<< พระอาจารย์ : ที่นี่หิ่งห้อยตัวใหญ่ หากนึกย้อนไป สมัยตอนบำเพ็ญธรรมอยู่ในป่า
แต่หิ่งห้อยนั้น มันเป็นดวงใหญ่ สว่างโพลน อมสีเขียว แสงมันพุ่งขั้นจากดิน แล้วไปลอยนิ่งๆ อยู่ระหว่างยอดไม้ แสงนั้นลอยนิ่งอยู่นาน แล้วก็วูบหายไป
แสงเหล่านี้ ยากจะอธิบาย เพราะเราเป็นแค่ผู้เห็น ไม่ใช่ผู้รู้ว่า แท้จริงแล้ว มันคืออะไร แต่ก็เป็นความแปลกประหลาดใจ ว่าใดๆ ในโลกนี้ ยังมีสิ่งซ่อนเร้น และไม่ได้เห็นแก่คนทั้งหลาย
ครั้งหนึ่ง ข้ากินอาหารแสนหอมหวานและอร
ลองค้นหามันรึยัง ว่าทำไมหอมหวานสุดๆ ถึงได้ออกมาเหม็นและน่าสะอิ
>> คำถาม : หลวงพ่อคะ เคยได้ยินเค้าว่าก
<< พระอาจารย์ : จริง….ดาว ถึงจุดหนึ่ง ใจจะต้านไม่ได้ มันจะบ้าและวิกลจริต เรียกว่า กรรมฐานแตก ที่แตกเพราะใจไม่มีอะไรยึดเ
>> คำถาม : ผมมีคำถามครับหลวงพี่ คือเมื่อนั่ง ภาวนาแล้วมีแสงกลมบาง วงรีบาง สีเขียว ส้ม สีอื่นๆ บ้าง เราควรตามดูหรือให้กับมาเริ
<< พระอาจารย์ : มันเป็นปิติที่เรียกว่า แสงแห่งนิมิตน่ะโนช ใจมันละเอียดลงมาถึงจะเกิด ดูมันเฉยๆ หรือจะกำหนดๆ สร้าง เป็นกสิณก็ได้
เมื่อได้แล้ว จะได้ทิพย์จักขุญาณ สามารถมองเห็นเจ้าปอแก้ผ้าไ
พวกที่ขึ้นกรรมฐานแล้ว อย่าลืม ก่อนนอน และหลังตื่น กรุณาทำกรรฐานด้วย หากไม่ทำ หลายๆ ครั้ง เจ้าจะป่วย ขอบอก ป่วยแล้วไม่ทำอีก ที่ขึ้นกรรมฐานมา เป็นปาราชิกนะจ๊ะ
ผู้ที่ปาราชิก ชาตินี้ อย่าหวังมรรคผล เกิดมามีแต่โมฆะ หลอกตัวเอง และพระ ตลอดจนพรหมเทวาและพระพุทธชิ
นสีห์ ด้วย.. ทั้งขอขมากรรม ทั้งขานกรรมฐาน หากดูเป็นเรื่องเล่นไป สงสัยชาตินี้ ชีวิตจะอับเฉา
เพราะเป็นคน ไม่รักษาสัจจะ หลอกตนเองหลอกพระหลอกเจ้า ข่มใจตนเองไม่ได้ ขาดสติระลึก การขึ้นกรรมฐาน นี่..พวกใจเลววววววว ขอบอก พวกใจเลว ย่อมมีอบายภูมิ เป็นที่ไป
ไปเพราะเป็นใจที่ปาราชิก คือเป็นผู้พ่ายต่อการข่มใจ ในกระแสกิเลสของตนเอง ก็สมควรอยู่แล้ว
ข้าไม่ช่วยหรอก ชาตินี้เจอกันและช่วยกันครั
เราควรทำให้เต็มภูมิเรา เท่าที่โอกาสจะอำนวย นี่ถ้าพวกขึ้นกรรมฐานไปเจอค
เขาจะบอกว่า พวกเราเป็นพวกที่มีกำลังทาง
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง