการของจิตปรุงทั้งนั้นแหละ นี่สำหรับข้า

สมัยบวชเณร ใน พ. ศ 12 พี่เลี้ยงจากวัดปากน้ำก็มาสอนเพ่งลูกแก้ว แค่เขาบอกว่าเพ่งแล้วเห็นพระไหม

แค่เห็นพระในลูกแก้วนี่สบาย พอนึกหาปุ๊บมันก็เห็นปั๊บ เห็นพระเพ่งพระ ก็เห็นพระอีก มันเห็นพระซ้อนพระ ลึกๆลงไปไปไม่รู้จบ

นี่..จิตมันปรุงลงไปตามเจตนาที่เป็นสมาธิ เพราะมันตั้งวิตกว่าจะเห็นพระ มันเห็นไม่มีที่สิ้นสุด
การเห็นเช่นนี้มันนิพพานตรงไหน พอถอยออกมา ข้าก็เหี้ยเหมือนเดิม ยังปีนศาลาการเปรียญขึ้นไปเอาลูกนกเอี้ยงมาเลี้ยงอย่างหนุกหนานเลย

เพ่งนี่ มันไม่เกิดปัญญา แต่มันเป็นกำลังให้ปัญญาเกิด นี่..ต้องแยกแยะ อย่าเพิ่งไปแช่กับความคิดและเหมารวม

เพ่งลูกแก้วนี่ มันเป็นอาโลตกสิณ มันทำให้เกิดทิพย์จักขุญานได้ และเจ้าทิพย์จักขุญานนี่ มันเป็นของเล่น ที่จิตมันปรุงแต่งขึ้นมา ใครไปยึดเอามาเป็นสรณนี่ ก็บ้าเต็มทน

เขาฝึกกันเพื่อมุ่งไปสู่ความมีปัญญา ไม่ได้ฝึกกันเพื่อไปแช่หรือเพื่อไปเป็นกัน

ฝึกกันด้วยความคิดเช่นนี้ มานะและทิฏฐิมันก็จะตัวเบ่อเร่อ ใครพูดไม่เข้าหู มันก็จะไปไล่งับเขาเอา นี่..เพราะกิเลสใจที่คิดว่าใช่ มันเอาตัวเข้าไปเป็น

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง นิพพาน สูญหรือ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง