ถอดจิต มาข่มขืน จิต ท่อนสอง

ถอดจิต มาข่มขืน จิต ท่อนสอง

1599
0
แบ่งปัน

ห้องนี้ ไปไหนหมด นี่ๆๆๆ วันนี้มาต่อเรื่อง จิตที่โดนข่มขืนกัน ต่อเลยนะ เดี๋ยวขี้เกียจอีก เพราะวันนี้ โม้เรื่องพบพระอรหันต์มาแล้ว ธรรมมันได้แสดงออกไปแล้ว แต่พวกเราหลายคนไม่มีบุญฟัง ฮ่าๆๆ คนไม่มีบุญ

ถอดจิต มาข่มขืน จิต ท่อนสองวันนี้ คืนนี้ มาว่ากันถึงเรื่องจิตต่อ ข้าเอง ใครๆ เขาก็มอบตำแหน่ง การถอดจิตออกไปข่มขืนคนมาแล้ว แต่ของข้ามันโดนยัดเยียด ว่าเป็นคนทำ

เพราะพวกมันคิดเอา กันไปเอง มันไม่ได้มีญาณรู้อะไรจริงไม่จริง ข้าก็เลยยอมรับพวกมันไปเลย โดยการ พยักหน้า

การพยักหน้าของข้ามีผลให้พวกบ้าๆ นี้ หกเจ็ดสิบคน ไม่มาจัดกลุ่มปฏิบัติอะไร ที่แพกลางน้ำ ข้าอีกต่อไป ข้าก็เลยสงบลง

เรื่องนี้ ไอ้เจ้าด้วง มันเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น และเป็นหนึ่งในเบอร์ต้นๆ  ซะด้วย ใช่ไหม

ไอ้แมลงกุดจี่ มีน้องคนหนึ่ง มาบอกว่า เขานี้ ไปฝึกปฏิบัติมา เมื่อกลับมาบ้าน เขานอนไม่ได้ เพราะมีบางอย่าง มาข่มขืนเขา

เขาพยายามดิ้น เพื่อให้พ้นไปจาก อาการอย่างนี้ แต่เขาพ่ายทุกที ที่สุด ก็ต้องยอมจำนน ยอมให้เขาข่มขืน

เธอโดนข่มขืนทุกคืน ทั้งๆ ที่ใจเธอไม่ยินยอมเลย แต่ใครก็ช่วยไม่ได้ และที่สำคัญ เธอไม่กล้าบอกใคร

มีผู้หญิงที่มาบอกข้าเช่นนี้หลายคน แต่ข้าขี้เกียจบอกวิธีช่วย ถึงบอก ใจเธอก็พ่าย

ที่พ่าย เพราะจิตนี้ มันบังคับไปตามกำลังใจไม่ได้ หากเป็นใจ ที่พ่ายแพ้ ไม่ใด้มีที่ตั้ง

วันนี้ข้าก็จะเอามาคุยให้ฟังกัน ถึงเหตุ

ผู้หญิงคนหนึ่ง เธอบอกว่า เธอโดนข่มขืน ตั้งสามเดือน โดยที่ใจไม่ยินยอม แต่เธอฝืนไม่ได้

และบางครั้ง ใจก็เอนตาม ทำให้เธอรู้สึกรักและยอมผัวทางจิตคนนี้ไป

ในที่สุด ใจที่โดนข่มขืนบ่อยๆ ทำให้ อยากพบ คนที่เข้ามาข่มขืนเธอ และยอมอยู่เป็นเมียมาถึงทุกวันนี้

มีน้องอีกคนหนึ่งกล่าวว่า หลังจากที่เธอโดนข่มขืนบ่อยๆ วันหนึ่งเธอก็เร่าร้อน อยากออกไปวัด

เมื่อไปถึง เธอเห็นชายในชุดขาวผู้หนึ่ง นั่งสมาธิอยู่ในโบสถ์

แค่เห็นเท่านั้น เธอก็สะท้านหวั่นไหว อยากเข้าไปกอด อยากเข้าไปลูบไล้ ผู้ชายคนนั้น รูปร่างดำสูงใหญ่ ไม่น่าพิศวาสอะไรเลย

แต่เธอรู้ว่า คนๆ นี้แหละ เป็นคนที่เธอถวิลหา และต้องการอยู่ใกล้ และอยากมีกามราคะสมสู่ด้วย เธอไม่เข้าใจตัวเอง แต่ใจเธอ ต้านไม่ได้

ที่สุด เขาก็ลุกขึ้น เธอเดินตามเขาออกไป เธอมอบทั้งกระเป๋า ทั้งเงิน และกุญแจรถให้เขา และแถมไปกดเงินออกมาให้เขาอีก จากนั้นก็นั่งรถไปด้วยกัน

เธอบอกว่า มันฝืนใจตัวเองไม่ได้ ในใจมันคิดแต่ว่า เขาผู้นี้แหละ เป็นคนที่จะนำเธอ ออกจากความทุกข์ทั้งหลาย ใจมันคล้อยตามเขาไปทุกเรื่อง

เมื่อถอนเงินออกมาจำนวนหนึ่ง เธอก็ขับรถออกไปกับเขา เขาพาเธอ ขับเข้ากรุงเทพ ระหว่างทาง เธอบอกว่า มันบังคับใจไม่ได้เลย เขาน่ะอยู่เฉยๆ แต่เธอกลับกอด เธอจูบ เธออยากจะข่มขืนเขาบ้าง

จนกระทั่ง สี่โมง เธอระลึกได้ว่า ต้องไปรับลูกที่โรงเรียน ความรู้สึกรับผิดชอบ ที่จะต้องไปรับลูก มันมาขวางให้เธอรู้สึกว่า เธอทิ้งลูกไม่ได้ เธอขอร้องให้เขา พาเธอไปรับลูก เธอไม่ไปแล้ว เธอจะไปรับลูก

เธอบอกว่า ชายคนนั้น พาเธอเลี้ยวกลับ และได้กลับมาส่งเธอที่ในเมือง จากนั้น ชายผู้นั้น ก็ขึ้นรถกระบะ จากเธอไป

เธอรีบเอารถไปจอด และเอามอเตอร์ไซร์ออกไปรับลูก แต่ก็ไม่วาย ขับออกไปตามหาชายผู้นั้นอีก

นี่..จิตมันฝืนไม่ได้ ใจมันร่ำร้องแต่จะไปหาเขา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร มาจากไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า คนนี้ ใช่แน่ๆ ใช่คนที่ใจเธอรอคอย และต้องการเขา

อีกคนหนึ่ง โดนข่มขืนทุกคืน จนใจทนไม่ไหว เอาหัวโขกกับกำแพงบ้าน เพื่อให้รอดพ้นจาก การข่มขืน ที่สุด ใจมันก็ชอบ วันไหน ไม่โดนข่มขืน ใจอยู่ไม่ได้อีก นี่ก็แทบบ้าไปเหมือนกัน

วันหนึ่ง ไปงานบุญ ปรากฏว่า ไปเจอเจ้าพิธี หัวล้านตัวดำ อ้วน อายุร่วมๆ ห้าสิบ ใจมันหวั่นไหว พอเห็นเจ้าพิธีแล้ว ใช่เลยคนนี้ คนที่ใจต้องการ

มันรักอย่างหัวปักหัวปำ ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง จะอยู่ให้เขาเอาลูกเดียว ทั้งๆ ที่ใจลึกๆ มันก็ไม่ต้องการเลย แต่ห้ามใจไม่ไหว

จนใครๆ ต้องเข้ามาจับ เพราะคิดว่าเธอโดนผีเข้า เธออยากเอาเจ้าพิธีคนนี้ เป็นผัวให้ได้ ที่สุด เธอก็ขออยู่กับเขา จะให้ทำอะไรก็ยอม ขอให้ได้อยู่ใกล้ๆ แม้ใจภายในมันจะไม่ต้องการก็ตาม

เธออยู่กับเจ้าพิธีหลายเดือน โดยอยู่ร่วมกับผู้หญิงที่มีอาการเช่นเธออีก สามสี่คน ที่สุด เธอก็รอดมาได้ แต่ใจก็ยังเฝ้าคิดถึงอยู่มันห้ามใจไม่ได้
อีกคนหนึ่ง โดนข่มขืนหลายคืนติดต่อ และรู้ด้วยว่าใครข่มขืน แต่ไม่กล้าไปถามเขา เพราะมันเป็นเหมือนฝัน นี่..เธอคนนี้ รู้สึกเหมือนฝัน

เมื่อไหร่ที่หลับ เธอจะโดนผู้ชายคนนี้ เข้ามาสมสู่กับเธอทุกที แต่รายนี้ เธอบอกว่าเธอชอบ แต่ผู้ชายเขาไม่แสดงตัว และเธอปักใจ ว่าเป็นชายคนนี้แน่ เพียงแต่เธอไม่กล้าถามเขา

นี่ถ้าผู้ชายเอ่ยหน่อยเดียว เธอบอกว่า เธอยอมเป็นเมียเลย อาการทั้งหมดนี้ เป็นอาการที่ถูกรุกรานทางจิต การรุกรานทางจิตแบบนี้ ผู้ส่งต้องมีกำลังจิตที่หนาแน่น พอสมควร

ยิ่งถ้าทำจิตจนเป็นเห็นแสงสว่างโพลนขึ้นมา จนเคยชิน มันก็ง่ายในการที่จะจูงจิตคน หากฝึกมาทางกสิณ สร้างมโนจิต จนได้ดวงกสิณ เป็นนิมิตหมาย ขยายได้ย่อได้ เพียงแค่นี้ กำลังก็เพียงพอแล้ว สำหรับเหยื่อ ที่เป็นคนจิตอ่อน

พวกนี้ จะสร้างนิมิตขึ้นมา แล้วหาเวลาที่เหยื่อไร้สติ เช่นตอนหลับ หรือตอนฟุ้งซ่าน เครียด อกหัก เสียใจ อะไรก็ได้ ที่เหยื่อมีอาการทางใจ ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง หรือเป็นพวกสติอ่อน ไหลไปตามกระแสง่าย พวกนี้ เป็นเหยื่อได้ง่ายทั้งนั้น

เจ้าพิธีที่มั่นคงทางจิต เมื่อมันเลือกเหยื่อได้แล้ว มันจะสร้าง อุคนิมิตขึ้นมา เมื่อนิมิตคงที่และกำลังหนาแน่นดีแล้ว จึงเปลี่ยนจากนิมิตนั้น ให้เป็นรูปเหยื่อ
เพ่งเข้าไปในรูป และใส่เจตนาจิตลงไป

หากจะข่มขืน ก็ใช้คำหยาบๆ ลงไปในเจตนาว่า กูจะเย๊ดๆๆๆๆๆ ถี่ๆ และคงรูปนิมิตนั้นไว้ หากเหยื่อสติอ่อน ในช่วงนั้น เจตนานี้ มันจะไปเป็นผลกับเหยื่อ

แต่หากเหยื่อ มีกำลังสติที่มั่นคง กำลังแห่งเจตนานี้ ไม่เป็นผล ถึงเป็นก็น้อย ผู้ส่งเจตนา สามารถ เข้าไปในนิมิตแห่งรูปเหยื่อได้ หรือจะใส่เจตนา เล้าโลมร่วมรักกับเหยื่อก็ได้

มันแล้วแต่เจตนา จิตมันจะปรุงแต่งไปตามผัสสะ เพราะนี่เป็นเรื่องแห่งโลกิยะล้วนๆ ใครที่เอาสมาธิ มาทำวิชาพวกนี้

ผลก็คือ ลงมหานรก เมื่อกายแตก ไปไหนไม่ได้เลยเพราะมันเป็นการย้อมจิตโดยตรง ทำให้ยากแก่การหวลกลับ หนีกระแสแห่งราคะ

ส่วนเหยื่อผู้โดนกระทำ มันเป็นธรรมชาติของการโดนสมสู่ จิตเดิมๆ มันมีสัญชาติญาณเดิมเช่นนี้อยู่แล้ว เมื่อโดนย้อมเข้าไป ซักสามสี่ครั้งบ่อยๆ

จิตก็จะไหลมาทางเคยชิน คือชอบและแสวงหา เป็นปกติ ธรรมดา เพราะมันเป็นอาการอย่างหนึ่งของตัณหาแห่งจิต กันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

แต่นั้นแหละ พันคนมันจะมีซักคน ที่จะมีกำลังแห่งจิตที่หนาแน่ พอที่จะสั่งจิตใจ คนอื่นได้ แต่ยุคนี้ มันก็ยังมี เพียงแต่มันไม่โดนเราก็แค่นั้น

เรื่องจิตนี่ มันพิศดาร เราอย่าไปห้าวหาญกับมันเชียว คนที่โดน เมื่อได้ผัสสะแล้ว ใจมันจะคล้อยตามจิต

พรุ่งนี้ ข้าจะบอกวิธีแก้ แต่พวกเรานี้ ไม่ต้องกลัว หน้าตาแต่ละคน คงไม่มีใครอยากเอาไปข่มขืน ให้เสียเวลาสมาธิจิตหรอก

ส่งมาเมื่อไหร่ จิตมันคงเฉาและกลั้นใจตาย ที่่ี้มาเจอจิตหื่นๆ  กว่าอย่างพวกแก ฮ่าๆๆๆ ค่อยว่ากันอีกที คืนนี้หวัดดี

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง