เมื่อคืนข้าโม้ถึงไหน เอ้า..ใครบอกที อ้อ….หลังจากที่ข้า ลุกขึ้นมานั่งกรรมฐานและพิจ
ตอนที่ข้าตื่นลืมตาขึ้นมา ไข่ข้าก็แข็งโป๊ก มันพร้อมลุกขึ้นชี้หน้าใครก
มันมีสัญญาการสร้างสมมุติใน
ที่สุดก็ตาย ไปเย๊ดกันต่อ ในรูปพลังงาน และทั้งอายุขัยแห่งพลังงาน ก็จะวนเวียนอยู่กับกาม โดยไม่ถอน เมื่อเจอผู้ที่มีสัญญาต่อกั
บางท่านก็ซูบผอม ไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมา มันอยากจะหลับ และเฝ้าแต่จะเอาจะเย๊ดกันอย
ในภวังค์ ไว้ใจไม่ได้ จิตมันไหลไปตามอาการปรุง มันมีพลังงานนอก แทรกเป็น ผัสสะเข้ามาร่วมปรุง ไอ้สันดานขี้เอา มันทำงานแน่ มันออกไปร่วมเย๊ดแน่ และมันจะอาบัติหนัก เพราะรู้แล้วยังปล่อยให้ไหล
คืนนั้น ข้าจึงนั่งกรรมฐานยันเช้า จิตที่มันมีกำลัง มันหดตัวละเอียดลึกเกินกว่า
ตอนเช้า ชาวบ้านก็เข้ามาหา พร้อมนำอาหารมาใส่บาตร ข้ากินนิดหน่อย แค่ไม่กี่คำ บอกชาวบ้านว่า หากกินมาก เดี๋ยวจะไม่มีกำลังภาวนา แต่เขาไม่เข้าใจ เขาคิดว่า สงสัยข้าโดนผีเล่นงานซะแล้ว
การกินข้าวเยอะๆ ซิ เขาเข้าใจว่า จึงจะมีกำลัง กินน้อยๆ มันจะไปมีกำลังได้ไง ข้าอธิบายว่า กำลังนี้ เรียกว่ากำลังทางจิต หากกินมาก จิตไม่มีกำลัง มันคอยจะเกียจคร้าน หากไม่กินเลย จิตจะเข้มแข็งว่องไว นี่…มันทวนกันอย่างนี้
ยิ่งที่นี่มีผีคอยจะเอาข้าเ
เรามันเป็นเหมือนผู้ดู และผู้รู้ เรารู้ว่า เราในภวังค์จิต มันมีอาการปรุงไปตามเรื่องร
หากเกิดว่า มันจบกิจ และน้ำแตกทะลักออกมา แล้วตื่นขึ้นมา เลอะสบง อย่างนี้ ไม่อาบัติ เพราะมันเป็นอาการปรุง ไปตามกระแสแห่งความฝันในภวั
เมื่อเจ้าของ ไม่ทำงาน ตามสมมุติ ทางรูปแห่งวิถีจิต เช่นชักว่าว หรือเย๊ดใครซักคนตามโปรแกรม
เพื่อผ่อนคลายและขับดันออกไ
สมัยข้ายังไม่บวช การฝันเช่นนี้ ไม่มีโอกาสแอ้มข้าหรอก เพราะมันผลิตเชื้อออกมาไม่ท
ในชีวิต มันจึงไม่เคยมีโอกาส มานอนฝันเปียกกับเขาเลย มันเย๊ดทุกวัน วันละหลายๆ เวลาก็มี มันจะเอาเชื้อที่ไหนไปผลิตใ
แต่เมื่อมาบวช ความละอายต่อบาป มันมีสูง ใจมันก็เลยไม่กล้า ไม่ใช่ว่าข้าจะหมดอารมณ์อยา
แต่หาก กำลังฝันว่ากำลังไล่เย๊ดใคร
แม้เป็นเรื่องของภวังค์จิต แค่คิดด้วยความกำหนัดยินดี ไม่ละออกมา หรือลุกขึ้นหนีเสีย เพื่อไม่ให้เกิดอย่างนี้ ต้องอาบัติหนัก เรียกว่า สังฆาฑิเสส รองลงมาจาก ปาราชิกทีเดียว
นี่..เหตุมันเกิดจากใจที่เจ
แต่หากลุกเสีย จะไม่เป็น และหากหลับต่อ ด้วยใจที่ไม่พึงต้องการ แต่ดันฝันต่อ และได้ไปเย๊ดเขาจนน้ำแตกกระ
วันนั้นข้าเดินจงกรมแทบทั้ง
แต่หากอยู่ในสมาธิ ที่เป็นอารมณ์เดียวเช่นนี้ อารมณ์ไม่เกิด ที่ไม่เกิด เพราะกระดอข้า มันไม่รู้อยู่ตรงไหน ใจมันหากระดอไม่เจอ มันมีแต่สติรู้อยู่เท่านั้น
เพราะสติมันตั้งมั่นอยู่ใน สมาธิจิต แต่แม้จะเป็นสมาธิจิต มันก็สามารถสร้างมโนจิต ถอดออกไปสมสู่ก็ได้อีกนั่นแ
แม่นางสาวน้อย นั่งเอียงอาย ก้มหน้า แอบเหลือกตามองเป็นระยะ ข้าไม่พิจารณาถึงรูปทรงนาง จึงวางเฉยในรูป ไม่ช้า จิตก็ไหลไปสู่อุเบกขา มีสติลอยเด่นขึ้นมา
รูปทั้งหลาย ไม่อาจแทรกตัวเข้าไป ในกำลังแห่งความละเอียดจิตเ
จึงถามเธอออกไปว่า มาจากไหน นางไม่ตอบ เอานิ้วจิกดิน หน้าแดงเอียงอาย ใครบอกว่าผีน่ากลัว แต่ผีนางนี้ นางฟ้าดีๆ นี่เอง นางสาวสวย หน้าอกทรวดทรงมันน่าใช้ทำกา
เมื่อนางไม่ตอบ ข้าก็แผ่เมตตาให้ คืนนั้น ข้าก็นั่งยันสว่างอีก การนั่งยันสว่าง เมื่อเวลาออกมาธุดงค์เช่นนี
อะไรกระทบแว๊บๆ มันก็ตื่นเข้าสู่วิถีจิตทัน
จิตมันตื่นของมันอยู่ตลอด เหตุเพราะแปลกถิ่น จิตมันไม่ไว้ใจในสถานที่ ที่มันไม่คุ้นเคย มันจึงตื่น และพร้อมรักษารูป ตลอดเวลา
เพราะหากจิตมันวางใจ ในสถานที่ ความหย่อนยานและเกียจคร้าน จะหลั่งไหลมาทับถมใจ ท่านที่รู้เท่าทัน ท่านจึงออกสู่ป่า ท่านไม่เข้ามา กลับสู่ในเมือง แม้จะบรรลุธรรมแล้ว
เพราะกระแสแห่งเมือง มันจะทำลายจิตท่าน ที่ได้สร้างสมมา เหตุเพราะว่า สังขารแห่งรูปขันธ์นี้ มันยังมีผัสสะและสัญญาของมั
รุ่งเช้า เมื่อข้าออกจากกรรมฐาน ขนหัวข้าลุกตั้ง เยือกสะท้านไปทั้งตัว นี่..ผีมันไม่ได้ดั่งใจ ข้ามัน อารยะขัดขืนผี
วันนั้น เมื่อข้า กินอาหารเสร็จ ข้าเกิดอาการง่วงอย่างมาก เดินจงกรมก็ไม่ได้ มันง่วงมากๆ
อาการเช่นนี้ ทำสมาธิไม่เป็นผล เพราะเป็นอาการแห่งนิวรณ์ เข้าครอบงำ ข้าล้างหน้า แล้วนั่งพัก พิงต้นตะแบก กะพักหลับในท่านั่ง พอนั่งปุ๊บ กำลังเคลิ้มๆ จะหลับ แม่นางคนสวย ปรากฏร่างยืนแก้ผ้า รอที่จะเย๊ดข้าตรงหน้า ห่างไม่ถึงศอก
นางหื่นมาก หายใจฟืดฟาด เอื้อมมือมากระชากแขนข้า เหมือนข้านี้ เป็นสาวน้อยแห่งนาง ที่จะทำอะไรก็ได้ ก่อนที่หน้าข้าจะกระแทกเข้า
ภาพนั้นหายไป ข้าก็นั่งอยู่ในท่าเดิม ไม่เห็นว่า มันจะโดนกระชากแขน ที่จะเอาตัวข้าไปแนบกับกายน
แม่นางคนสวยที่กายไร้ผ้า กระโจนพรึบเข้าใส่ ก่อนที่นางจะเอาหอยมาใส่หำข
ข้าสะบัดหน้าและทำท่าลุกขึ้
ข้าตกใจ และกระพริบตาถี่ๆ นี่..มันเคืองและกำลังจะเล่
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 22 เมษายน 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง