เข้าใจเหตุ ผลย่อมไม่ทำร้ายใจ..

เข้าใจเหตุ ผลย่อมไม่ทำร้ายใจ..

686
0
แบ่งปัน

ธรรมทุกอย่าง ล้วนมีเหตุ จะเป็นอะไรก็แล้วแต่

ยิ่งอยู่ในป่าลึกๆ หากไม่มีผู้ชี้ เราก็งมงายไปเลย

ชาวกะเหรี่ยงที่เขานับถือผี ก็เพราะไม่มีใครอธิบายในสิ่งที่เห็น

พวกเขาจึงเชื่อในสิ่งที่เป็น และลงความเห็นในสิ่งที่เชื่อด้วยตัวตน
สมัยหนึ่งตอนเด็กๆ เคยไปเข้าป่าล่าสัตว์กับพวกนายพราน

สมัยนั้นซัก สิบกว่าขวบมันอยากลองอยากรู้

ได้เห็นพฤติกรรมของเหล่าพรานที่เขามีคาถาอาคม

สิ่งที่ไม่น่าเชื่อ มันก็ต้องเชื่อ เช่น วิชาเรียกสัตว์

วิชาพลิกแผ่นดิน วิชาย่นระยะทาง วิชาดับพิษ วิชาเสกใบไม้เป็นต่อเป็นแตน และอะไรอีกหลายๆอย่าง ที่เขาทำให้ดู

เรามันชอบดูเขาเล่นกล นี่ถ้าบวชเป็นพระ คนก็หลงเป็นพิมพ์นิยมกันรวยตาย

เพราะมันทำได้กันจริงๆ มันเป็นวิชาอย่างหนึ่งที่เป็นศาสตร์ทางจิต..
ข้าเองเคยเห็นลูกกลมเป็นดวงจันทร์แสงสีขาวอร่ามตา เขียวก็มี ฟ้าก็มี แดงก็มี โน่น… มันลอยเด่นอยู่ในป่า

พอข้าเห็นก็ชี้ให้พวกพรานดู ว่านั้น..พระจันทร์

พวกพรานตบปากข้าเลย บอกว่าดูเงียบๆห้ามทัก และทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

พวกเขาเชื่อว่า ดวงกลมสว่างอร่ามตาเป็นลูกไฟเหล่านี้คือ ผีป่า เขาเรียกกันว่า” ชิน”

คำว่า ชิน นี้ เป็นชื่อเรียกของผีเจ้าป่า ทางพังงา ภูเก็ต บ้านข้าเขาเรียกอย่างงั้น
บางคนเขาจะบอกว่า ที่ตรงนั้นตรงนี้เป็นทางผ่าน พอถึงวันสำคัญๆ พวกเป็นดวงกลมๆสว่างนี้ ก็จะลอยมา เขาจะมีทางผ่านของเขา

ชาวบ้านก็จะไม่ไปขวางทางผ่าน เช่นทำบ้านขวาง หากเป็นทางผ่าน ต้องเหลือช่องไว้

นี่..เคยเห็นมาเป็นแบบนี้ สมัยเด็กๆ ดวงสว่างพวกนี้ เขาเรียกว่า ชิน
ไม่เห็นมีใครจะไปพิสูจน์ ว่าจริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้คืออะไร

ทำไมถึงเป็นพลังงานเป็นลูกกลมไฟที่น่าฉงน

ข้าเองได้เห็นมาหลายครั้ง เห็นพุ่งจากภูเขาลูกหนึ่งไปสู่ภูเขาอีกลูกหนึ่ง

บางท่านว่ากันว่า นั่นเป็นมวลพลังแห่งพระธาตุเสด็จ

นี่..เมื่อไม่มีใครพิสูจน์ได้ คนเราต่างก็จะว่าตามๆกันไป

เราไม่รู้ว่า เหตุที่เป็นผลปรากฏออกมาเป็นแบบนั้น มีเหตุมาจากอะไร

แต่สรรพสิ่งล้วนมีเหตุทั้งนั้น เพียงแต่บางเหตุ มันก็สาวลงไปไม่ถึง

แต่ไม่ว่ามันจะคืออะไร บางอย่างเราก็รับฟังกันไปพอประเทืองปัญญาก็พอ

เพราะสิ่งแปลกๆเหล่านี้ที่ยังไม่ถูกเปิดเผย ลัทธิต่างๆจึงได้ยึดกันมาเกิดกำเนิดกันอย่างมากมาย

ต่างก็หลงใหลกันไป เอาสิ่งแปลกๆเหล่านี้มาเป็นที่ตั้งแห่งใจ เพราะต่างก็ไม่มีใครเข้าไปรู้เหตุทั้งหลายนั้นเป็นเหตุ

เมื่อไม่รู้ก็หลงล่ะ เจ้าลัทธิก็แสดงเองโม้เองเพื่อความเข้มขลัง

เป็นหนทางแห่งการเกิดลาภสักการะกันขึ้นมา

นี่..เพราะความหลงในสิ่งที่ไม่ปกติจากความที่เราเคยเห็นเคยชินเป็นเหตุ..

ใดๆในโลกนี้ มันมีความเป็นปกติของมันเป็นธรรมดา มันมีเหตุปัจจัยเกิดทั้งนั้น คนเราส่วนใหญ่มักหลงใหลไปตามกระแสแห่งความไม่รู้เป็นเหตุ

ไม่รู้แล้วยอมรับว่าตนเองไม่รู้นี่ มันโง่อย่างฉลาด ไม่รู้แล้วยังเสือกอวดรู้นี่ มันโง่ชิบหาย
แถมพ่วงคนที่ไม่รู้อื่นๆ โง่ตามมันหนักเข้าไปอีก เรียกว่าโง่กันแบบยกลัง

บางพวกอาศัยลัทธิ ศาสนา รูปลักษณ์ ตำรา ความเป็นสงฆ์เป็นพระ หรืออะไรๆ เอามาขู่ให้คนอื่นเชื่อ เอาความฉลาดแบบโง่ๆมาอวด ยิ่งหน้าเพจนี่พวกพระและพวกหัวดำทำตัวเป็นพระ อวดโง่กันเยอะ

แต่ทั้งหมดทั้งหลายนี่ มันก็เป็นธรรมดาของมันอย่างนี้ โง่ก็เป็นธรรมดา ฉลาดก็เป็นธรรมดา

ทั้งโง่และฉลาด มันเป็นอาการแห่งอวิชาที่แสดงออกมาเพราะเหตุแห่งตัณหา ที่ผุดขึ้นมาจากใจไม่รู้จบทั้งสิ้น

พวกที่พอเข้าใจ มันก็พอยับยั้งกระแสเชี่ยวแห่งใจ ไม่ให้มันไหลตามไป อย่างเป็นคนไร้สติได้

พวกที่ไม่เข้าใจ มันก็ไหลจมหายลงไปในกระแสความเชี่ยวแห่งใจ จนไร้สติเช่นกัน

ทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ ต่างเป็นอาการของใจที่เป็นธรรมดาของมันเช่นนั้นเอง

หากทำใจเข้าใจอย่างนี้ ด่าแม่พระที่อวดโง่และฉลาดหน้าเพจ มันก็ไม่เป็นบาปติดค้างคาใจ

นี่..อาศัยเหตุแห่งความเข้าใจ ว่าสรรพสิ่งทั้งหลาย มันก็เป็นธรรมดาของมันเช่นนั้นเอง..

เฮ่อ..พวกเรียกทำงานอีกแล้ว.. ขอไปชดใช้ก่อนเด้อ

ว่างๆแล้วค่อยมาเล่าอะไรหนุกๆให้ฟังอีก

ขอสาธุคุณ ขอให้ร่ำรวยและเจริญๆๆๆมีดวงตาเห็นธรรม

จงตั้งสติอย่าไปหลงเชื่ออะไรง่ายๆ พิสูจน์ให้ดีๆซะก่อน

ทั้งคำพูด การกระทำ และความคิด สิ่งทั้งหลายที่เราผัสสะ

ความจริงมันอาจไม่จริง หรือแม้มันจะจริง มันก็จริงอย่างเราเข้าไปสมมุตินั่นแล..

**********************************
พระธรรมะเทศนา ในคอมเม้นต์ จากเรื่อง คุยกันหนุกหนานในไลน์ ฉันพี่น้อง
โดย พระอาจารย์ ธรรมกะ บุญญพลัง
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2557