มีหลายคน เอาเรื่องสติปัสฐานสี่ มาบอกว่า การเห็นจิตก็เห็นเวทนา เห็นจิต และเห็นธรรมได้
นี่… สงสัยจะเข้าใจเรื่องจิตไม่ถเวทนา เกิดได้ ย่อมอาศัยกายเกิด
เวทนาทั้งหลาย อาศัยผัสสะ ทางอายนะ
อายตนะอาศัยรูป นี่..มันอาศัยกันมาอย่างนี้
คำกล่าวที่กล่าวมานั้นซ๊ำซ้
นี่มันเอาความรู้สึกไปเห็น ความรู้สึกนี่ มันเป็นชาติ ในอาการของเวทนา มันจะไปเห็นจิตตรงไหน เห็นธรรมตรงไหน
ความเข้าใจในสติปัสฐาน เข้าใจเป็นอย่างๆ นี่ เป็นความรู้ อ่านๆ จำๆ มาแล้วนึกว่าเอามันไม่ใช่อย่างนั้น
หากไม่ไปเฝ้าดู กาย จะไม่รู้จัก เวทนา ที่รู้จักนั้น ไม่ใช่เวทนาอันเป็นวิปัสสนาญ
การเข้าถึงเวทนาอันเป็นวิปัส
เวทนาทั้งหลาย เพียงแค่อาศัยเหตุปัจจัยผ่า
เมื่อภูมิปัญญาเต็มขึ้นมา จึงจะเกิดวิปัสสนาญาณเห็นว่า
เวทนาจริงนั้น ไม่มี ที่มีมันอาศัยเหตุปัจจัยจาก
เมื่อภูมิปัญญาเต็มขึ้นมาอี
มันเกิดจากเหตุปัจจัย ปรุงแต่งไปตามธรรมดาของมัน ไม่มีใครไปเป็นเจ้าของอะไรเ
มันอาศัยความไม่รู้เป็นกลไก
เป็นกฏแห่งอิธทัปปัจยตา ที่ร้อยเรียงกันมาครบกาลเรี
ธรรมทั้งหลายมันอาศัยกันมาอ
ในหลักของสติปัสฐานสี่ ธรรมนั้น เป็นภูมิขั้นปัญญา เป็นเรื่องของปัญญาระดับอรห
เรื่องจิตนั้น เป็นภูมิขึ้น สมาธิ เป็นเรื่องของปัญญา ระดับอนาคามีมรรค ไปถึงอนาคามีผล
เรื่องเวทนานั้น เป็นภูมิขึ้น ศีล เป็นเรื่องของปัญญา ระดับโสดาติมรรค ไปถึง สกิทาคามีผล
ส่วนเรื่องกายนั้น เป็นภูมิปัญญาขั้นปุถุชนทั้
เพื่อสร้างรากฐานไปสู่ โสดาปัตติมรรค ไปยัน อรหัตผล
นี่เป็นทางเอก เป็นเส้นทางเดียวที่กว้าง และทอดทางเข้าสู่ประตูนิพพา
การเห็น กาย เวทนา จิต ธรรม มันเรียงร้อยกันมาเช่นนี้
ไอ้ที่รู้ธรรมเรื่องสติปัสฐ
เมื่อไหร่ที่เห็นธรรม ก็จะเห็นเด่นชัดอีกว่า ความจริงทั้งหลาย ที่ไม่ใช่ความรู้ มันเป็นแค่อาการสมมุติอย่าง
และธรรมทั้งหลาย ที่เป็นสมมุตินั้น มันดันซ่อนอยู่ในกายนี้ซะด้
มันยังมีกายนอก กายใน และกายในกาย
เราพิจารณากายนอกหรือยัง..??
พิจารณากายในหรือยัง..??
เข้าใจกายนอก เข้าใจกายใน เราจึงตั้งสติพิจารณา กายในกายได้ชัด
เวทนานอก เวทนาใน เวทนาในเวทนา
จิตนอก จิตใน จิตในจิต
ธรรมนอก ธรรมใน ธรรมในธรรม
เหล่านี้ มันต้องอาศัยภูมิปัญญาครูบา
เราเข้าใจกันแค่ผิวเปลือกหน
สติปัสฐานนี้ เป็นการตั้งสติ ในอิริยาบทกาย เดิน ยืน นอน นั่ง ให้มีสติสืบเนื่องกันไป
ย่อมไม่ใช่ของง่าย ที่จะไปเห็น เวทนา จิต และธรรม หากการชี้ธรรมไม่รู้จุดมุ่ง
ธรรมที่ได้ก็จะเป็นแค่ความร
ที่พระอริยเจ้า ท่านได้แสดงความเห็นไว้ โดยที่เราเข้าไปไม่ถึง
ที่เข้าได้ ก็เป็นแค่ลูบไล้เปลือก
แล้วกล่าวบอกว่า….กูนี้รู
รู้ไหม..กูอย่างนี้ ยังเป็นกูที่โง่หลาย …