ธรรมถามตอบ ตัวรู้ วิญญาน นิพพาน สุญญตา

ธรรมถามตอบ ตัวรู้ วิญญาน นิพพาน สุญญตา

1027
0
แบ่งปัน

>> ลูกศิษย์ : กราบเรียนพระอาจารย์…ครับ การเป็นห่วงเป็นอารมณ์ ของโลภะ หรือโมหะครับ…เพราะมันมีสองอารมณ์…ห่วงคน…กับห่วงทรัพย์สิน…ห่วงคนน่าจะเป็นโมหะ…ส่วนห่วงทรัพย์สินจะเป็นโลภะ ไม่ทราบผมถูกหรือเปล่าครับ

<< พระอาจารย์ : Meena Mana การห่วงเป็นอารมณ์ ของ โมหะ 

ส่วนโลภและโกรธ ก็เป็นอาการอารมณ์ของโมหะครับ มีนา

โมหะนี่ คือหลง ความหลงทำให้เกิดโลภ และโกรธ

ความโลภและโกรธ เป็นอาการธรรมชาติที่เป็นโปรแกรม ปกปักรักษารูป

โลภะก็มีเหตุมาจากโมหะ โทสะก็มีเหตุมาจาก โมหะ

โมหะมีเหตุมาจาก อุปาทาน อุปาทานมีเหตุมาจากตัณหาที่ผุดขึ้นมาไม่รู้จักจบ จากใจดวงนี้ อวิชชาเป็นต้นเหตุแห่งอาการแห่งความหลงคิดหลงทำหลงรู้ทั้งหลาย

>> ลูกศิษย์ : กราบพระอาจารย์ แล้วที่จิตลึกๆๆ เจ็บปวดรู้สึกทรมารมาก ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นอะไร อย่างนี้คืออะไรค่ะ

<< พระอาจารย์ : ภัทรวดี ประทับแก้วกุลเดช จิตลึกๆ ที่เจ็บปวด มันเป็นอุปาทานทางจิต กายไม่ได้ปวด ความเจ็บปวดนี้ หากเผชิญที่เป็นเรื่องอุปาทานหนักๆ คือไม่ได้ดังใจเป็นเหตุ มันเจ็บลึกและฝังแค้น มันมีหลายสาเหตุ แต่ทุกสาเหตุ เกิดจากอุปาทานที่วางตัณหา ในเวทนาที่โดนผัสสะ ไม่ลง มันเลย…จี๊ดดดด หรือเกิด อาการปิติในสมาธิก็จี๊ดดดด

>> ลูกศิษย์ : ก่อนจิตจะดับ…เอาแบบเสมือนจริงเลยนะครับ…เช่นคนก่อนจะสิ้นใจย่อมมีเวทนามหาศาลมาก…ทั้งทางการและใจ…จะทำอย่างไรครับ ถึงจะให้มีสติระงับเวทนาที่เกิดขึ้นในขณะนั้นได้ทัน เพื่อให้สติมีกำลังมาระลึกถึงบุญ ความดีที่เราเคยสร้างมา รวมทั้งการที่เราจะปล่อยวางความห่วงทั้งหลาย..

ผมคิดว่าตอนนี้เป็นจุดที่สำคัญมากที่จะเป็นการทดสอบของการปฏิบัติที่ผ่านมาของเราทั้งหมด เพื่อที่จะให้ผ่านตรงนี้ไปได้ตอนมีชีวิตต้องฝึกจิตแบบไหนครับ…

<< พระอาจารย์ : Meena ก่อนจิตจะดับหากไม่เคยกระทำอบรม ให้จิตมีความเคยชินในการยอมรับ สิ่งที่กำลังเผชิญ กำลังจะเกิด เช่นความตาย

ถึงมีสติมันก็ไม่วาง เวทนาทั้งหลาย แม้พระอรหันต์ ท่านก็ระงับไม่ได้ เพราะเวทนามันอาศัยเหตุปัจจัยเกิด ไม่ใช่ว่า คิดเอาเอง

ใจที่มันมีกำลังและเกิดการพิจารณาอยู่เนืองๆ ถึงความเป็นจริง และมีที่ตั้งแห่งใจ คือการทำกุศลจิต เช่นทาน จนจิตมันเคยชิน และมีผู้ชี้นำจนเราเกิดปัญญาเห็นจริงตามความเป็นจริง มีดวงตาเห็นธรรม

แม้จะไม่มีสติ หรือเวทนาอันแรงกล้ามารุมเร้า จิตมันก็มุ่งไปสู่ความสว่าง ด้วยกำลังและความตั้งมั่น ที่อบรมมาจนเคยชินของมันอยู่แล้ว มันเป็นธรรมชาติที่เหมือนน้ำไหลลงสู่ที่ต่ำอยู่แล้ว ด้วยความเคยชิน

สำคัญ ตอนมีชีวิตอยู่ เราอบรมจิตเราให้มีความเคยชิน และตั้งมันได้แค่ไหน ในขณะที่มีกำลัง

ทุกคนสามารถทำได้ แต่คร้านที่จะทำ เรื่องเช่นนี้ ทำใครทำมัน ต่างก็ช่วยเหลือกันไม่ได้อยู่แล้ว หากเจ้าของแม้รู้แล้ว..ก็ไม่ทำ

>> ลูกศิษย์ : ขออนุญาตถามค่ะ ณ ตอนนี้จากใจ คิดว่าถ้าเกิดเหตุการ จากการพรากจะทำใจได้ โดยยังไม่ผัสสะมากระทบมีเพียงแค่ความคิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้นในตอนนั้น //แต่.. ทั้งๆ ที่รู้ว่าถ้าประสบเหตุการจากการพรากจริงนั้นทำใจยากมาก และคงจะทำใจไม่ได้ เหมือนจะขาดแต่ขาดไม่จริง อย่างนี้ เมื่อตายไป จะต้องตกไปอยู่ในภูมิสัตว์ไหมค่ะ และควรจะทำอย่างไรดีค่ะ ขอความเมตตาชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ

<< พระอาจารย์ : Luck Muggle หากใจไม่ได้รับการอบรม และเกิดความไม่มั่นใจ หากใจมันปักอยู่ในกระแสที่เผชิญ หากกายแตกตอนนั้น มีสิทธิ์ไปเกิดกำเนิดเป็นสัตว์ เพราะความหลงยึดเป็นเหตุ แก้โดยการหัดพิจารณาถึงความเป็นธรรมดาที่ต้องพรากอยู่เนืองๆ ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อความเข้าใจและเคยชินกับการเกิดมา ย่อมมีพรากจากเป็นธรรมดา

>> ลูกศิษย์ : เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีข่าวในทีวีข่าวนึง ว่านักศึกษาคู่นึงเป็นคู่รักกันเรียนจบก็จะแต่งงานกัน แต่เกิดอุบัติเหตุตายทั้งคู่ ญาติบอกว่าทั้งคู่มาขอให้จัดงานแต่งงานให้ เพื่อนเขาที่เป็นร่างทรงบอกว่า “เขาบอกว่าเขาอยากใส่ชุดแบบนี้ ทำผมแบบนี้ ”

ญาติๆ ทั้งคู่ก็เลยจัดงานแต่งงานแบบสมมุติขึ้นมาให้เลย มันเป็นเรื่องจริงหรือว่าอุปาทานคะพระอาจารย์ ที่ตายแล้วเราสามารถมาหาญาติๆ เราได้มาสั่งเสียน่ะค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นได้จริง คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว

และมาปีสองปีที่แล้วข่าวในทีวีเหมือนกันค่ะ เด็กประมาณ3-4ขวบอยู่กะแม่ 2 คน แต่แม่ตาย กว่าจะมีคนรู้ก็ 1-2 คืน แต่เด็กบอกว่าแม่ชงนมให้กิน อย่างนี้ใช่วิญญาณแม่ที่เป็นห่วงลูกมากรึป่าวคะ

<< พระอาจารย์ : Ying Porntip ผู้ที่ตายไปแล้ว มันมีแต่สิ่งที่บันทึก เมื่อตายไป อายุขัยจริงยังไม่หมด ก็จะอยู่ในสภาพอากาศวิญญาณ

ส่วนการมาเข้าฝันนั้น พวกผีเขามาเข้าได้ และบอกเรื่องราวต่างๆ ที่ตนต้องการได้

แต่ถึงคนจะทำให้ มันก็ไม่มีผล เพราะเขาบันทึกไม่ได้ แต่ใจที่เป็นกุศลจิตสามารถแผ่ไปถึงเขาได้

ส่วนเรื่องเด็กน้อย ที่แม่มาชงนมให้ วิญญาณแม่ที่ตายแล้ว มีกำลังแห่งความเป็นห่วงจัดตรงนี้ ก็สามารถทำให้ลูกได้เช่นกัน เพราะยังไม่นึกว่าตนเองตายแล้วก็มี

เรื่องจิตนี้ มันอธิบายยาก มันมีเหตุปัจจัยให้เกิดมากมาย แต่มันไม่สาธารณะทั่วไป มันจึงเจาะจงลงไปไม่ได้ ว่าต้องอย่างนั้นว่าต้องอย่างนี้

แต่ที่แน่ๆ พอกาลผ่านไป กำลังเช่นนั้นมันก็จางลงไป เป็นธรรมดา

เราแค่นำสิ่งเหล่านี้มายืนยันใจว่า ภายหลังแต่กายแตก มันยังมีความทางจำในรูปวิญญาณแห่งเรา ล่องลอยอยู่

เอามาเตือนใจเรา ว่าเรา…อย่าได้ทำชั่ว ให้ทำแต่ความดี และหมั่นรักษาความดีนี้ไว้ ให้มันเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง ยอมรับมันซะ… ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง


>> ลูกศิษย์ : กราบเรียนถามพระอาจารย์และพี่น้องสหมิตรธรรม สภาวะสุญญตา ความว่าง เทียบได้กับ นิพพานหรือไม่ครับ และกายหยาบอย่างมนุษย์ที่กายยังไม่แตกสลายจะมีโอกาสได้สัมผัสสภาวะนิพพานได้ไหมครั


<< พระอาจารย์ : สุญญตา มันมีสุญญตาได้หลายๆ สุญญตา การเข้าถึงสุญญตา หมายถึงการเข้าถึงธรรมที่รู้ว่า สรรพสิ่งล้วนไร้สาระ ไม่มีค่าแก่การยึดมั่นถือมั่นอะไรทั้งสิ้นได้เลย

แต่ภาวะนี้ หากยังตีอวิชชาไม่ได้ ก็ยังไม่ได้ชื่อว่า เข้าถึงวิมุตติ

กายหยาบนี้มีโอกาสสัมผัสได้ซิ ไอ้น้อง

พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์เจ้า ที่เข้าถึงซึ่งความหลุดพ้น ต่างก็ยังมีชีวิตอยู่ชี้แนะสอนธรรมกันอยู่ได้นี่หว่า ไม่ได้กายแตกตายไปตามการบรรลุที่หลุดพ้นซักหน่อย

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง “นิพพาน มีกี่ทาง” ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง


>> ลูกศิษย์ : กราบนมัสการครับ ผมขอเรียนถามว่า ถ้าตัวรู้นี่ วาง แล้วเขาเรียกว่านิพพานหรือไม่ สาธุ ครับ

<< พระอาจารย์ : Suppachai Chay ถ้าตัวรู้นี้วาง ยังไม่เรียกว่านิพพาน เรียกว่า ผู้กำลังเจริญเข้าสู่ทางแห่งนิพพาน

หากว่ากันตามนัยยะแห่งคำถาม ก็หมายถึงวางรู้ การวางรู้เป็นอัตตาอย่างหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่า รู้นี้ ไม่มีใครวาง การที่ยังไม่รู้ว่า รู้นี้ไม่มีใครวาง มันยังเหลืออีก 1 ภพจิต เรียกว่านิพพานไม่ได้

และนิพพาน ไม่ได้หมายถึงการแตกสลายของกาย นิพพานในที่นี้หมายถึง ดับสนิทโดยสิ้นเชื้อ เพราะเห็นความเป็นจริง ที่เป็น ธรรมดา..

ธรรมในบทนี้ เป็นธรรมขั้นปัญญา เราคงยากที่จะเข้าใจ แม้ภาษาจะแสนง่าย

มันเป็นของขมสำหรับเด็ก แต่เป็นยาชั้นเลิศในการรักษาพิษร้ายที่แผ่ซ่านฝังลึก

ค่อยๆ แทะค่อยๆเล็ม เอากันพอทนขม ซักวันมันคงพอทุเลาไข้ให้พอมีเรี่ยวแรงได้ ค่อยๆ ชิม..

พระธรรมเทศนา เรื่อง ธรรมแห่งความหลุดพ้น…ธาตุที่ 5 ท่อนที่ 7 ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง