อยู่เพื่อรอ…

อยู่เพื่อรอ…

1019
0
แบ่งปัน

วันนี้ต้องรีบลุกขึ้นแต่ตีสี่ เป็นตีสี่ที่แสนจะทรมาน ต้องรีบไปๆๆ นี่..ใจมันกระตุ้นให้เร่งรีบ

สองคนผัวเมียมีใจมุ่งไปสู่จุดเดียวกัน ลูกสาวตัวน้อยนอนรออยู่ที่นั้น ที่โรงพยาบาลพระมงกุฏ

” ยังเข้าไม่ได้นะคะ ” พยาบาลบอก ต้องรอก่อน โอววว ใจจะขาด..!!

ลูกสาวตัวน้อย เพิ่งขวบเดียว นอนรออยู่บนเตียงผู้ป่วย เธอติดเชื้อ เสลดแน่นลำคอจนหายใจไม่ออก เธอบอกใครไม่ได้ว่าหายใจไม่ออก

มีแต่มือที่ไขว่คว้า นัยตาพร่าสะอึกเป็นระยะ ผิวหน้าเขียวซีดจนหมดสติไป
ตอนนี้เธอนอนอยู่ในห้องบนเตียง อยู่บนเตียงใกล้ๆ แต่คว้าตัวเธอไม่ได้ เขาไม่ให้เข้า

นี่..ความรักความผูกพันต่อลูก มันช่างยิ่งใหญ่ มันช่างเป็นห่วงรัดที่แน่นหนาวงใหญ่ๆ ยกแยกออกจากใจไม่ได้เลย ใครไม่มีลูกป่วยเข้าไปถึงใจรันทดจากการต้องพรากไม่ถึง เข้าไม่ถึง

สองคนมองหน้ากัน จับมือเป็นกำลังใจให้แก่กันน้ำตาไหล แค่จับมือกัน มองหน้ากัน ริมฝีปากก็สั่น ไม่ต้องเอ่ยคำอะไรกัน น้ำตาก็เอ่อ…

” เข้าเยี่ยมได้แล้วจ้า ” ดุจเสียงสวรรค์ส่งมาจากแดนไกล ทั้งสองรีบพุ่งไปยังจุดหมาย

สาวน้อยอาร์มี่ตัวน้อยๆ นอนตาลอยมองฝ้าเพดาน เสียงเบาๆในใบหน้าที่ฉ่ำเอ่อน้ำตา อาร์มี่…อาร์มี่ พ่อมาแล้วๆๆ

แว่วเสียงเบาๆผ่านริมฝีปากสั่นระริก สงสารลูกสาวอย่างจับใจ

อาร์มี่กรอกตาโตมามองมา หันหน้าไม่ได้น้ำตาไหลพราก ไร้เสียงใดๆ มีแต่สายตาที่กรอกมองมา

ร่างหนูน้อยสะท้านด้วยความสะอึกสะอื้น น้ำตาทะลักไหลนองหน้าได้แต่กรอกตามอง

ฝ่ายพ่ออยากก้มลงไปหอมแก้มซักฟอด กลัวลูกติดเชื้อ จึงได้แต่มองสงสารลูกสาวจับใจ

เธอรอดแล้ว เธอรู้สึกตัวแล้ว แสนดีใจ ทั้งสองมองหน้ากันยิ้มทั้งน้ำตา นี่มันดีใจหรือเสียใจช่างสับสนใจจริงหนอ

ลูกน้อยตัวเล็กๆ โดนมัดแขนมัดขาติดแนบอยู่กับเตียง มีเข็มเสียบให้น้ำเกลือ

ในปากมีหลอดดูดเสลดคาเอาไว้ ทำให้เธอหายใจได้

ขนาบด้วยไม้ดักศรีษะไว้ไม่ให้ขยับไปมา พยาบาลบอกว่า หากไม่ทำเช่นนี้ เธอจะดิ้นและแกะออก

แค่เห็นหน้าพ่อแม่ ด้วยสายตาที่กรอกมองหา สาวน้อยแบะปากแต่ไม่มีเสียง มีแต่สายตาและน้ำตาที่ไหลลำเลียง อยากบอกออกเสียงหนูอยู่นี่ๆๆแม่จ๋าพ่อจ๋า

เขามัดหนู เขาทำร้ายหนูแม่จ๋าช่วยด้วย หนูอยู่ตรงนี้แม่เห็นไหม ช่วยหนูด้วยหนูอยู่ตรงนี้ไม่มีใคร แม่จ๋าหนูอยากไปอยู่ในอ้อมอกแม่ พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยหนูที

เสียงสะอึกและกายที่สะท้านมันบ่งบอกความโหยหา นี่ทิ้งหนูอยูคนเดียวแม่เห็นไหม อย่าๆๆ แม่จ๋า ได้โปรดเถิดอย่าได้ทิ้งหนูไปไกล
หนูร้องไห้ทำไมแม่ใจร้าย..มาทิ้งกัน

” หมดเวลาเยี่ยมแล้วนะค้า ” โอ..เสียงฟ้าฟาดมันสาดลงกลางใจ ทั้งสองต้องถอยจากไกลออกมาจากลูกสาวน้อย

อยากเอามือไปกอดไปลูบก็กลัวติดเชื้อ ได้แต่เฝ้ามองลูบไล้ด้วยสายตาแล้วถอยออกมา อย่างสะเทือนใจ

สาวน้อยพยายามผงกหัวขึ้นดู ดึงคิ้วสูงเหลือกตาดูทางปลายเท้าเห็นพ่อ กำลังจะจากไป นี่แม่กำลังจะไปไหน อย่าทิ้งหนูไว้ หนูอยู่คนเดียว

หนูอยู่นี่เอาหนูไปด้วยอย่าไปๆๆ ใครช่วยดึงแม่ไว้อย่าทิ้งหนูไป หนูกลัว.

ก่อนลับตาเห็นร่างสะท้านของสาวน้อยแล้วใจหาย เธอทำอะไรไม่ได้แม้แต่จะส่งเสียง

มีแต่น้ำตาที่ไหลพรากเป็นสายลำเลียง ไร้แม้เสียงจะบอกใครๆว่าหนูกลัว

เธอส่งแต่สายตาบอกว่าอย่าทิ้งหนูไป หนูไม่มีใครแม่อย่าไปไหนหนูอยู่นี่

กลับมาก่อน กลับมาอุ้มหนูไปที หนูอยู่ตรงนี้…อย่าทิ้งหนูไป

โลกเรานี้ ยามจากยามพรากกัน มันเป็นหอกดาบที่แสนกระหน่ำแทงซ้ำๆไร้ปราณีใคร รักมากทุกข์มากท่านเอ๋ย

เกิดอีกพรากอีกทุกข์อีกเจ็บอีกอย่างที่เคยๆ ทุกข์เจ้าเอ๋ยมันของคู่หากเกิดมา

พ่อก็ทุกข์แม่ก็ทุกข์ลูกก็ทุกข์ ต่างคนต่างทุกข์เลี่ยงไม่ได้เพราะความเสน่หา

ใครทำใจได้ วางในทุกข์ที่เผชิญมา ใจดวงนั้นก็คงลาเข้านิพพาน..!!!

***************************
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
วันที่ 31 ตุลาคม 2557
ณ พุทธอุทยานบุญญพลัง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี