
บางคน มีภาชนะใหญ่ เก็บไว้กินด้วย ล้างหน้าด้วย อาบรดชะโลมกายใจด้วย เมื่อเต็มภาชนะ ก็มองเม็ดฝนที่โปรยปราย อย่างชื่นฉ่ำใจ นี่พวก ประกาศธรรมในหมู่กลุ่ม นิพพานได้ทั้งกลุ่ม
บางคน ตกมาเถิดเท่าไหร่ ภาชนะมันใหญ่เป็น บึง เป็นคลอง เป็นเขื่อน และเป็นทะเล หลั่งไหลลงมาเถิด ขอรับหมด ไม่ว่าจะตกอยู่ในแห่งหนไหนๆ
ใจดวงนี้ ขอรับไว้ให้ชุ่มฉ่ำเนืองนอง
บางคน ไอ้เหี้ยยยยย..เอ๊ยยย กูเดือดร้อน เปียกปอน ของเสียหายหมด ตกมาทำเหี้ยยยย…อะไร สาดดดด กูไม่ต้องการซักกระหน่อย…
ฝนก็คือฝน มันโปรยปรายลงไปแล้ว พอใจแค่แก้ว ก็ได้แค่แก้ว พอใจแค่โอ่งก็ได้แค่โอ่ง
ฝนทั้งหลาย แม้กระหน่ำแค่ไหน มันก็รับได้ เท่าที่มีภาชนะ
เคยรู้บ้างไหม สายฝนที่โปรยปราย ที่รับไว้ได้ กับที่สูญสลายทิ้งขว้างไปอย
เทียบน้ำหยดเดียว กับโลกทั้งใบ
เราพอใจแค่น้ำหยดเดียว ดีกว่าไม่มีซักน้ำหยดเดียวท
น้ำแค่หยดเดียว รวมๆ กันทีละหยด วันหนึ่ง หยดน้ำนั้น ก็กลายเป็นเขื่อนใหญ่
ให้ความชุ่มฉ่ำสดใส ให้แก่เหล่าสัตว์ได้ทั้งโลก
น้ำใสๆ แค่แก้วเดียว ย่อมมีค่ากว่าน้ำป่าที่โถมถ
ธรรมแห่งมุตโตทัย เป็นน้ำใสๆ รินไหลทีละหยด
ธรรมสดๆ แห่งน้ำใสทีละหยด เจือจางใจ ขุ่นหมองให้ใสได้
น้ำหยดเดียว เป็นหยดแห่งความหวัง ว่ายังม
ีน้ำ น้ำแห่งความหวังย่อมสร้างกำ
ลังใจที่จะขยายภาชนะ เพื่อเฝ้ารอ เรา…สร้างภาชนะรองรับไว้ใ
ห้ดี สักวันใจเรานี้ จะได้มีแอ่งน้ำของธรรมแห่งม
ุตโตทัย..!!
พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง อานิสงส์..แห่งการถวายเรือ ต่อมาอีกหน่อย ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง