<< พระอาจารย์ : หวัดดี สองทุ่มแล้ว ดึกซะละมั่ง ฟังธรรมกันเปล่า งั้นนอนดีกว่า มีใครจะถามธรรมข้ามั่งนี่ เมื่อไม่กระเพื่อม ทุกอย่างมันก็ว่าง ในเฟสเขากระเพื่อม ธรรมข้าจึงๆ ไหลออกมาหลากหลาย
>> ลูกศิษย์ : งั้นถามหน่อยค่ะหลวงตา ทุกอย่างเกิดจากเจตนา การโกหก แล้วบอกว่าเจตนาดีเช่นโกหกแฟนเพื่อให้เขาสบายใจ แต่หากเราทำบ่อยๆ การโกหก มันก็ย้อมจิตเรานี่นา แล้วจะเอาสติตอนไหนไม่ให้การโกหกย้อมจิตได้อ่ะคะ ปอว่าคนเรานะถ้าโกหกตลอดๆ บ่อย ก็ย่อมไหลไปตามกระแสถึงการโกหกนั้นเราหวังดีก็เหอะ ในการทำงานก็เช่นเดียวกัน
<< พระอาจารย์ : การกระทำอะไร ทางกาย วาจา ใจ มันก็ย้อมอยู่แล้ว ไอ้บ้า แต่การโกหก อย่างมีสติ รู้ว่าโกหก เพื่อให้มันมาในทิศทางที่ดี โกหกนั้น มันก็เป็นธรรมชาติของการเอาตัวรอด ในสังคม ซึ่งทุกๆ คน เป็นกันอยู่แล้ว อะไรที่ทำให้คนอื่นทุกข์มากๆ เพราะเกิดจากเราโกหก คนมีสติ ย่อมไม่ทำ ที่ทำๆกันอย่างแกว่า มันเป็นกรรมอโหสิกันได้ ผลมันเล็กน้อย
ที่เป็นผลใหญ่ มันเกิดจากใจคน เข้าไปยึด เรียกว่า ชอบทำเรื่องเล็กๆ ให้เป็นเรื่องใหญ่ โกหกยังไงมันก็ไม่ได้ทำร้ายใคร ที่มันทำร้าย เกิดจากใจเจ้าตัว ที่รับไม่ได้ มันก็แค่นั้น เราเองก็โกหกตัวเองอยู่ทุกวัน ด้วยความเห็นแก่ตัว เพียงแต่เราไม่รู้เท่าทันใจเราเท่านั้นเอง
ความเอาตัวรอด ทำให้เราเป็นจอมโกหก มีใครบ้างไหม ที่ไม่โกหก มีบ้างไหม อย่างน้อย คนใกล้ชิดถาม แม่รักผมไหมพ่อรักหนูไหม หากอารมณ์ดี ก็ตอบว่ารัก หากหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ มันก็หาความรักไม่เจอ มันก็พูดตรงกันข้ามกับอารมณ์
คำพูดทั้งหลาย มันขึ้นอยู่กับอารมณ์เป็นหลัก อารมณ์ดี ก็อย่างหนึ่ง อารมณ์ร้ายก็อย่างหนึ่ง คำพูดคน มันเชื่อมั่นอะไรไม่ได้อยู่แล้ว มันขึ้นอยู่กับกาลเวลาและอารมณ์เป็นเหตุ
บางครั้งเราก็จำเป็นต้องโกหก แม้เรื่องนั้นๆ จะเลวร้าย และผู้โกหก ต้องซ่อนความเจ็บปวด อย่างมากหลาย แล้วยิ้มออกไป เพื่อให้อีกฝ่าย ได้เกิดความสบายใจ ในสิ่งที่ตนโกหก
บางคน ต้องทนเจ็บปวด ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เพื่อให้ทุกคนเห็นว่า ตัวเรา ไม่ได้มีความทุกข์อะไร นี่ก็เป็นการโกหกใครๆ โดยไม่ต้องพูด ความกลัวเสียหน้า เสียฟอร์ม เราก็อาจต้องโกหกด้วยท่าทีและท่วงท่า ที่ตรงกันข้ามกับความจริง เพื่อให้ทุกคนเห็นว่า เราก็ยังโอเคนะ นี่ก็มีถมไป
การโกหกนั้น อย่าไปให้ความหมายแค่คำพูด แต่การโกหก มันหมายถึง กาย วาจา และใจด้วย มันโกหกได้ทั้งนั้น คนพูดดี พูดเพราะ พูดจริง แต่ใจไม่จริง นี่ก็โกหก ใจจริง พูดจริง แต่ไม่ทำ ทำไม่ได้ นี่ก็โกหก
พูดอย่างนั้นพูดอย่างนี้ พูดเพื่อเอาใจ พูดให้อีกฝ่ายสบายใจ นี่ก็โกหก แม้แค่การผิดสัจจะ มันก็โกหก ทั้งตนเองและผู้อื่นอยู่แล้ว
การโกหก ถือเอาเจตนา เป็นจุดมุ่งหมาย มีตั้งแต่เหตุน้อยๆ ไปจนถึงฆ่ากันตาย เราวัดกันไม่ได้ ว่าเราโกหกนี่ มีผลรับมาแค่ไหน เพราะมันอาศัยเหตุปัจจัย เป็นองค์ประกอบ
บางเรื่อง เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่คู่กรณี มีทิฏฐิ มานะสูง เรื่องก็ใหญ่
บางเรื่อง เป็นเรื่องใหญ่ แต่สำหรับบางคน มันแค่เล็กน้อย หยวนๆไม่เป็นไร
นี่..มันมีองค์ประกอบเป็นเหตุปัจจัยอีก ข้าโกหกอีแดง กวางที่นี่ ว่าจะไม่เอาหญ้ามาให้กินตรงนี้แล้วนะ แต่ข้าก็เอาไปให้ตรงที่เดิมอีก มันก็ไม่เห็นว่าจะโกรธ แต่ถ้าเกิดกับคน แค่เล็กน้อย มันก็งอนมันก็โกรธ เราโกหกกับสิ่งที่ฟังไม่รู้เรื่อง ก็เท่ากับเราโกหกตนเอง
แม่ค้าพ่อค้าบางคนไม่สบายใจ เพราะเจ้าตัวยึดศีลห้า เป็นนักปฏิบัติ การโกหกลูกค้าเพราะอยากขายของ กลัวเป็นบาป
เรื่องวิถีการดำเนินอาชีพ มันเป็นเรื่องของโลก ไม่ต้องไปห่วงความดีขนาดนั้น เรื่องเลวๆอย่างอื่น เราก็เผลอทำกันเยอะแยะ ไม่เห็นรู้สึกอะไร การซื้อถูกขายแพงได้ โลกเรียกว่าคนเก่ง
หากอาชีพมันอยู่ได้ การค้าขายก็ต้องแข่งขันกับผู้อื่นอยู่แล้ว ขายผิดไปจากความเป็นจริงมากๆ วิบากก็ส่งผลอยู่ คือขายยาก มันเป็นธรรมชาติของการค้าขาย ไม่โม้สรรพคุณ มันก็ขายไม่ค่อยออก อยู่ลำบากอีก
ของบางอย่างต้นทุนน้อย แต่ความต้องการมาก ก็ขายได้แพง มันขึ้นอยู่กับความต้องการของคน การโกหกเพื่อให้ได้ขายออกขายได้ เพื่อผลกำไร มันเป็นเรื่องของโลกที่ต้องแข่งขันกัน ในทุกวิถีทางกันอยู่แล้ว
การโกหกนี้ เพื่อการเอาตัวรอดก็มี เพื่อความสบายใจก็มี เพื่อให้ได้มา หรือเพื่อการผลักไสก็มี มันขึ้นอยู่กับเจตนา และเจตนานี้ เป็นกรรมที่จะมีวิบากตอบแทน
แต่วิบากบางอย่างมันเล็กน้อย จิตมันรับได้สบาย บางอย่างมันเล็กน้อย แต่มันให้ผลกับอีกฝ่ายหนักมันก็มี
ครั้งหนึ่งข้าแค่ ชมว่า แม่นางคนนี้ช่างงามแท้ หากไม่ไปทำสงคราม ข้าจะขอนางมาเป็นคู่ครอง คำพูดพล่อยๆ แค่คำโกหกลวงๆ ของผู้ชายปากหมา ที่มองเห็นสาวบ้านป่า ที่ไม่ได้สวยงามอะไรมากมาย จนน่าหลงใหลอะไรนักเลย สาวในเมืองสวยๆ น่าสนใจกว่าจม แต่ดันพูดโกหกชมๆ เขาไป
คำแค่นั้น ทำเอาอีนังสาว เฝ้ารอคอยข้า นามมากว่า 6,000 ปี นี่…คำแค่พล่อยๆ แต่มันยิ่งใหญ่ กับใจบางคน
นี่..นั่งยิ้มแป้นอยู่ข้างๆข้านี่ ดีนะ ที่เป็นเพียงเงาลางๆ หากเห็นชัดๆ นางต้องใช้กำลังมาก ข้าคงได้วิ่งกันน้ำบานอีก เพราะนี่ นางไม่ใช่คน
การโกหก อาศัยเจตนา และการมุ่งหมายเป็นเหตุ อยู่ที่จุดประสงค์เป็นหลัก หากไม่ได้มีจุดประสงค์ให้เขาชิบหาย วอดวาย และเป็นการทำลาย ให้เกิดอกุศล โกหกทั่วๆ ไป เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของการอยู่ในสังคม ขนาดไม่อยู่ในสังคม เรายังต้องโกหกตัวเองเลย เพื่อไม่ให้ไหลไปตามกระแสแห่งกิเลส
ฉะนั้น สบายใจได้ อบรมใจเรา อย่าให้คิดชั่วก็พอ ใจที่ไม่คิดชั่ว แม้รู้ตัวว่าโกหก มันไม่เป็นอกุศลหนักอะไร ผลวิบากเราพอต้านได้ เพียงแต่เราอย่าไปทำลายน้ำใจใครๆ ด้วยการโกหกที่หวังมุ่งร้าย ทำลายให้เขาชิบหาย ก็แล้วกัน กรรมวิบากตอบสนอง มันหนัก
คืนนี้ข้าง่วงแล้ว ค่อยมาคุยกันใหม่ เรื่องเหตุแห่งอวิชา ตอบพรุ่งนี้ในเฟส คืนนี้ ขอสวัสดี โชคดีหลายๆ ทุกคน
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
