..จริตข้านี้แปลกนักหนา ถามว่าแปลกไหม มันก็ไม่แปลกหรอก เพียงแต่ข้าเฝ้าดูมันอีกที
อาการและโปรแกรมมันก็แสดงไป
เหมือนเราเฝ้าดูหนังหน้าจอ… เราดูเรารู้จักตัวละครทุกตั
เราผู้ดูมีหน้าที่ดู และนำเอาตัวอย่างบางตอนมาเป
เราคงไม่สามารถไปเปลี่ยนแปล
พฤติกรรมข้านี้ก็เช่นกัน ข้าไม่ชอบเลย บางอย่างมันน่ารังเกียจ แต่ทำไงได้ โปรแกรมจิตมันมีสันดานเป็นม
ถ้าไปดัดมัน เราก็รู้อยู่แก่ใจ ว่ามันไม่จริง เป็นการกระทำขึ้นมาเพื่อให้
แต่ใจเราเองรับการตอแหลไม่ไ
เหมือนเราเจอคนที่มันมาตอแห
ลเรา แต่เรารู้การตอแหลนั้น ฉันใด.. ใจที่เห็นอาการแห่งโปรแกรมจิตอยู่ รับตัวเองไม่ได้ ก็ฉันนั้น..
จึงเป็นที่ไม่ถูกใจของคนที่
ยึดว่า ต้องอย่างนี้ ต้องอย่างนั้น
ข้าแค่เบรคๆ ให้มันพอดีๆ กับการอยู่ร่วมกันในสังคมก็
มันเป็นมาก่อนข้าเกิดมาเป็น
นั่นเป็นเพราะการรักษาภาพพจ
ตัวข้าในอัตภาพนี้ ยังไม่มี และที่สำคัญ ข้ายังไม่รู้จักมัน ตัวจริงของมันที่เกิดกับใจด
อะไรชอบก็ถูกใจไปซะหมด อะไรไม่ชอบก็ไม่ถูกใจไปซะหม
เป็นใจที่มันอ่อนแอ มีตัวตนเป็นผู้ตัดสิน ทำไปตามอำเภอใจ ยึดถูกยึดผิดกับสิ่งที่ตัวเ
ไม่เคยพิจารณา ว่าผลทั้งหลายนั้น มันมีเหตุ เมื่อเป็นคนไม่รู้จักเหตุ ความทุกข์ทั้งหลายก็ประดังผ
มันแก้ทุกข์ไม่ได้ ถูกใจแม่งก็ชอบ ไม่ถูกใจ กูก็ไม่ชอบ ใจมันเป็นเจ้าของทุกๆ อย่างในกายนี้
ใจดวงนี้มันโดนคลุมจับกุมด้
แล้วจะโพทนาว่า ตัวเองดี ตัวเองถูก คนอื่นไม่ยอมมาเข้าใจเอง เมื่อไม่ถูกใจ คนอื่นๆ ผิดหมด ถ้าถูกใจ อะไรๆ ก็โอเค นี่ใจคนเราธรรมชาติมันเป็นแ
..พุทธศาสนาชี้ให้เห็นความเ
โลภ.. ธรรมชาติของมันคือ..การเอาเข้
า โกรธ..ธรรมชาติของมันคือ..การ
เอาออก และทั้งโกรธและโลภ เป็นอาการหนึ่งของการ หลง..!!
ทั้งสามตัว เป็นอาการแห่งจิต มันหล่อเลี้ยงกันมาไม่รู้จะ
กี่แสนกี่ล้านชาติ ต้องเรียกว่าอนันตชาติ หาจุดเกิดกำเนิด และสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้…!!
ปฏิจจสมุปบาทฝ่ายโลภ คือ การก่อ ฝ่ายดับ คือ การโกรธ
นี่..ฟังดูแล้วมันแปลก แปลกเพราะเราคิดไม่ถึง เราหมายความโกรธว่า เป็นความดุร้าย อาฆาต พยาบาท
โกรธนี่แหละคือพลัก ดันออก ไม่เอา ดับไป ไม่ก่อ สงบ สงบนี่แหละคือ ธรรมชาติของโก
มันไม่เอาความเดือดร้อน ไม่สงบชอบสร้างความเดือดร้อ
มันมีทั้งฟากที่เย็นจัด และฟากที่ร้อนจัด อยู่ที่ใจจะเอนเอียงไปทางไห
เพราะมันเป็นอาการแห่งโกรธ เป็นธรรมชาติของจิตอย่างหนึ
เพราะความไม่รู้เป็นเหตุ ความไม่รู้นี่แหละคือ ..อวิชชา.. อวิชชาก็คือ ตัวหลง หลงยึดทุกอย่างว่า ใช่หรือไม่ใช่ โกรธเป็นอาการแห่งหลง โลภก็เป็นอาการแห่งหลง ทั้งหมดเกิดขึ้นได้เพราะ การผัสสะเป็นเหตุ
..ข้าเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่
ที่แสดงออกว่าไหล มันมีผู้เฝ้าดูอยู่ กำลังดูบทบาทที่มันแสดง ข้าไม่ห้ามมันหรอก เอากันแค่พออยู่ได้ จิตที่มันหล่อหลอมมาในฟากจั
ก็เมื่อก่อนไม่รู้นี่ เลยกดมันไว้ ผลก็คือ แทบทุกคนเห็นว่าข้าดี เป็นเพื่อนที่ดี พ่อที่ดี และเป็นลูกที่ดี ดีเพราะทำมันขึ้นมา ตามที่โลกเขาว่า และตัวกูก็ว่า
ไม่ได้กระทำไปตามธรรมที่มัน
เราไม่รู้จัก ที่รู้จัก มันเป็นธรรมชาติของโลกที่เข
และเราไม่ได้รู้จักอย่างแท้
ธรรมที่แท้จริงจึงไม่เกิดขึ
ใจนี้เมื่อมาเห็นธรรม มันก็เห็นแบบเหนือโลก เห็นแบบเหนือตัวตน มันเห็นธรรมชาติที่มันมีและ
มันเห็นลึก เห็นทุกมุม ที่ใจดวงนี้ และธรรมชาติแห่งใจใดๆ ที่มันเป็น รูปนี้กายนี้มันเลยพิลึกกึก
เราเห็นใครแสดงยังไง เราก็เห็นใจเราแสดงออกมาเช่
บางอย่างมันจึงน่าอดสูสำหรั
เราไม่ชอบใจดวงนี้เลย แต่เราต้องยอมรับมัน ว่ามันเป็นของมันเช่นนี้ อย่าไปหวังให้ถูกใจใคร มันเป็นของมันเช่นนั้นเอง
พระอรหันต์เจ้า ท่านรู้จัก โกรธ ท่านรู้จัก โลภ ท่านรู้จัก หลง ท่านจึงไม่ได้ไหลไปกับ โลภ โกรธ หลง ที่ใจมันแสดง
เพราะท่านรู้ว่า นี่มันเป็นอาการหนึ่งของจิต
มันเป็นอุปาทาน มีความเป็นเจ้าของแห่งตัวตน
พระอรหันต์ท่านไม่ตัด ถ้าท่านไล่มาเป็นลำดับขั้น จนเป็นพระอรหันต์ ท่านก็จะรู้ว่า กูนี่โง่ตัดมายาวนาน ตัดให้ตายเป็นจอมโคตรอรหันต
มันเป็นของมันอย่างนั้น ไม่มีใครไปเป็นเจ้าของ แล้วใจจะไปเดือดร้อนกับมันท
มูลเหตุมัน ก่อกำเนิดมาจาก อวิชชา และอวิชชาเป็นที่มาของอาการ
อวิชชาก่อกำเนิดเกิดมาด้วยป
และต้องช่างแม่งมัน ด้วยสติที่ไม่รำคาญ ช่างแม่งมันจึงจะแก้ อวิชชาได้……!!!
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2556 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง