โดนกระชากใจ…

โดนกระชากใจ…

1560
0
แบ่งปัน

…หวัดดีทุกคน ตอนนี้ เรื่องพระหินแกะ กำลังมาแรง มันกระตุ้นต่อมใจข้า เพราะข้ามันชอบหิน

โดนกระชากใจ...วันนี้ ข้าจะคุยให้ฟังถึงเรื่อง ของขลัง ของดี ที่เรายึด มันจะเป็นอย่าไร เมื่อมันโดนทำลายในตรงหน้า

เมื่อสองสามวันมานี้ มีพระมาจากลำพูน พระท่านก็ชอบวัตถุ สิ่งของ ศักดิ์สิทธิ์ กายสิทธิ์ อะไรอย่างนี้

เขามีวัตถุเป็นหินแปลกๆ มากมาย กระเป๋าเขาเป็นกระเป๋า โดเรม่อน ดึงวัตถุแปลกๆ ออกมาได้เยอะแยะ

เขาเอาของที่เขาพกพา และเป็นของสำคัญ มาอวดข้า ไอ้ข้าก็ชอบหินอยู่แล้ว
++ ข้าถามว่า ของเหล่านี้ ขลังไหม ทดสอบได้ไหม

— เขาก็บอกว่า มันก็แล้วแต่คนใช้ แต่เขานั้นชอบ และสะสมไว้มาก

++ ข้าถามว่า ของขลังๆ มีพลังอย่างนี้ เอาไปลอดราวผ้า จะเสื่อมไหม

— เขาบอก เขาไม่ถือ เขาแค่ชอบพก ชอบเสาะแสวงหา ……เออๆๆ เข้าท่า ข้ายิ้ม

++ ข้าถามว่า ไม่ยึดเหรอ

— เขาบอกว่าไม่ มันเป็นแค่วัตถุ ชิ้นหนึ่ง ที่เราได้ครอบครองชั่วคราวเท่านั้น วันหนึ่ง ก็ต้องจาก ต้องสลายไป

….เอ๊ะ พูดเป็นธรรม เป็นคนวางอะไรต่ออะไรได้นี่

++ ข้าถามว่า หากโดนทำลาย โดนกระชาก โดนขโมย ไม่เสียดายเหรอ

— เขาบอกว่า ไม่หรอก เขาทำใจยอมรับได้ หากต้องจาก ต้องทำลาย เขาก็ไม่รู้สึกอะไร มันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ที่ต้องจาก ท่านทำใจได้

พอพระเขาพูดจบ ข้าจึงเขวี้ยงข้ามหน้าท่านมหา หน้าเณร ลอยละลิ่ว จากศาลาหอฉันท์ ลงไปกลิ้งขลุกๆ หายเข้าไปในกอหญ้า กอไม้เบื้องล่างโน่น ทุกคนเงียบ……กริบ

ไม่มีใครกระดุกกระดิก ต่างตลึงพรึงเพริด ที่อยู่ๆ ข้าก็เขวี้ยงทิ้งลอยละลิ่วออกไป หน้าตาเฉย แล้วในความเงียบที่น่าตกใจนั้น ข้าก็เปรยขึ้นว่า…

โน่น..ไม่หวงไม่รู้สึกอะไรใช่ไม๊ หากเสียดาย ก็ไปคุ้ยๆ แหวกหา ที่กอไม้ข้างล่างโน่นละกัน

ไอ้หนุ่มที่มาด้วย นั่งยิ้มค้าง กรอกตาไปมา หน้างี้ซีด เอาแล้ว…..ไม่เคยรู้จักกัน จู่ๆ เอาของดีของเขาขว้างทิ้ง

ส่วนพระท่าน หน้าถอดสี ตาค้าง แต่พยายาม เก็บอาการ นั่งทำหน้านิ่งๆ แต่ท่านไม่รู้หรอก ว่าใจท่านรัว และมาขึ้นอาการที่ใจข้านี่ พระท่าน..คงนึกไม่ถึง

ข้ามองหน้าแล้วถามไปว่า หวงมั๊ย ของพวกนี้ ถ้าหวงก็ไปหาเอาเองข้างล่างโน่น พระท่านปรับสีหน้า ชีวิตเกิดมา คงไม่เคยเจอพระรั่วๆ อย่างข้า

ของแสนหวง เก็บไว้อย่างดี อุตสาห์เอามาโชว์ จู่ๆ ดันเอาไปเขวี้ยงทิ้งซะนี่ เป็นพวกเรา เราจะลุกเตะข้าไหม แต่ข้าไม่สนใจ ยังคุยเรื่อยเปื่อย เรื่องนั้นเรื่องนี้ อย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พระท่าน ก็ปรับสีหน้าลงมา พอกล้อมแกล้มลงได้ ข้าอยากดูอย่างอื่นอีก ว่ายังมีอะไรที่น่าสนใจอีกไหม พระท่าน อุบไว้แน่น ไม่เอาออกมาโชว์ข้าอีก

สงสัยเกรงข้า เขวี้ยงทิ้งแม่งอีก ขอให้เอาออกมาเหอะ จะเขวี้ยงทิ้งต่อหน้าให้ดู จะดูซิ ภายในใจ เขาจะคิดจะทำยังไง ส่วนเจ้าหนุ่มอีกคน นั่งแทบไม่ติด วางหน้าไม่ค่อยสนิท

แต่พระที่นั่งคุยกะข้า เขาเก็บอาการได้ดี มีแต่ผิวหน้า ที่ถอดสี ตกใจอยู่ในที ที่จู่ๆ ข้าเอาของรักของหวงเขา เขวี้ยงทิ้งไป

เจอลูกนี้เข้าไป คงต้องนั่งขบกรามแน่น โวยวาย ข้าก็ไม่ให้ใครไปส่ง ว่ายน้ำไปซิ 3 กิโล ขามา ก็นั่งเกร็งเกาะกาบเรือแน่น จนเยี่ยวเล็ดอยู่แล้ว

ข้าชวนโม้ กลบกลื่อนอยู่ซักครึ่งชั่วโมง จนพวกเขา วางใจและลืมไป ว่าข้าได้ทิ้งอะไรของเขาแล้ว พอใจเขาวาง และทำใจแล้ว ว่าต้องเสียของไปอย่างแน่นอน คงไม่กล้า ลงไปค้นหา ให้เสียเชิง

ข้าก็เอื้อมมือ คืนของเขาไป ของรักแสนหวง ที่เขาเห็น ลอยละลิ่ว หายไปต่อหน้าต่อตา มันกลับมาอยู่ในมือข้า และข้า ก็คืนของให้ โดยไม่พูดถึงเรื่องที่เขวี้ยง และเรื่องที่ของกลับมาคืน

เขารับกลับไป อย่างงงๆ แต่ก็เก็บไว้อย่างดี เมื่อสำรวจดีแล้วว่า เป็นชิ้นเดิม ก็เลยไม่คืนให้ข้ามาดูอีก

นี่…เป็นการทดสอบ กำลังใจ พระหนุ่มนี้ เขาผ่านนะ แม้จะหวั่นไหวในใจ ข้าจึงได้อบรมธรรมเขาไปบางเรื่อง

และเขาก็ฟังและตั้งสมาธิพิจารณาตามธรรม นี่…เขาโดนกระทำ และโดนย่ำยี แทบตั้งตัวไม่ทัน

ถ้าเป็นเรา เราจะทำอย่างไร หากใจเรา ต้องเผชิญ เหตุการณ์อย่างเขา ไหนๆๆๆ ลองสาธยายมาซิ

 

คืนนี้ โอเคนะ แค่เล่าสู่กันฟัง

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง