ใจ เข้าใจมันรึเปล่า เมื่ออยากให้ได้ดั่งใจ

ใจ เข้าใจมันรึเปล่า เมื่ออยากให้ได้ดั่งใจ

847
0
แบ่งปัน

ขอสาธุคุณยามเช้า

ขอให้ร่ำรวยเจริญยิ่งๆ กันทุกคน

ส่งบทธรรมเสร็จ บางครั้งสัญญาณก็ไม่มี

บางครั้งมีกิจอย่างอื่น

บางครั้งมีน้องๆ อยู่กันหลากหลาย

เวลาในการแสดงธรรมจึงเหินห่างออกไป

เพราะขาดสมาธิในการที่จะร้อยเรียงธรรม

ผัสสะย่อมไหลไปตามเหตุแห่งการกระทบ

สติปัญญามันไปวินิจฉัยธรรมแห่งผัสสะในขณะนั้นๆ

ธรรมหน้าเพจจึงขาดช่วง

หากดึงดันที่จะคุยธรรม มันก็จะกลายเป็นธรรมแห่งตัวตน

อาศัยเหตุแห่งความจำได้หมายมั่นในการอธิบายด้วยอำนาจแห่งตัวตน

ธรรมนั้นก็จะขาดเหตุขาดผล และมันจะกลายเป็นสมมุติภาษาที่ไม่ออกมาจากใจที่เป็นธรรมดาของมัน

นี่แหละ ช่วงนี้จึงไม่ค่อยได้กล่าวธรรมอะไรออกมา

ก็ได้แต่กล่าวออกมาจากใจว่า

ขอให้มีความสุขกันทุกๆ คน

ชีวิต อยู่ที่เราเข้าใจธรรมดา

บางอย่าง มันจบไปแล้ว ปล่อยๆ มันไปเถอะ

บางอย่าง มันยังมาไม่ถึง ปล่อยๆ มันไว้ก่อนยังไม่ถึงเวลา

บางอย่าง แม้เผชิญกับใจอยู่ เรียนรู้สิ่งเผชิญนี้ไว้เป็นครู อย่าไปทุกข์ตามกระแสแห่งผัสสะเลย

ทุกข์แค่ไหน ไม่นานมันก็ผ่าน

มีแต่ใจเรานี้ ไม่ยอมวางและข้ามผ่านกองทุกข์นั้น

ลองมองความจริงแห่งชีวิตซิ

ที่ทุกข์เจียนตาย กลายมาเป็นไฟทำร้ายใจ มันเป็นแค่อดีตที่จบไปแล้ว และเป็นแค่อากาศอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

เรามองรอบข้างรอบตัวเราซิ

อะไรบ้างที่มาทำลายเรายามเราเศร้าหมอง

ไม่มีเลย ไม่มีเลย

ที่เศร้าหมองและทุกข์ใจ มันเกิดจากเจ้าของใจ ไปยึดเอาอดีตที่จบไปแล้วและเอาไฟแห่งอนาคตที่ยังมาไม่ถึง มาเผาใจเจ้าของกันทั้งนั้น

นี่ คือความจริงที่เป็นสัจธรรม ที่เราทั้งหลาย มองข้ามความจริงที่ปรากฏอยู่กันไปเอง

ข้านี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ก้าวข้ามกองทุกข์ทั้งปวง

เราอาจจะยึดกันเอาเองว่า

ธรรมดาของสิ่งที่ถูกใจ ต้องเป็นไปตามอาการที่เรายึดและเข้าใจ

เราลองถอยความยึดทั้งหลายนั้น ออกมายืนดูอาการของมันบ้างซิ

ไอ้ที่เรายึดเราหลงนั้น มันเป็นสุขหรือทุกข์

เมื่อยามถูกใจ ทำไมเราจึงชอบไปซะหมด

ยามไม่ถูกใจ ทำไมเราจึงไม่ชอบไปซะหมด

เรามักเอาตัวเราเข้าไปเป็นเจ้าของอาการถูกใจ ไม่ถูกใจ

เมื่อเราไม่ถอยออกมาดูใจเราซะบ้าง

เรามันก็จะเป็นเจ้าของอาการตัวตนแห่งความถูกใจ ไม่ถูกใจ

เมื่ออาการอย่างนี้เกิดกับใจในความเป็นเรา และเราเป็นเจ้าของแห่งอาการใจ

เรา ก็เป็นภัย เป็นทุกข์ กับใจเราเองไม่ใช่ใครเป็น

นี่ เป็นใจที่เต็มไปด้วยกิเลสใจที่ไหลไปตามกระแสล้วนๆ

ข้าขอเป็นกำลังใจ ให้ข้ามก้าวพ้นไปจากกระแส

หยิบหินใกล้ตัวขึ้นมาซักก้อนซิ

แล้วถามใจดูว่ามันก้อนเล็กหรือก้อนใหญ่

ตอบแล้ว ก็ลองถามใครๆ ว่าหินในมือนี้ มันก้อนใหญ่หรือก้อนเล็ก

หากเขาตอบว่าก้อนเล็ก เราชี้ไปที่เม็ดทราย ถามว่า ก้อนไหนมันใหญ่กว่ากัน

ทุกคนย่อมบอกว่าหินในมือเรา ย่อมใหญ่กว่า

หากเขาตอบก้อนใหญ่ เราชี้ไปที่ภูเขา

ถามว่า หินในมือกับภูเขา อะไรใหญ่กว่ากัน

คำตอบย่อมเป็นภูเขา

นี่ หินนี้ในมือเรา มันไม่ได้เล็กมันไม่ได้ใหญ่อะไรเลย

มันเล็กมันใหญ่ เกิดจากใจเราเข้าไปให้นิยามกับมัน

เรา เป็นผู้กำหนดให้มันเล็กหรือใหญ่

ไม่ใช่มันมากำหนดเรา ว่ามันเป็นหินใหญ่หรือเล็กอย่างที่เราเห็น

สรรพสิ่งเกิดจากใจเราที่เข้าไปให้นิยามความหมาย

เรา มองความหมายแห่งนิยามแล้วชี้มาที่ใจเรา

เรา ก็จะเข้าใจในนิยามแห่งสรรพสิ่งทั้งหลาย

สรรพสิ่งทั้งหลายที่มีที่เป็น เกิดจากใจเรา เข้าไปเสือกกับมันเอง

ลูกศิษย์ : กราบเรียนถามค่ะ เมื่อเรามองเห็นอาการแห่งความถูกใจ และไม่ถูกใจแล้วเราควรวางเฉยกับอาการเหล่านั้นใช่ไหมค่ะพระอาจารย์

พระอาจารย์ : ถูกใจนี่ เป็นอาการแห่งจิตที่เป็นกิเลส จิระนันท์

ไม่ถูกใจนี่ ก็เป็นอาการแห่งจิตที่เป็นกิเลส

วางเฉยนี่ ก็เป็นอาการแห่งจิตที่เป็นกิเลส

การวางเฉยกับอาการเหล่านี้ มันเป็นกิเลส แล้วเราจะทำอย่างไรกับมันดีหนอ

เมื่อคำตอบแห่งสัจจธรรมมันเป็นเช่นนี้

คนหนึ่ง เงินเดือน 50,000 มีชีวิตที่อัตคัต

คนหนึ่ง เงินเดือน 20,000 ก็มีชีวิตที่อัตคัด

คนหนึ่ง เงินเดือน 8,000 ชีวิตอัตคัด

คนหนึ่ง ไม่มีเงินเดือน หาเช้ากินค่ำ ชีวิตก็อัตคัด

นี่ ความอัตคัด มันอยู่ที่จำนวนเงินมากน้อย หรืออยู่ที่ตรงไหนหนอ

คนหนึ่ง เงินเดือน 50,000 มีความเป็นอยู่ที่ดี มีเงินเก็บ

คนหนึ่ง เงินเดือน 20,000 8,000 หรือไม่มีเงินเดือน ต่างก็มีความเป็นอยู่ที่ดี และมีเงินเก็บ

อะไรหนอ ทำให้ความมีและไม่มี ไม่มีผลต่ออัตภาพ

อะไรหนอ ทำให้ความมีและไม่มี มันมีผลกับอัตภาพ

หินนั้น ไม่ได้เล็กไม่ได้ใหญ่

ไม้ท่อนนั้น ไม่ได้สั้นไม่ได้ยาว

เงินนั้น ไม่ได้น้อยไม่ได้มาก

สรรพสิ่งทั้งหลาย มากน้อย สั้นยาว พอใจไม่พอใจ ถูกใจไม่ถูกใจ

เกิดจากใจดวงนี้ เข้าไปบงการ ทำลายและสร้างสรรค์ให้มันเป็นไปตามอำเภอใจทั้งสิ้น

เรา พึงมีสติแล้วตรองมองดูความจริง

เรา จะก้าวข้ามทุกข์ได้ ด้วยใจเรา ที่เข้าใจ ใจของเราด้วยการยอมรับตามเหตุและปัจจัย

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง เราคืออาการแห่งใจที่เนื่องมาจากจิต ณ วันที่ 4 มกราคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง