ฝึก……สติแทบแตก ตอนที่ 2

ฝึก……สติแทบแตก ตอนที่ 2

1112
0
แบ่งปัน

เมื่อได้เวลาอันควรทางจิตดีแล้ว อีคราวนี้ ข้าก็ได้เลื่อนชั้นกะเขามั่ง

รุ่นพี่ทำพิธีบวงสรวงยกครู จัดบายศรี ร้องขอต่อฟ้าต่อแผ่นดินเพื่อให้รับรู้ โดยใช้ข้าวตอก 7 ถ้วย ดอกไม้ 7 ดอก ใช้ดอกบัว เทียนบาท 14 เล่ม ธูปกำหนึ่ง เท่าไหร่จำไม่ได้ ยกพนมเหนือเศียรเกล้า แล้วต่อด้วยเคล็ดคาถา โอ๊ยยยย อีกเยอะแยะ แต่ต้องทำ เพราะเขาเชื่อกันมาอย่างนั้น

อีคราวนี้ มันต้องใช้กำลังใจสูงเพราะทางเดินจงกลมสูตรของที่นี่ มีการหยุดถึง 5 ระยะ คือทางเดินจงกลมนี้ มีระยะยาว 50 เมตร รึ 30เมตร จำไม่ได้ มันนานแล้ว

ก็ความยาวเท่ากับวิหารนั่นแหละ ตรงกลางจะมีเสาหลักปัก เราต้องเดินกำหนดจิต ไปหยุดอยู่ตรงนั้นตรงระยะ 25 เมตรนั้น ทั้งไปและวนกลับ คือเดินวนเสาหลักกันจริงๆ ไม่ใช่เดินไปจนสุดแล้วหันกลับ อย่างที่เราเคยเห็นเคยทำกัน

ของเขาเดินไปหยุดพิจารณาตรงหลักกลาง แล้วเดินต่อไปจนสุด หยุดพิจารณา แล้วจึงเดินอ้อมหลัก นี่เขาสืบสารกันมาอย่างนี้ นับจากสมัยอยุธยาโน่น

เป็นประเพณีของเขาที่นั้นสมัยนั้น เป็นการฝึกอย่างปกปิด คนภายนอกไม่ได้รับรู้การฝึกปฏิบัติ พวกเขาฝึกกันมาแนวจิต ตั้งมั่นเพื่อการเผชิญ กับสิ่งเร้นลับโดยเฉพาะ

ข้าเอง เมื่อยกครูเรียบร้อย ก็สามารถขึ้นทางจงกลมได้ เขาเล่ากันว่า การเดินจงกลม หนักและน่ากลัวกว่าการนั่งสมาธิ เพราะตามันเปิด มันเห็นผีที่นั่งขอส่วนบุญ
ข้างๆทางเดินจงกลม นั่งเรียงกันเป็นแถว โห๋ยยย มันน่ากลัว.. และที่สำคัญ ต้องเดินกลางคืนในป่าช้า ข้างๆโบสถอยู่คนเดียว

ตอนนั้นใจข้ายังไม่ตั้งมั่น ซักเท่าไหร่ และที่นั้นก็แสนจะน่ากลัว ต้นสักแต่ละต้น สูงตั้งคอแหงนฟ้านู่น ต้นไม้แต่ละต้นใหญ่ๆสูงๆ โคตรๆของน่ากลัว ใครเดินจงกลมผ่านเวทีนี้ไปได้ ใจก็เจ๋งละวะ

รุ่นพี่บางคน เดินอยู่ดีๆ แหกปากร้องลั่น เป็นบ้าไปเลยก็มี แถมเรื่องเล่าแต่ละอย่างที่เขาเล่าๆกันมา โอ๊ยยย เลิกแม่งงไปเลยดีกว่า. มันน่ากลัว เขาถึงต้องฝึกจิตจากการนั่ง ให้ตั้งมั่นก่อน พอผ่านการสอบอารมณ์ได้ จึงให้ขึ้นการเดินจงกลม

เพราะฉะนั้นมันไม่หมูอย่างที่เราคิด มันบ้ากันมามากแล้ว และที่สำคัญ นี่เป็นสายนักรบ. ไม่ใช่สายที่เขาฝึกๆกัน นักรบต้องเผชิญจริง เจอจริง
และบ้าจริง

ที่นี่กว่าจะผ่านไปแต่ละคน ส่วนใหญ่ เกือบบ้าทั้งนั้น บางคนต้องฝึกจิต โดยการรับผ้าไตรก่อน นี่รุ่นเก่าๆเขานะ โดยเฉพาะพวกพระ

ต้องออกไปรับผ้าบังสุกุลจากศพตอนเที่ยงคืน เขาจะเอาศพมัดตราสังข์ พนมมือ นอนราบไว้บนกระดาน

แล้วเอาผ้าไตรใส่ไว้ระหว่างแขน ของศพ พระหรือพวกฝึกจิต ที่ต้องการเลื่อนภูมิจิตให้สูงและแกร่งขึ้น เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน เขาจะต้องเดินกำหนดจิตออกไปรับผ้าไตร ที่ป่าช้า

และออกไปรับคนเดียว คืนละคนเท่านั้นเมื่อเดินไปถึงศพ ต้องพิจารณาอสุภะให้แตก ถ้าอสุภะไม่แตกก็สติแตก ศพยักคิ้วแพล็บเดียว กูวิ่งน้ำกระจาย