คุยกัน….ประสาบุญญพลัง

คุยกัน….ประสาบุญญพลัง

591
0
แบ่งปัน
>> พระอาจารย์ : หวัดดี พรุ่งนี้ นกยูงมา เอิงเอย เวลามีน้องๆ ที่เป็นสัตว์มาแล้วนี่ เป็นสุข นี่เพิ่งออกมาจากสมาธิ ขอให้บุญนี้กระจายไปยังทุกค
คุยกัน....ประสาบุญญพลัง
<< ลูกศิษย์ 1 : อ้าว! แล้วน้องๆ ที่เป็นคนละคะ>> พระอาจารย์ : น้องๆ ที่เป็นคนมาก็ยิ่งสุขใหญ่ เจ้าของนกยูงบอกว่า ปีหน้าหากผลผลิตเขาออกมา เขาขอถวายอีกคู่ ทำไงดี ข้าไม่อยากรับเลย ปีหน้า อยากรับปีนี้เลยได้ม้ายยยนี่เห็นไม๊ การเชื่อเทวดา เขาบอกให้โทรหาตอนนี้ จะได้ลาภ ข้าจึงสั่งลวบจากแม่ค้ามาซะสองจาน ออกสมาธิปุ๊บ โทรปั๊บ เขาบอก ขอถวายเลย 1 คู่

แต่น้องนกยูงที่สั่งไปนี้ เขาเปลี่ยนตัวใหญ่ให้เลย เขาบอกว่า ตัวใหญ่ตัวเป็นหมื่น เขาขอถวายให้ในราคาลูกนก นั่นแหละ

การที่เขาถวายนั่นแหละ ทำให้เขาจะรวยทันที เพราะเพิ่งออกมาจากสมาธิ ที่ดีมากๆ ในวันนี้

แต่เขาไม่รู้หรอก ว่าเขาจะรวย มันเป็นช่วงวิบากบุญจริงๆ นกยูงข้าไม่ได้ขอนะ ข้าซื้อ แต่ตอนนี้ เขาอยากให้

<< ลูกศิษย์ 2 : เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปนั่งเฝ้าหน้าหอฉันท์ดีก่า พอหลวงพี่ลืมตาปุ๊บ หนูถวายตังค์เลย

>> พระอาจารย์ : คนมากมันไม่เป็นสมาธิหรอก กำลังมันน้อย ได้ลาภแค่พอกินหนม

<< ลูกศิษย์ 2 : อ้าววววว .. แล้วหนูจะเอากะตังค์ที่ไหนทำบุญล่ะคะ มันต้องมี ต้องรวย องค์พระพุทธะของหนูจะได้เสร็จเร็วๆ

>> พระอาจารย์ : ตังค์จากหยาดเหงื่อแรงงานหนูนั่นแหละ สวยงามยามทำบุญ เป็นใจนางงาม

เราไม่ได้สร้างพระพุทธด้วยเพราะความเป็นวัตถุ เพื่อให้เสร็จตามความมุ่งหมาย

แต่เราสร้างเพื่อเป็นที่ตั้งแห่งใจ ฉะนั้น วัตถุได้แค่ไหนเป็นเรื่องของวัตถุ

<< ลูกศิษย์ 1 : อ้าว!!!!งี๊ทรายตั้งด่านอย่างเดียวหละเป็นไงคะ งานการก็ไม่มี

>> พระอาจารย์ : แกเกิดมาบุญหนัก ไม่ต้องลำบากนัก อย่างใครอื่น บุญมันให้ผลอยู่ ที่เหลือรักษากำลังใจ เจ้าดิบ

แต่ข้าแสดงให้เห็นแล้วว่า ข้าทำได้ หากตั้งใจที่จะทำ ทำยังกะเสกขึ้นมาเลย ฮ่าๆๆๆ ว่างๆ เสกให้พวกแกรวยดีกว่า จะได้มีงานทำ ได้นั่งนับเงินทั้งวัน

<< ลูกศิษย์ 3 : ดีๆๆ ไหนลองนู๋ คนแรกเลยซิ ยอมเป็นนู๋ ทดลองให้ก่อนเลย นะเนี่ย

>> พระอาจารย์ : นี่..แกยังไม่ได้รับอีกเหรอ ดุ โห…มันคล่องยังกะทาจารบี มันยังไม่รู้ตัวกันอีก

<< ลูกศิษย์ 3 : ได้แล้วค่า สบายกว่าเมื่อก่อนโน้น…...เยอะม๊ากกกกกก แถมเป็นทั้งพี่และน้อง เป็นทั้งบ้านเลยยย

>> พระอาจารย์ : แหมม..ก็เล่นจ่ายค่าเครื่องมือแสดงธรรมมาทุกเดือน กำลังรับได้แค่นี้ ก็ต้องรับกันแค่นี้ ที่เหลือรับไม่ได้ก็ทิ้งไป

เหมือนสายฝน พึงยอมรับเท่าที่เราจะมีกำลังรับ เอากันแค่นี้ แล้วเราจะอยู่กันอย่างสบาย คนที่ช่วยค่าห่าน ค่านกยูง ค่าเรือ ค่าอะไรต่ออะไรมา มีกุศลวิบาก ส่งผลให้ทั้งนั้น

หากเป็นสัตว์ ความเจ็บไข้ได้ป่วยและวิบากทางกายจะลดลง เจือจางลง ตามกำลังจิต ไม่เกี่ยวกับจำนวนตังค์

หากเป็นวัตถุ ก็จะช่วยให้ความเป็นอยู่คล่องตัวขึ้น บางคนผลก็แสดงเลย บางคนก็ล่วงกาลต่อมา บางคนก็ล่วงกาลของกาลเวลาต่อมาอีก ตามแต่ความแรงและเชี่ยวแห่งวิบาก

บางที่ก็ควบคู่กันมา วิบากนี้ แต่ละคน มีมาเผชิญกันไม่แน่นอน หากเราอยากถูกหวย โปรแกรมก็จะตั้งไปทางหวย

หากมันมีวิบากรออยู่แล้ว มันก็จะถูกหวย หากผลแห่งวิบากแห่งหวยยังมาไม่ถึง พูดง่ายๆ ว่าผลยังไม่แก่จัด เราก็ต้องรอ

ขณะที่รอ เราจะอดได้ผลอย่างอื่น ต้องรอแค่ผลวิบากที่มาทางกุศลสาธารณะมาให้ผล  หากกำลังที่สร้างมามันอ่อน ก็รอนานหน่อย เพราะผลอื่นมาเข้าแทรกอยู่

ฉะนั้น ผลแห่งกุศลวิบาก มันจะได้เช่นไร อย่าไปคาดหวังดีกว่า เพราะยังไง ผลมันก็กระจายให้เราทางด้านกุศลแน่ๆ

การเป็นอยู่เราก็อยู่ไปด้วยการทำใจ ยอมรับ และตั้งมั่นด้วยสติไว้ว่า เราจะพึงเป็นผู้ให้ เราจะไม่ขอ

ถ้าเป็นใจที่จะเอา ผู้เอา เป็นผู้ที่ต้องชดใช้ ส่วนผู้ที่ให้เป็นผู้ที่ได้รับเสมอ ตั้งไว้แค่นี้ รวยยยย หวัดดี

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง