แสนภูมิใจที่ได้สละ… ถามตอบบุญ

แสนภูมิใจที่ได้สละ… ถามตอบบุญ

959
0
แบ่งปัน

แสนภูมิใจที่ได้สละ... ถามตอบบุญ>>ลูกศิษย์ : กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ….. ขอเรียนถามครับ….วิธีการตั้งจิตขณะที่เราทำบุญ หรือหลังจากทำบุญ ควรตั้งจิตแบบใดครับจึงจะถูกต้อง เพื่อไม่ให้จิตติดบุญ…. ที่ผมทำคือปล่อยให้จิตว่างแล้วอิ่มเอิบไปกับมันโดยที่จะไม่อธิษฐานจิตขออะไร…ไม่ทราบถูกต้องหรือเปล่าครับ…กราบสาธุๆๆ

<<พระอาจารย์ : จิตติดบุญซิมันจึงจะดี Meena Mana

เราทำบุญก็เพื่อให้จิตมันติดบุญนี่แหละ ที่มีนาคิดนั้น เป็นเรื่องของตัวตนเข้าไปเป็นเจ้าของอาการ

การทำบุญจะขอก็ได้ ไม่ขอก็ได้ มันเป็นเรื่องเสมอกัน มันเป็นแค่อาการแห่งจิตที่กระทำ

ถ้าขอ การบันทึกแห่งโปรแกรมจิตก็จะเริ่มสร้างกระบวนการ ปรุงไปตามเหตุปัจจัยเพื่อให้ได้สมดั่งคำอธิษฐาน

ถ้าไม่ขออะไร การทำบุญนั้นก็เป็นการสละใจ ในการที่จะเป็นผู้ให้ มันก็ชื่นปีติใจ

เราทำบุญที่ประเสริฐที่สุดก็คือ “.. ใจที่ไม่คาดหวังอะไร แต่ก็จะทำให้ ..” นี่..ใจเช่นนี้เป็นใจที่หาได้ยากยิ่ง

เหล่าเทพเทวานี่ เขาก็มีลูกมีเมียเหมือนกันนะ มันมีกันหลากหลาย

ประเภทที่ไม่มีคู่ก็มี มีคู่ก็มี มีเยอะก็มี แต่เรื่องจะปี้กันรึเปล่านี่ ไม่เคยแอบดู แต่เป็นครอบครัวนี่มี

เขามีสัญญาของเขาอยู่นี่ แม้ไม่มีกายหยาบ แต่เขาก็มีกายละเอียดที่เป็นรูปอยู่

เสียง เราจับต้องด้วยกาย ด้วยตาไม่ได้ แต่เสียงก็ทำให้เราเพลินใจและมีความสุข มากๆ ได้เหมือนกัน พอเข้าใจไหม

เรื่องของเทวดา เป็นเรื่องเหนือวิสัยคน อย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า

ทำใจให้เป็นเทวา แม้ยังไม่ตายไปเป็นเทวดา ทุกข์ภัยมันก็เบียดเบียนใจเราน้อยลง

การทำกุศลจิต เมื่อใจมันอ่อนควรค่าแก่การงาน มันก็อยากทำความดี

ความดีนี้เป็นกุศล อาศัยการสละออกเพื่อเป็นทาน

การสละออกเป็นกำลังที่ต้องใช้กำลังใจสูง

ปูนหนึ่งลูกแบกขึ้นภูเขากว่าเจ็ดแปดร้อยเมตร กำลังใจไม่ถึง มันโยนทิ้งตั้งแต่ก้าวแรก

แต่นี่…ปูนหกสิบลูก ลูกละห้าสิบกิโล มากองอยู่บนยอดเขาภายในไม่กี่ชั่วโมง

ท่ามกลางศพที่นอนหมดสภาพเรียงรายจะตายเอาสองริมข้างทางบันใด

เห็นแล้ว แม้เทวดาก็ยังอยากก้มลงกราบใจ ที่อาศัยศพแต่เป็นใจเทวดา ที่นอนเรียงรายจะเป็นจะตายเอา

สุดยอดแห่งใจที่ไร้พ่ายแห่งผู้ต่อกร ขอคารวะ สองแสนจอกไอ้น้องๆ

บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ อาจทึกทักกันไปถึง เรื่อง ทิพย์วิมาน แต่ไม่เป็นไรหรอก มีภูมิแค่ไหน ก็เข้าใจตามปัญญาตนไปแค่นั้น

“”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””

มีคำถามบางประการที่เป็นประโยชน์ จึงขอนำมาลงในหน้าเพจนี้…

>>คำถาม : กราบนมัสการนอบน้อมในธรรมแด่พระคุณเจ้าขอรับ

ทิพย์วิมานก็ดี ความเป็นของอันปราณีตอันจิตปรุงแล้ว เป็นไปแล้วแห่งกุศลอันข้องอยู่ด้วยอุปาทาน ย่อมปรากฏผลตามเหตุอันประกอบแล้วเช่นนี้ กล่าวว่า เป็นความข้องอันปรากฏของความมีตามเหตุปัจจัยเช่นนั้นใช่หรือไม่ขอรับพระคุณเจ้า

แล้วถ้าเราประกอบตนโดยความพิจารณาความเป็นจริงอันปรากฏทั้งรูปนามอยู่เนื่องๆ โดยปราศจากความข้องในสิ่งอันเป็นทิพย์ อันมีทิพย์วิมานเป็นต้น สิ่งอันเป็นผลจากเหตุอันประกอบจักเป็นสิ่งใดหรือขอรับพระคุณเจ้า เพราะการยังกุศลในแต่ละคราไม่ได้ตั้งความปรารถนาโดยความต้องการแห่งตน เป็นแต่เพียงให้การยังกุศลนั้นเป็นอุบายวิธีขัดเกลาตนเพียงเท่านั้น

ใคร่ขอเมตตาแห่งพระคุณเจ้า ชี้ทางอันสัมมาเพื่อประโยชน์ในธรรมอันผู้สดับได้สดับแล้วด้วยเถิดขอรับ กราบนมัสการขอรับ

<<พระอาจารย์ : ขอตอบตามวิสัยภูมิ..

ธรรมชาติก็เหมือนกับเราราดน้ำลงที่โคนต้นไม้ ปัจจุบันธรรม ธรรมโคตร

เราราดน้ำไปยังโคนไม้ที่เราไม่ได้คาดหวังอะไรเลย หรือแค่เยี่ยวทิ้งขว้างมันลงไป

ผลทั้งหลายไปปรากฏที่ปลายไม้โน่น

ดอกอันหอมหวลเอย ผลเอย มันก็ปรากฏผลของมัน เพราะเหตุอันมาจากโคน

ผลอันหลากหลายหลายและดอกหอมอันชุ่มดก แม้ไม่ปรารถนาเลย มันก็เกิดไปตามเหตุตามผล อันเป็นวิบาก

การราดน้ำทิ้งลงไปยังโคน จะเอาดอกหรือไม่เอาดอก จะเอาผลหรือไม่เอาผล ดอกและผลอันเป็นเครื่องชูปลาย มันก็เกิดของมันเองอยู่เช่นนั้น แม้ไม่ได้เกิดจากเจตนาเรา

อัตภาพเป็นแค่เวลาแห่งการครองเครื่องมือทางรูป หมดอายุแห่งเครื่องมือ บันทึกทั้งหมดจะไปเก็บไว้ไหน

ในเมื่ออันตัวกูทั้งหลายมันก็สลายไป ตรงนี้ไงเรียกว่า “.. ภวังค์แห่งสัญญา ..”

มันปรุงมันบันทึกของมันมา สัญญาแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่ทิศทางการปรุงมันไปในแนวทางเดียวกัน

แม้เราไม่ข้องกับทิพย์วิมานหรือสิ่งใดๆ แต่ใจดวงนี้ก็ย่อมมีที่ไปตามผลแห่งวิบาก ซึ่งก็ไม่เหมือนกัน

วิมานของหนอนคือ ขี้ก็เป็นขี้ วิมานของงูคือ รูก็เป็นรู วิมานของคนไม่เอาอะไร ก็ไม่มีอะไรมาเป็นวิมาน

สิ่งเหล่านี้มันอยู่เหนือจินตนาการ วิมานทั้งหลายใจมันก็ปรุงไปตามสมมุติ มันไม่มีจริง

แต่ความจริงที่เราคิดไม่ถึงก็คือ ความจริงทั้งหลายที่เรารู้เห็น ต่างก็เป็นสมมุติที่ใจมันปรุงขึ้นมา มันไม่มีอะไรจริง

และที่สำคัญ วิถีแห่งมายาแห่งสมมุติ มันเป็นเครื่องอยู่ในปัจจุบันของเรา

สิ่งเหล่านี้มี เพราะเหตุแห่งสมมุติมี ออกจากสมมุติที่มี ก็เป็นวิมุติ สิ่งที่มีที่เป็นสมมุติ มันก็จะไม่มี

เมื่อสิ้นสมมุติที่มี ทิพย์วิมานทั้งหลาย มันก็ไม่มี ที่มีเพราะเรายังเวียนอยู่ในสมมุติเป็นเหตุ

“””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””

ขอสาธุคุณกับทุกๆ ท่านจ้า ขอให้ร่ำรวยๆๆๆ และมีทิพย์วิมานอยู่อาศัยเมื่อกายสลายไป ส้าธุ

วิมานจะมีหรือไม่มี ไม่ใช่ปัญหา ขอให้ใจดวงนี้อบรมให้ดีๆ ว่า เราจะไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นเป็นพอ

ยังไงก็ต้องตายลาจาก จากกันเมื่อไหร่ ใจที่ทำไว้ดี เกิดมีวิมานรอ ก็ถือซะว่าได้สองเด้ง

เราจะเริ่มประกาศบุญเพื่อสร้างฐานองค์พระ 85 ฐาน แต่ละฐานใช้วัตถุดิบและแรงงานเยอะ

ผู้มีศรัทธาในการสร้างเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ขอเชิญเป็นเจ้าภาพเจ้าของฐานองค์พระได้

ฐานละ 25,000 บาท นี่..เป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินและเป็นการชำระหนี้ให้แก่สงฆ์ ด้วยการกระทำแห่งใจที่ยิ่งใหญ่ ขอเชิญแจ้งชื่อได้เลย เราจะรวบรวมชื่อไว้ประกาศต่อแผ่นฟ้าแผ่นดิน

นรกแต่ละขุม ก็เป็นทิพย์วิมานของแต่ละท่าน ที่มุ่งมาทางอกุศล

เวลาทำอกุศล นรกยังเกิดกำเนิดปรากฏรอ ทำไมหนอ ..?? ทางมหากุศล ทิพย์วิมานจะก่อเกิดกำเนิดรอ บ้างไม่ได้

ทิพย์วิมานไม่มี นรกก็ไม่มีเหมือนกัน นี่..สมมุติมันมีโปรแกรมอย่างนั้น

นี่.. กำลังคิดไว้ว่า จะหามหาหยกดำ มาแกะเป็นองค์พระ เพื่อมอบเป็นของขวัญกำลังใจให้แก่ผู้เป็นเจ้าภาพฐาน

พอดี ได้ไอ้น้องคนหนึ่งชื่อ นักรบ เขาจะเป็นธุระจัดการให้ในเรื่องแกะองค์พระปฏิมา มหาหยกดำ

ทางบุญญพลังจะขอมอบให้เป็นขวัญกำลังใจ นักรบเขาจะทำมาถวายให้ เป็นมูลค่า มหาศาล

หนึ่งองค์ต่อหนึ่งฐาน สลักใต้ฐานว่า พระพุทธะแห่งบุญญพลัง นี่..มีผู้จัดการทำให้เพื่อร่วมกันสร้างฐานองค์พระทั้ง 85 ฐานให้จบโดยไว

มหาหยกดำนี่ ต้องไปขุดมาจากทางหมู่บ้านในพม่าติดจีน เป็นอัญมณีสีดำ แต่เมื่อส่องกับแดดหรือไฟ จะกลายเป็นสีเขียว

ข้านี่..ชอบหยกดำมาก จึงอยากจะสร้างนำสิ่งที่ชอบนี้ มอบให้แก่น้องๆ ทั้งหลาย ด้วยความปลื้มปิติใจ

อะไรที่เราชอบใจและยินดีเป็นสิ่งที่ไม่มีโดยทั่วไปและหายาก เมื่อได้มอบให้ใครไป มันแสนภูมิใจ ผู้รับภูมิใจ แม้มูลค่าจะมหาศาลมากมายแค่ไหนก็ตาม เราก็ขอมอบให้ ด้วยความยินดี

นี่..เพราะมีผู้มีจิตศรัทธา อาสาทำให้

นี่.. คือองค์พระปฏิมา มหาหยกดำ เนื้อหินหยกจะเขียวเมื่อโดนแสง

สวยงามครับสวยงาม ถ้าไม่มีปัญหาอะไรนะครับ จะขอมอบองค์พระให้

แต่อย่าเพิ่งคาดหวังว่าจะได้ นี่คือสิ่งที่จะมอบให้ เมื่อนักรบเขา ถวายมา

องค์พระในรูปที่นำมาประกอบภาพ เป็นพระควอซท์ใส ขนาดหน้าตัก สามนิ้ว

เศียรบุทองคำ มีเจ้าภาพสร้างถวายไว้ ให้กับแผ่นดิน เมื่อองค์พระดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ

นี่ เจ้าของเขาดำริมาอย่างนี้ ใจเช่นนี้ เป็นใจหาได้ยากยิ่ง เพราะยอมสละสิ่งที่มีค่ายิ่งมอบไว้ให้แก่แผ่นดิน แผ่นดินย่อมให้ผลและตอบแทนคุณ อย่างไม่รู้จบสิ้น

เรา..ทำบุญหวังผลอะไรจากแผ่นดินหรือเปล่า เรา…ทำบุญเพื่อมอบกุศลให้แก่แผ่นดิน

เรา..ให้โดยไม่หวังผล นี่เป็นใจของอริยบุคคล ที่ทำทานอันยิ่งใหญ่ เรียกว่าเป็นผู้มีใจเป็น “.. สามีทาน ..”
********************************

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง วิมานทิพย์…เกิดได้ทั้งๆ ที่ยังไม่ตาย
ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2557
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง