หวัดดียามเช้า กับเช้านี้ ยามเช้าๆ เราตื่นขึ้นมา ลองนั่งสบายๆ มุมใดมุมหนึ่งซิ เมื่อขจัดถึงความง่วง มองไปไกลๆ ผ่อนลมหายใจออกก่อน ผ่อนออกไปให้หมด แล้วดึง ลมหายใจเข้าช้าๆ ดึงเข้ามาให้เต็ม อย่าให้แน่นนัก แล้วค่อยๆ ผ่อนออกทำความรู้สึกตัวกับลมหายใจออก หลับตาพริ๊ม ยิ้มเล็กน้อยสบายๆๆ ยิ้มเล็กน้อยนะ
อย่าหัวเราะก๊ากๆๆ เดี๋ยวจะหนุกหนานไปอีกนึกถึงบุญกุศลไปด้วยก็ได้ ด้วยความภูมิใจ ผ่อนลมหายใจเข้าออก ทำความรู้สึกตัวอยู่เช่นนั้น สบายๆๆ เราจะรู้สึกตัวได้ว่า ทั้งใจ และกายจะผ่อนคลายลงมามากๆเอาซัก 10 นาทีก็พอ หรือ ทำความรู้สึก นับ 1 หายใจเข้า นับ 1 หายใจออก นับไปให้ถึง 10 หากลืม หรือจำเลขไม่ได้ กลับมานับ 1 ใหม่หากทำใด้ ซัก 3 รอบ ชาตินี้ เป็นคนมีหวัง ที่จะเป็นพระโสดาบันกับเขาไ
เมื่อหายใจสบายๆ ครบกำหนดที่เราตั้งสัจจะเอา
แล้วเราตั้งสัจจะกับตัวเองเอ
วันหนึ่งๆ ขอให้ทำกันเพียงแค่นี้ ก็พอ สำหรับพวกเรา ขอให้มีความดีแทรกลงไป ในห้วงเวลาของแต่ละวันบ้าง ความภูมิใจเล็กน้อยๆ นี้ วันหนึ่งจะส่งผลให้แก่ใจเรา
มหาศาล หากทำได้ทุกวัน จนตายจากโลกนี้ไป วันใดที่ตาย วิญญาณ ไปสู่สุคติแน่นอน
ทำเล็กน้อยเช่นนี้ ดีกว่าตื่นมาแล้ว ไม่ทำอะไรเลย ตื่นมาแล้วแสวงหาแต่อาหาร แสวงหาแต่เรื่องของกาย ไม่เคยนึกคิดแสวงหา เสบียงให้กับใจบ้าง วันข้างหน้า เมื่อกายแตก เราจะหาเสบียงจากไหน มาเป็นกำลัง พอให้เราได้เดินทางไปสู่จุด
วันๆ เรามัวหาแต่เสบียงให้แก่กาย
และรู้ตนเองว่า ใครทำผิดศีลกับเรา เราไม่ชอบ เราพึงเฝ้าระวังใจ ให้มีสติ ไม่ไปผิดศีลกับใครเช่นกัน บุรุษเช่นนี้ หากประคองใจ จนถึงวันกายแตก เขาจะมีความมั่นใจ ในสุคติที่ไป เราเรียกบุรุษเช่นนี้ ไม่ว่าชายหรือหญิงว่า ” พระโสดาบัน ”
เช้านี้ ขอให้มีความสุขทุกๆ ท่านครับ สวัสดี
พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง โม้กัน…ยามว่าง ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง