อยากเป็นพระยายม

อยากเป็นพระยายม

841
0
แบ่งปัน

เมื่อกี้ได้โม้ลงในเฟส ช่วงเที่ยง มีจารย์ช้างแกมักหนุกหนานไปทั่ว ตามประสาคนรั่วๆ เมื่อคุยไปก็ได้พูดถึงเรื่องที่แก อยากเป็น ยมบาล พอดี เคยนั่งฝันได้โม้กับยมบาล จึงเอามาโม้ให้ฟังกัน แก้เลี่ยนยามเที่ยง ฟังกันเอาหนุก..!!

จารย์ช้าง ปล่อยแกไป แกเป็นคนขี้กลัว พกของขลัง อาวุธเพียบ ไว้ขู่ใครไม่รู้ จารย์ช้าง กลัวจมน้ำ ไม่กล้าว่ายน้ำกลับ สงสัย..ของขลังช่วยไม่ได้ ฮ่าๆๆ

ของขลังเอาไว้ขู่น้ำลึกๆ ร้อยกว่าเมตร ไม่ได้ พกมาทำไมให้หนักคอ พกแล้วเดินบนน้ำไม่ได้ อาจารย์ช้างแกไม่รู้อยู่อย่างหนึ่ง

จารย์ช้างมาที่เกาะ แกบอกว่า แกคงไม่ได้มรรคผล กับการที่ได้บวชมานี้ เพราะแกไปสร้างกลไกแห่งจิตว่า เพราะแก พ่อแม่ ถึงได้เสียใจตาย

แกบอกว่า…แกตายเมื่อไหร่ แกจะไปนรก ไม่ไปสวรรค์ หรือนิพพาน จารย์ช้าง คงเข้าใจผิด อะไรบางอย่าง ผมจะโม้อะไรให้ฟัง เชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ พอดีว่างอยู่ 1 ชั่วโมง

จารย์ช้างบอกว่า เมื่อแกตาย แกจะไปเป็น ยมบาล ผู้ที่จะไปเกิดเป็น พระยายมราช เป็นผู้ที่มีกุศลธรรมแห่งกรรมบท ครบถ้วนแห่งจิต

พระยายมราชนั้น แทบทุกองค์ เป็นผู้สำเร็จ มรรคผล ในขั้น พระอนาคามี เมื่อจบกิจจากการเป็น พระยายมราช ท่านก็จะไม่กลับมาเกิด เป็นรูปอะไรอีก ในสามโลก

พระยายมราช ท่านเป็นเทวดา ไม่ใช่ผู้ที่มีชาติกำเนิดเกิดจากนรก ท่านเป็นผู้ช่วยเหลือเหล่าสัตว์นรก ไม่ใช่เป็นผู้ตัดสิน ว่าใครถูกใครผิด

ถูกผิดเป็นเรื่องของวิบากกรรม ที่แต่ละท่าน สร้างกันมาเอง การที่จะได้ไปเกิดทำหน้าที่ พระยายมราช อดีตภูมิ ต้องเคยเป็น เทวดาประเภทอินทกะมาก่อน

เทวดาเหล่านี้ เป็นผู้มีวิบาก คัดสรร จากเทวดาทั้งหลาย ที่มีกุศลพร้อมมูล ในการที่จะมากำเนิดเป็นพระยายมราช มีจำนวนทั้งสิ้น 1,000 ท่าน

เหมือนกับท้าวมหาราช ทั้งสี่ แต่ละท่าน ต่างก็เป็น อินทกะมาก่อนทั้งนั้น ในแต่ละท่าน วิบากคัดสรรมาจาก อินทกะ 1 ใน 1,000 ของแต่ละทิศ แต่ละกลุ่ม ตามธาตุกรรมจำแนก ให้มาเป็น

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกาลด้วย อย่างท่านท้าว เวสสุวรรณ ท่านเป็นอินทกะ มาก่อน ในสมัยที่ท่านท้าว ชมภู เป็นท้าวมหาราช

เมื่อ พระเจ้าพิมพิสาร เสด็จสวรรคตลง วันที่ท่านเสียชีวิต จิตได้เข้าถึงภูมิ อนาคามี แต่วิบากจิต ผลักดันให้มาเกิดกำเนิด เป็นท้าว มหาราช เป็นท้าว เวสสุวรรณ แทนท้าวชมภู ที่นิพพานไป

พระยายมราช ก็เช่นกัน ท่าน มีภูมิจิต ที่เป็นอนาคามี ท่านมากำเนิดทำหน้าที่ เพื่อช่วย สัตว์ที่จะตกนรกภูมิ โดยการ พยายามทักท้วง เหล่าสัตว์ ให้ระลึกถึงบุญ ถึงกุศล

แต่วิบาก กระทำให้ระลึกไม่ได้ ก็ต้องปล่อยไปตาม วิบากกรรม ท่านมีหน้าที่ดูแล เท่านี้ จนจบอัตภาพ ท่านเคยบอกว่า การที่จะเป็นพระยายมราชได้

จะต้องมีจิตใจที่เปี่ยมล้น ไปด้วย บารมีทั้ง สิบทัศน์เต็ม รู้ธรรมชาติ ตรงตามความเป็นจริง ว่า มันเป็นของมันเช่นนั้นเอง

อย่าเป็นคนเข้าไปเสือก กับเรื่องของใคร ถอดถอนตัวตนและความคิด แห่งตัวกู เข้าถึงภูมิจิตแห่ง สมาธิ มีกำลังสูงในการข่มโปรแกรมจิต ไม่ให้ไหลไปตามนิวรณ์ ทั้งหลาย

และกระทำเช่นนี้ จนเป็นปกติ เป็นความเคยชินแห่งจิต เรียกว่า ศีล คนมีศีล ก็คือคนที่มีความเป็นปกติแห่งใจ ที่มันเคยชิน

ท่านเคยชิน ตั้งแต่ยังเป็นมนุษย์ กายเนื้อหรือรูป ไม่เกี่ยว กายเนื้อหรือรูป เป็นแค่เครื่องมือให้จิต อาศัยเป็นเครื่องอยู่ เท่านั้น

ถ้าจิตใจเลว ผลมันก็แสดงออกมาเลว ตายเมื่อไหร่ ก็ลงไปสู่นรก ถ้าจิตใจดี ได้รับการอบรมมาดี ตายเมื่อไหร่ ก็เข้าสู่ภูมิจิตที่ปรารถนา

ท่านเคยมาบอกว่าอย่างนี้ คือหมั่นทำบุญทำกุศล และมีการภาวนาจิต ตั้งอยู่ในความดีเป็นนิจ ที่สำคัญ ท่านแสวงหาธรรม แห่งการหลุดพ้น

เมื่อกายแตก ภูมิจิตจึงถึงขั้น อนาคามี ฉะนั้น หากจารย์ช้างอยากไปเป็น พระยายมราช ก็ต้องว่ากันไปตามนั้น เพราะท่านมาบอกเอง ไม่ใช่ว่า จะไปมั่วๆ เอา

พระยายมราช เป็นผู้ที่มีพรหมวิหาร สี่ บริบรูณ์ เต็มภูมิ ก่อนกายแตก นี่…ท่านว่ามาอย่างนี่ จึงเอามาโม้ให้ฟัง และพระยายมราช กับท่านท้าว เวสสุวรรณ เป็นคนละองค์กัน

ทำงานตามวิบากกัน คนละหน้าที่ ท้าวเวสสุวรรณ ท่านเป็นท้าวมหาราช ดูแลปกครองเหล่าเทวดา ที่เราเรียกว่ายักษ์

ส่วน พระยายมราช ท่านทำหน้าที่ เป็นพยานบุญบาป ให้แก่เหล่าสัตว์นรกทั้งหลาย เพื่อจำแนก ไปตามวิบากต่างๆ แห่งขุม ทั้ง 457 ขุม

ในแดนที่ท่านปกครองดูแลและตัดสิน มี 320 ขุม เรียกว่า ยมโลก ส่วน มหานรก 8 ขุม มหาโลกันต์นรก 1 ขุม และนรกบริวารอีก 128 ขุม

วิบากแห่งกรรมของเหล่าสัตว์ เป็นผู้ชักนำมา ท่านไปเป็นพยานให้ไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่ พอกายแตกโพล๊ะ ดวงจิต ก็จะโดนชักนำ ลอยโด่งข้ามยมโลก ทั้ง 320 ขุม ไปเลย

โดยเฉพาะ พวกที่เรียกตัวเองว่า พระ ที่อาศัยศรัทธา ของชาวบ้านที่มีศรัทธาต่อ พระพุทธชินสีห์ เลี้ยงชีพ พวกนี้ ลอยโด่งไปสู่ มหาอเวจีนรก เป็นที่พำนัก ก่อนอายุขัยแห่งวิญญาณหมด

อายุขัยแห่งวิญญาณหมด จึงโดนวิบากชักนำมา เพื่อระลึก กุศล ที่ยมโลกอีกครั้ง ถึงตรงนี้ ท่านได้บอกว่า ท่านจึงจะมาเป็นสักขีพยานบุญให้อีก

แต่หากระลึกไม่ได้ วิญญาณนั้น ก็ต้องโดนนำไป อยู่นรกขุมต่างๆ ใน 457 ขุม ตามผลแห่งวิบาก นี่..ท่านว่ามาเช่นนี้ วันนี้ มีโอกาสมาโม้ให้ฟัง ตอนเที่ยงๆ

ที่สำคัญ ท่านบอกว่า เหล่าอินทกะ ที่จะขึ้นมาแทนท่าน มีรออยู่พร้อมแล้ว กว่า 1,000 พระองค์ จารย์ช้างก็ใช้บารมี เข้าไปแทรกเอา ก็แล้วกัน สวัสดียามเที่ยง ต้องไปทำงานแล้ว…!!

ลืมบอกไป ท่านพระยายมราช ท่านบอกว่า พวกถากหัวห่มฝาดห่มเหลือง 99% มักลอยโด่งข้าม ยมโลกของท่านไป ไม่มีโอกาสให้ท่าน มาเป็นพยานบุญให้เลย

นี่..ท่านว่ามาอย่างนี้ พวกที่ได้ ชีวจิต แห่งมโนยิทธิ มีโอกาส พบท่าน ก็ลองสอบถามดู แล้วจะยืนยันได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมาสงสัย หรือนึกทึกทักเอา

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง