นรกขุมที่ 7 มหาตาปนะนรก

นรกขุมที่ 7 มหาตาปนะนรก

643
0
แบ่งปัน

ก๊อกๆๆๆๆๆๆ ฮะฮ่า มากันแล้ว จ๋อๆๆๆ มาๆๆๆ วันนี้ โม้เรื่องมหานรก ขุมที่ 7 กันดีไม๊ ขุมนี้ มันมีชื่อเรียกว่า อะไรน้า.. โปรแกรมยังไม่โหลดเลยวุ๊ย ไม่ได้โม้เรื่องนี้เป็นเดือนๆแล้ว…เออ ๆๆๆ นึกออกแล้ว

ขุมนี้ เรียก ตามบาลีว่า มหาตาปนะนรก คำว่าตาปนะ นี้ หมายถึง ความร้อนแรง คล้ายๆ ตะโป ธานที ที่เราเรียกกันว่า กระโปกกันน่ะ จำได้ไหม

คราวนี้ เมื่อมาเป็นมหา ก็หมายความว่า มันยิ่งร้อนแรงหนักมหาศาลเข้าไปอีก นรกขุมนี้ ท่านกล่าวว่า เป็นนรกที่อยู่ลึกลงไปจาก มหานรกขุมที่ 6

คือ มหานรก ตาปนะ ที่ร้อนแรง น้อยกว่า แต่ใช้ชื่อ ตาปนะเหมือนกัน แต่ขุมนี้ เขาเป็นมหา ลักษณะนรกขุมนี้ มันกว้างใหญ่ สุดลูกหูลูกตา

หากใครได้มีโอกาสไปพักร้อน จะเห็นว่า เหล่าสัตว์นรก จะกรีดร้องอย่างโหยหวล ท่ามกลางหลุมเพลิงที่ปิดล้อมด้วยกำแพงเหล็ก ขนาดภูเขา ทั้งสี่ด้าน

และกำแพงยักษ์นี้ ไม่ใช่จะมีแค่สี่ด้าน แต่มันมีเป็นระยะๆ ดูเป็นหลุมเพลิงที่ส่องแสง สว่างจ้าอยู่ตลอดเวลา เหล่าสัตว์นรก จะวิ่งหนีนายนิรบาล ที่ไล่ทุบ ไล่ฟันด้วยอาวุธนาๆ ประการ

แถมยังมีหมานรกที่ตัวใหญ่ เขี้ยวคมวาว คอยไล่กัดและฉีกกินเนื้ออีก มันแสนเจ็บปวดและ ทรมาน จนไม่รู้ว่าจะดิ้นหนีไปทางไหน

เพราะทั้ง สี่ด้าน มันเต็มไปด้วย กำแพงเหล็กขนาดยักษ์ ที่ร้อนแดด คอยแผดเผา ให้เนื้อหนังและกระดูก จากความร้อนแรงนี้ แดงฉานจนเป็นลูกไฟสีแดง พอๆ กับสีเปลวเพลิง

เหล่าพวกสัตว์นรก ที่เหลือแต่กระดูกอันแดงฉาน ที่ไหลย้อยลงมาจากปลายเหลาเหล็ก ที่ผุดอยู่เต็มพื้นไปหมด เมื่อวิบากก่อตัวให้เป็นรูป พวกสัตว์นรกก็กระโจนเข้าใส่ทันที

มันจะรุมทึ้งและสะบัดกระชากเนื้อ กระจายไปมา เหล่านายนิรบาลที่หน้าตาน่ากลัว ก็พากันไล่ทุบตี ไล่ฟันด้วยมีดและฆ้อนเหล็ก

เสียงดังโบล๊วะ หัวงี้ แทบหายไปจากคอ แต่สัตว์นรกพวกนี้ ไม่ตาย ต่างก็วิ่งหนี ถอยร่นไปสูงขึ้นไปทางเนินภูเขา อันกว้างใหญ่ ที่ร้อนแรง

พอหนีขึ้นไปสูงๆ ก็เกิดลมอันเป็นกรด พัดมาจากกำแพงเหล็กทั้งสี่ ความร้อนแรงจากลมกรด มันกัดกินและแผดเผา เหล่าสัตว์นรก จนทนไม่ได้

เนื้อหนังมันสุกและหลุดหลุ่ย เจ็บปวดอย่างแสนทรมานเกินบรรยายออกมา ความร้อนของนรกขุมนี้ เป็นความร้อนแรงที่ไม่มีเปลวควันอะไร

มันเป็นแบบแสงสว่างจ้า วาบขึ้นมา แล้วเกิดลมพัดมาเอาความร้อนที่เป็นกรด อย่างแรงกล้านั้น พุ่งเข้าใส่เหล่าสัตว์นรก

เหล่าสัตว์นรกที่หนีขึ้นไปบนภูเขา ก็โดนลมกระแสร้อนที่เป็นกรด พัดกระหน่ำเข้าใส่ ต่างดิ้นและร้องอย่างทุรนทุราย บ้างก็กระโจนหนีความร้อนลงมา ยังพื้นเบื้องล่าง ซึ่งเป็นเหลาเหล็กแหลมคม โด่งพุ่งขึ้นมารับ

เสียงเหลาเหล็ก เสียบเข้าไปดัง ซวบ… สัตว์นรกดิ้นกระเเด่วๆๆๆ อยู่บนปลายแหลม พวกที่ไม่กระโดดหนี ก็ต้องโดนแรง ลมกรด กระชากเนื้อ แสนจะแสบและร้อนแทบขาดใจ

และลมกรดก็กระหน่ำแรงขึ้นๆๆ จนในที่สุด ก็หอบ เอาสัตว์นรก หล่นลงมา ในหลุมช่องระหว่าง กำแพงเหล็กอันแดงฉาน ทั้ง สี่ด้านนั้นอีก

ร่างที่ลอยละลิ่วลงมา โดนเหลาเหล็กผุดขึ้นมาจากพื้น พุ่งขึ้นไปทิ่ม บางปลายเหลา มีสัตว์นรก เรียงซ้อนดิ้นอย่างทุรนทุราย ตั้ง เป็นสิบๆ ร่าง

ความร้อนจากกำแพงยักษ์ ที่แดงลุกโชนด้วยไฟนรก มันก็แผดเผาย่างสัตว์นรกเหล่านั้น เหมือนเราเสียบหอย ปิ้งเข้าไปในเตาถ่านแดงๆ

เนื้อหนังมังสาของเหล่าสัตว์นรกบนปลายเหลา จะแห้งหดเกรียม มันร้อนและทุรนทุรายอย่างแสนจะสุดๆ แต่มันไม่ตาย

แถมยังมีอีกาปากเหล็กอันคมกริบ ดันมารุมทึ้งจิกกินอีก จนเนื้อนี้แยกชิ้นส่วนหายไป ที่สุดก็จะเหลือแต่กระดูก อันแดงฉานด้วยเปลวร้อน ไหลย้อยครูดลงมาสู่พื้นล่าง

วิบากก็ก่อร่างให้มีเลือดเนื้อ ขึ้นไปรับกรรม จากหมานรกและการทุบตีไล่ฟันจากเหล่า นายนิรบาล ต่อเนื่องไปอีก ไม่มีการหยุด พักช่วง

เหล่าสัตวนรก จะวนเวียนรับวิบากกรรมอยู่เช่นนี้ กินเวลา ครึ่ง กัปป์ เป็นเวลาครึ่งกัปป์ ที่ต้องวนเวียน หล่นจากภูเขาลูกนี้ ไปอยู่ในหลุมเพลิงของเขาอีกลูก

และยิ่งหนีเข้าไปสู่ภูเขาที่อยู่ลึกๆ เข้าไป มันก็ยิ่งร้อนแรงหนักหน่วงยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ คำว่าครึ่งกัปป์นี้ เข้าใจว่า เป็นคำย่อของ อัตรกัป ก็กินเวลา หากเอา เลข 1 ตั้ง ก็ให้เอา เลขศูนย์ตามอีก 70 ลูก

นี่คือ จำนวนปีของ อายุของสัตว์นรก ที่จะต้องโดนจองจำอยู่ที่นี่ แล้ว มันเป็น อัตรกัปป์ของนรก ไม่ใช่อัตรกัปป์ของโลกมนุษย์

หากอยากรู้ว่า หนึ่งวันของนรกขุมนี้ เมื่อเทียบกับโลกมนุษย์เท่าไหร่ ก็ให้เอา 9,216 ล้านปี ของตาปนะมหานรก คูณด้วย 4 เราก็จะได้จำนวน ปี ของโลกมนุษย์ ที่เท่ากับ 1 วัน ของ อายุ มหานรกขุมนี้ ที่เหล่าสัตว์นรกต้องเสวยผล

ได้เท่าไหร่ แล้วเราจึงจะเอาไปคูณ จำนวนอีก ครึ่งอัตรกัป นั่นแหละ คือจำนวนปีของอายุสัตว์นรกขุมนี้ วิธี ไปอยู่มหานรกขุมนี้

ก็คือ เราทำกรรมทุกตัวอย่างซ๊ำๆ ในข้อศีลตั้งแต่ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การโกหก การเป็นชู้ การดื่มสุรา การเล่นการพนัน เที่ยวกลางคืน

เป็นนักเลงอบายมุขทุกตัว คือไล่ดะมาในข้อศีลทุกข้อ จนใจมันชำนาญ นี่..พวกนี้ ได้ไปเยือนนรกขุมนี้ การเบียดเบียน เงินสงฆ์ เพื่อนำไปบำเรอความสุขส่วนตัว นี่ ไปแน่ๆ พวกนักบวช ไปกันเยอะขุมนี้

การเอาของแผ่นดิน ของสาธารณะ มาปรนเปรอตนเอง ครอบครัวและพวกพ้อง โดยการโกงทรัพย์สินแผ่นดิน หรือสิ่งที่เป็นของส่วนรวม พวกนี้ ต่างไปขุมนี้กันหมด

พวกทำกรรมในทุกข้อศีล โดยเบียดเบียนผู้คน มาบำเรอตนเอง เพื่อความสุขที่หลงเพลิน พวกนี้ ไปนอนพักกันที่นี่หมด

คืออะไร ที่เป็นของส่วนรวม ของสาธารณะ ของแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือวัตถุ แม้ว่าไม่มีเจ้าของเป็นปัจเจกบุคคล

แต่วิบากแห่งการนำของแผ่นดิน มาปรนเปรอตน วิบากส่งผลให้พุ่งมาสู่ขุมนี้ ฉะนั้น เราก็เชิญตีตั๋วโดยการผิดศีลทุกข้อ ที่เกี่ยวเนื่องกับของส่วนรวม รับรองพยายามทำบ่อยๆ จนเป็นเรื่องธรรมดา โอกาสได้ไปเฮฮาในมหานรกขุมนี้ มีสูง

ที่จริงมันก็มีวิธีและทางไปอย่างหลากหลาย แต่ขอพอแค่นี้ก่อน นี่โม้มาเป็นชั่วโมงแล้ว ยังไงก็ค่อยหาช่องทางไปกันก็แล้วกัน สำหรับคืนนี้ ก็ขอ สวัสดี

ขุมนี้ ใครไปมั่ง การด่าสงฆ์ ที่เป็นอริยบุคคล เพื่อความเพลินและสะใจ และขยายผลออกไป ก็มาขุมนี้ได้ง่ายๆ เช่นกัน

พวกด่าในหลวง หรือบุคคลที่เป็นสาธารณะ เป็นที่พึ่งทางใจของส่วนรวม โดยที่เราไม่ได้รู้มูลความเป็นจริง หลุมนี้ ก็โอเคนะจ๊ะ

ทางที่ดี ระวังปาก ระวังกาย ระวังใน อย่าไปเพลินกับการให้ร้ายใคร ที่ดูแล้วว่าเขามีความสำคัญ เป็นที่ตั้งของส่วนรวม ระวังใจไว้เลยเชียว

นรกขุมนี้ ชอบพวกเพลินกับ กับอารมณ์ ที่เป็นของส่วนรวม พวกประท้วง พวกแยกฝ่าย พวกทำลาย มักมาชุมนุมกันที่นี่ อยู่กันนานไม่ต้องนับปีกันเลยทีเดียว หวัดดีนะจ๊ะ

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 18 มีนาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลั