หนีนรก…กันไหม

หนีนรก…กันไหม

901
0
แบ่งปัน

หนีนรก...กันไหมตื่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เช้านี้ เรามาหนีนรกกันดีกว่าไหม เรื่องนรกนี้ เราว่ากันไปแล้ว 9 ขุม แต่ละขุม มันก็ช่างโสภาอร่ามตา น่าอยู่หลาย

พวกเรานี้ ไปนอนไปเที่ยวไปเล่นกันมาจนชำนาญ กันทุกๆ ขุม ฉะนั้น ไม่มีใครดีไปกว่าใครหรอก คนเลวชั่วช้าที่เราไปตัดสินเขา นั่นก็คือ ลูกหลานเผ่าพันธุ์ อันเป็นเชื้อมูลแห่งเรา ที่เคยทิ้งไว้

เดี๋ยวนี้ เรามาเป็นคนที่เพ่งโทษคน ด้วยเหตุแห่งเราดีกว่าเขา นี่…เราลืมกำพืดเราเอง เท่านั้น การหนีนรก ไม่กลับไปเยี่ยมเยือนตลอดกาล ทำได้ง่ายๆ ไม่ยาก

เพียงแต่ขอให้เราตั้งใจ ที่จะทำกันเท่านั้น อย่าไปสนใจว่า ที่ผ่านมา เรานี้ มีแต่เรื่องทำแต่เรื่อง เลวๆ เลวแล้วก็เลวๆ ไป ช่างหัวแม่มัน

ก็เรามันยังหลง ยังโง่อยู่นี่หว่า เริ่มใหม่วันนี้เลย เชื่อข้า เหี้ยยยยยแล้ว ก็ให้เหี้ยยยยมันผ่านไป ไม่ต้องไปแปลงกาย เป็นไอ้เหี้ยยอีก

อย่าไปคิดเชียวว่า เรานี้ คงหาดีไม่ได้ เพราะได้ทำเลวเอาไว้ อย่างมากมาย เมื่อมาเจอข้อความนี้ มาเลย เรามาแหกโทษแห่งวงล้อม ที่เรียกกันว่า การที่เราต้องไปรับโทษทัณฑ์กันในนรก ภายหลังจากกายแตกนั้น ง่ายนิดเดียว

แต่ต้องตั้งใจ และเอาจริงที่จะหนีมันนะ หากเลวทรามแล้วยังไม่คิดกลับใจ ไม่กลัวเกรงภัยอันใหญ่หลวงในนรก อันนี้ก็ต้องตามใจ

ซึ่ง…บอกยังไง ขึ้นชื่อว่าเหี้ยยยย มันก็เหี้ยยย อยู่วันยังค่ำ มันเปลี่ยนแปลงยาก แต่ก็จะบอกสำหรับพวกเหี้ยกลับใจ ที่จะแปลงกาย ไปเป็นหงส์ เพื่อบินขึ้นสูง ก่อนที่จะมุดลงรูตามสันดาน

เช้าขึ้นมา ลองมานั่งสงบๆ บนเตียงนอนเราซักหน่อยซิ แล้วหลับตาอยู่กับความคิดตัวเอง ว่า มันคิดอะไรของมัน ถ้ามันมีแต่เรื่องเลวๆ แสดงว่า ประตูนรก มันเปิดกว้างอยู่

ถ้ามันคิดแต่เรื่องอยากได้นั่น อยากได้นี่ โดยการเอาเปรียบผู้อื่น ประตูแห่งความเป็นเปรต เปิดอ้าอยู่ ถ้ามันคิดแต่เรื่อง เครียดแค้น เรื่องกังวล กลัวนั้นกลัวนี่ที่จะต้องเผชิญ ประตูแห่ง อสูรกาย มันเปิดรออ้าอยู่

ถ้าห่วงนั่น ห่วงนี่ ต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้ ยึดนั่นยึดนี้ ในเรื่องบุคคล สัตว์ สิ่งของ ประตูแห่งสัตว์ เปิดรอเราอยู่

นี่…เราตรวจสอบและพยากรณ์ วิสัยแห่งดวงจิตเราที่จะไปเสวยผลแห่งวิบากได้ หากไปทางอบาย มันจะมีวิสัยมาในแนวนี้

จะทำบุญมากแค่ไหน ก็ไม่พ้น ที่จะลงไปในร่องแห่งแนวนี้ บุญเป็นเสบียงแห่งวิบาก ไม่เกี่ยวกับการที่ทำบุญแล้ว เราจะไม่ลงอบาย มันคนละส่วนกัน

คนเราบางพวก บ้าทำบุญ กัน เพราะเชื่อว่า จะทำให้พ้นนรก และมีความเป็นอยู่ดี ในอัตภาพหน้า พวกทำบุญเพื่อชาติหน้า เป็นความคิดที่โง่หลายๆ

ชาติหน้า เป็นเรื่องของชาติหน้า ชาตินี้ไม่ไหว จึงจะเป็นเรื่องของชาติหน้า ไม่ใช่ทำเพื่อชาติหน้า หากนิ่งๆ แล้ว ไม่รู้สึกถึงอะไร อย่างนี้ มีแววที่จะไปเป็นสัตว์ต่างๆ สูง

เพราะทางไปแห่งสัตว์ มันกว้างกว่าทางใด หากมีแต่ความภูมิใจ ที่ได้กระทำบุญ ทำกุศล ระลึกถึงสถานที่ทางศาสนา หรือการกระทำ ที่เป็นมงคล หรือการได้ร่วมกระทำแห่งกุศล

อย่างนี้ มีแววมาทางสว่าง แต่อย่าเพิ่งไว้ใจ เพราะนี่เป็นการ เช็คจิตวิสัย ถ้าสงบ มีสติตั้งมั่น ภูมิใจ ในกุศลที่ได้เกิดมา และได้กระทำอันเป็นกุศลวิสัย อย่างนี้ ได้มีโอกาสอยู่ทางฟาก พรหมเทวา

แต่เราอย่าเพิ่ง มั่นใจ นี่เป็นการเช็คจิตเรา ว่ามันมีแนวมาทางไหน ทำหลายๆ ครั้ง หลายๆ วัน เราก็จะรู้ทิศทางแห่งจิตเราเอง

แต่ถึงแม้จะออกมาทางดี ก็อย่าเพิ่งมั่นใจ เพราะนั่น เป็นเหตุปัจจัยในแต่ละวัน ที่กุศลหรืออกุศลมันส่งผลมา ทีนี้ เมื่อทราบเหตุแห่งจิตคร่าวๆ เราก็ต้องหาทางเตรียมแก้ หากใจมันมาทางแย่ หรือหาทางประคองความดีนั้น ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป

เรา..เป็นผู้ที่ต้องดำเนินไปด้วยตัวเราเอง ใครอื่น ช่วยเราไม่ได้ หากมาทางแย่ ให้แก้โดยการ ทำบุญกุศล ทำเท่าที่กำลังเราจะอำนวย

ทำบ่อยๆ แล้วเช็คจิตเราดู ว่ามันยังแย่อยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า หากยังแย่ ต้องหากุศโลบายที่เกิดการสละให้มันยิ่งใหญ่ขึ้น และหาโอกาสฟังธรรม มากๆ ขึ้น

แต่ไม่ใช่ให้ไปยึดธรรม เดี๋ยวก็กลายเป็นผู้หลงธรรมบ้าธรรมเข้าไปอีก เรื่องทางธรรมนี้ มันเป็นกิเลส ติดแล้วแกะออกยาก มันถือดี ถือตัวเป็นมานะจัด พวกพ่อคนดีทั้งหลาย

หากจิตวิสัย มาทางภูมิใจในกุศล บ้างแล้ว ให้หมั่นรักษาไว้ และทำบุญตามกาล เมื่อเวลาเผชิญกับวิบากกรรมอันใด ที่ไม่ได้ดังใจ พยายามแก้ไปให้ได้ ตามปัญญาวิสัย หากแก้แล้ว สุดแล้ว แก้ไม่ได้ พึงยอมรับมันด้วยความเต็มใจ

เพราะยังไง คิดเสียว่า มันก็ต้องเกิด อย่าไปโทษความเลวในอดีต ที่ผ่านไปแล้ว ทำวันนี้ให้ดี เอาจริงกับมันเสียที และพึงระลึกไว้ด้วยสติที่ตั้งมั่นให้ได้ว่า

หากเขา มาทำร้ายเรา มาขโมยของๆ เรา มาโกหกเรา มาเป็นชู้กับคนของเรา เราชอบไหม ??

หากเราไม่ชอบ พึงระลึกไว้เลยว่า..คนอื่นเขาก็ไม่ชอบเหมือนกัน

พึงระลึกไว้เช่นนี้ ด้วยสติ ระแหวดระวังใจเพียงแค่นี้ ใจจะเกิดความสำรวมขึ้นมาเอง ทำให้มันชิน เป็นปกติวิสัย จนกายถึงวันแตกตาย

เฝ้าระวังใจไว้ด้วยสติแค่นี้ และทำบุญกุศล อยู่เนืองๆ คิดไว้ว่า เป็นการไถ่โทษที่ได้ทำเหี้ยยยๆ ไว้แต่ก่อนเก่าด้วย

บุคคลเช่นนี้…ตายเมื่อไหร่ หนีนรกได้ชัวร์ ถ้าไม่ชั่วชนิด ฆ่าพ่อฆ่าแม่นะ หากมีปัญญามากขึ้น พิจารณาเห็นความจริงได้มากขึ้น ถอดถอนความงมงายต่างๆ ที่โลกเขานิยมกันได้ ด้วยปัญญาที่พิจารณาเห็นชัด

ไม่สงสัยในความดีที่ตนเองได้กระทำ มีความภูมิใจในการดำเนินตามแนวทางนี้ และรู้ดีว่า เราต้องตายแน่ๆ แต่ตายแล้ว มันไปสว่างชัวร์ ไม่ได้หวาดหวั่นต่อความตาย บุรุษเช่นนี้ เป็นผู้มีใจตกอยู่ในกระแสธาร ที่ท่านเรียกว่า พระโสดาบัน..!!

เช้านี้ ขอความสุขสวัสดีพึงมีกับทุกๆ คน หวัดดี..!!

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 29 มีนาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง