ฤษีโล้น ห่มฝาด…

ฤษีโล้น ห่มฝาด…

870
0
แบ่งปัน
>> ลูกศิษย์ : ชาวบ้านมีอะไร มาเหอะในวัดมีหมด และมีดียิ่งกว่าชาวบ้านที่ไปขอเขาแดกอีก ห้องปูพรม เฟอร์นิเจอร์ชั้นดี ยังกะวัง ทีวี แอร์ ตู้เย็น รถยนต์ เงินในบัญชี มีหมด
ฤษีโล้น ห่มฝาด...ขอให้วางท่าดี พูดเพราะๆ หน่อย บวชนานๆ ท่วงท่าดูสงบ แกล้งนั่งหลับตาหน่อย เย็ดเข้เอ๊ย…!! ชาวบ้านหลงประเคนให้ชิบหาย
***ชอบท่อนนี้มาก คือมันใช่อ่ะค่ะ***

<< พระอาจารย์ : บุรุษผู้บวชตั้งใจดีๆ บวชเพื่อความพ้นทุกข์ ไม่มีใครเขาเดือดร้อนเพราะคำกล่าวนี้ หญิง..
การบวชนี้ สำหรับข้าก็เหมือนพวกฤษี เป็นฤษีที่มีปัญญา บวชเข้ามา เพื่อหาทางพ้นทุกข์ฤษีอย่างเรา มีศาสดา พระพุทธองค์เจ้า เป็นผู้ชี้แนะแนวทาง ไม่ใช่ฤษีดงพงไพร ที่เอากาย เอาใจเข้าไปแลกเอง ด้วยทิฏฐิมานะตนข้าจะเล่าถึงความฝัน ในฝันจะจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ นั่งๆ อยู่มันก็ฝันได้ ถ้านั่งฝันนี่ มันเห็นชัดและจำได้ มันเห็นว่า แม้ข้าเอง ก็เคยตายด้วยความเป็นฤษีอย่างโง่ๆ มานับชาติไม่ถ้วน นั่น..ในฝันมันเห็นอย่างนั้

ความตายมันมาพราก การเป็นฤษี เป็นฤษีดีฤษีเก่งแค่ไหน มันก็ตายก็จาก บางที เกิดเป็นฤษีหลอกเขาแดกเพื่อเลี้ยงชีพก็มี เพื่อสัจจะอะไรซักอย่างก็มีด้วยความชอบที่สืบเนื่องโดยสันดานก็มี เพราะขี้เกียจทำมาหาแดกก็มี แต่ส่วนใหญ่ หลอกเขาแดก เพื่อเลี้ยงชีพทั้งนั้น

เป็นฤษีชาติหนึ่งดี ปัญญาเยอะ น่าเข้าถึงมรรผลก็มี แต่พอมาเกิดเป็นฤษีใหม่ ดันกลายเป็นฤษีหลอกหลวงคนทั้งหลายก็มี แต่ละภพแต่ละชาติ มันไม่เคยแน่นอน ว่าใจดวงนี้ จะเป็นคนดีเสมอไปทุกๆ ชาติ

ขนาดเกิดเป็นงูที่เรียกว่านาค ก็ดันเป็นงูฤษี ซะเป็นพันๆ ชาติ ไปเกิดเป็นอะไร สิ่งหนึ่งที่มักติดดวงจิตไปและแสดงออกมาเป็นผล นั่นก็คือ ปัญญา

และเพราะปัญญามากนี้แหละ มันส่งผลให้ลงนรกซะหายอยาก เหตุเพราะแต่ละชาติ ใจมันอบรมจิตได้ไม่ดีพอ เพราะใจมักไหลไปตามกระแสแห่งผัสสะ ที่เป็นโลกธรรม เหตุเพราะปัญญามาก แต่ละชาติ มันเลยขาดปัญญาเพราะความมีปัญญามากอีก

ขึ้นชื่อว่าโลกธรรม คือ ลาภ ยส สรรเสริญ ความสุขทั้งหลายที่ผัสสะ มันมีกระแสแรง เกินใจต้านได้ โดยเฉพาะ ผู้หญิง

ฤษีนี่ พังเพราะผู้หญิงมากต่อมาก บำเพ็ญพรตอยู่ดีๆ ได้กลิ่นเยี่ยวน้องนางหน่อยเดียว ใจมันชุ่มชื่น ใจมันคึกคัก ต้านใจได้ไม่เท่าไหร่ พักเดียวจอด และข้าเองก็เคยจอด มาเพราะผู้หญิง แทบทุกชาติ

ที่น่ากลัวอีกอย่างก็คือ สรรเสริญเยินยอ ตัวนี้แสบทรวง ใจไม่เป็นอันนิ่งได้ เจอยอหน่อยเดียวก็เป็น เป็นแล้ว อยากให้คนเขายอ อยู่อย่างนั้น

ใจมันอาศัยลูกยอ เป็นอาหาร ใครไม่ยอ กล่าวคำตรงข้าม เป็นหงุดหงิดวิ๊บแดกจะตายให้ได้ทีเดียว นี่ บ้ายอ ขาดคนยอแล้วจะตายห่าเอา ไอ้พวกฤษีบ้ายอ

ลาภสักการะ หูยยย นี่ ..น้ำหนักมาก ถ่วงเข้าหน่อย เอนไปตามแรงถ่วง เพราะใจมันแสวงหามาหล่อเลี้ยงกายใจอยู่แล้ว

ได้แล้วมันสะสมไม่เลิก ฤษีทั้งหลาย ตายด้วยลาภสักการะนี่แทบทุกตน ดูเหมือนวาง แต่ไอ้ที่วาง หากได้ลาภแปลกๆ ใหม่ๆ ที่โลกเขาอยากได้กัน เป็นสะดุ้งโหยงอยู่ไม่ไหวซักที ต้องแสดงตัวตน เป็นผู้อยากออกมา โดยไม่รู้ตัว แต่ทำตัว กูวาง

ยศที่เหล่าโลกเขาตั้งให้ ตัวนี้ก็แสบไม่ใช่ย่อย ทำเอาขอทาน กลายเป็นจักรพรรดิ์ไปแม่งเลย อยากให้คนนิยมยกย่อง ว่านี่คือผู้ทรงภูมิ

ฤษีห่าอะไร บ้าตำแหน่งที่โลกเขาถวิลหา บ้าความเป็นครูบาอาจารย์ บ้าการเป็นผู้นำ บ้าความเป็นฤษีของตนเอง อะไรที่ดูว่าเชิดชูตนให้มันยิ่งใหญ่กว่าใครอื่น เป็นอันว่า กูชอบทั้งนั้น

นี่..สิ่งเหล่านี้ทำลายพวกฤษีให้ตายห่า คารูประตูนิพพานมามากต่อมาก

การบวชเพื่อบำเพ็ญตน ก็คือการดำริที่จะออกจากกาม การออกมาเป็นฤษี มันก็มีหลายระดับชั้นในขั้นจิตใจ

บวชมาตาย ฝึกอย่างอุกกฤษก็มี บวชแล้วกินแต่ใบไม้ กินซากผลไม้ที่หล่นเกลื่อนต้นก็มี เอาแค่ชีวิตรอด แต่ก็ไม่รอดจากชีวิต เพราะปัญญาญาณมันมีไม่ถึง

ถอยจากความอุกกฤษ กินแต่พืชผลไม้ แต่อยู่ป่าห่างไกลผู้คน แล้วตายคาป่า โดยไม่ได้อะไรเลยก็มี นี่ก็เพราะขาดผู้ชี้แนะ เรียกว่าตายฟรี ทั้งๆ ที่ฝึกอย่างเอาจริงจัง

บางพวก อยู่ป่าไม่ได้ ถอยออกมาอยู่เมือง แต่ทำตัวปฏิบัติอย่างอยู่ป่า ตั้งสัจจะวาจา ว่าจะไม่ทำอย่างนั้น ว่าจะไม่ทำอย่างนี้ แต่ที่สุด ก็พ่ายแพ้ใจทุกที เพราะใจนี้มันพ่ายตั้งแต่แรกเกิดแล้ว

บางพวก ไม่ลงมาประพฤติตัวเป็นฤษี แต่ก็ชอบฤษี ขอให้ได้ทำบุญทำทานกับพวกฤษี เอาพวกฤษีมาเป็นที่ตั้งแห่งใจ นี่..นี่ก็เป็นพวกฤษีอย่างหนึ่ง ที่เป็นกำลังให้ฤษีต่างๆ ได้บำเพ็ญพรต โดยไม่ลำบากนัก

นี่..เหล่านี้ คือการบวช เป็นวิถีบวช เมื่อบวชแล้ว มันก็แยกไปเป็นนั่นเป็นนี่ เป็นลัทธิ เป็นศาสนา ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล

แต่ทั้งหมดนี้ ก็คือพวกฤษี จะถากหัวห่มฝาด ห่มขาว หัวโล้นหัวดำ ห่มหนังห่มฟางหรือไม่ห่มอะไรเลย พวกนี้เรียกว่า พวกฤษีหมด

ทีนี้ พวกฤษีอย่างเรา เป็นฤษีที่มีจอมศาสนดา เป็นผู้มีปัญญาแสดงออกถึงแนวทางชี้แนะในการที่จะออกจากทุกข์

แต่ฤษีพวกนี้ กลับบวชเข้ามา สะสมเพื่อเลี้ยงชีพ เพื่อกระแสแห่งโลกธรรม คือความธรรมดาของชาวโลก อย่างนี้นี่แหละ เขาเรียกว่า พวกฤษีหลอกแดก

มันหลอกแดกศรัทธาของชาวบ้าน ที่มีต่อพระพุทธชินสีห์ โดยไม่มีความละอายในผลที่ตนโหนอยู่ในกระแส

ใครจะด่าจะว่าก็ไม่ได้ ยิ่งบวชนานยิ่งตัวใหญ่ ยิ่งมียศยิ่งแตะไม่ได้ โหยย ฤษีบ้าบออะไร บวชเพื่อแสวงหาความจัญไร ใช่แสวงหาความวิไลให้แก่จิตใจตน นี่..พวกหลอกชาวบ้านแดก

ใครอย่าไปด่าไปว่ามันเชียว มันจะเอาบาปมาขู่ เอาสวรรค์มาชู แตะไม่ได้ เป็นลงนรกทีเดียวนะ นี่..มันขู่กันอย่างนี้ บวชมาเพื่อการสะสมบุญ หลอกคนไม่รู้ให้ทำบุญ เอาบุญไว้ใช้ชาติหน้า นี่..มันโม้มาอย่างนี้

ไอ้พวกโดนขู่ มันโดนปลูกฝังมาแต่เกิด เจอฤษีเหี้ยๆ เข้าไปขู่ ใจมันเลยหงอยแดก ทั้งๆ ที่ไอ้เจ้าฤษีพวกนั้น มันก็ทำตัวจัญไร ไม่ต่างอะไรกับพวกโจรๆ ที่เขาไม่เข้ามาบวชกันอยู่แล้ว

มาเหอะชาตินี้ ข้าขอด่าขอว่าไอ้พวกฤษีเหี้ยๆ นี่เอง ผ้าแพรลูบไล้เพื่อไล่ให้ไป มันไม่สะดุ้งหรอก มันต้องเจออีโต้ถาก เหล่าเหี้ยฤษีถึงจะพอสะดุ้งกันได้บ้าง

อย่างน้อยผู้มีศรัทธาฤษีที่มาทางพุทธ ซึ่งแปลว่าผู้มีปัญญา จะได้ลืมตาขึ้นมามองเห็นอะไร ที่เป็นความจริงบ้าง

ไม่ใช่ตกอยู่ในกระแสแห่งความงมงาย นั่นก็บาปนี่ก็บาป ตามปากพวกฤษีแก่ๆ ที่กลัวคนจะไม่สรรญเสริญ

บาปไม่บาปนี้มันอยู่ที่ใจได้รับการอบรมโดยเจตนา ใช่ว่า งมงายตามปากคำของเหล่าฤษีโจ

เช้านี้มีเพื่อนฤษีมาเยือน เลยว่าไปตามผัสสะ ยังไงก็ขออนุโมทนา ขอให้สหายธรมทั้งหลาย ได้เจอฤษีดี และมีปัญญา ชี้ทางสว่างออกจากกระแสแห่งวัฏฏะที่เป็นทุกข์ได้บ้าง

เช้านี้..สวัสดี เขารออยู่ มีงานต้องทำกันอีกแล้ว

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง จิตเป็นเหตุ…ใจจึงมี ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง