**** "ผิดไม่ผิดกูขอด่าไว้ก่อน" ****
คนเรานั้น คาดไม่ถึงกันเสมอว่า
ความคิดกับความเป็นจริง มันคนละอย่างกัน
นักเลงคีย์บอร์ด มองจากจอที่เขาว่าๆกันมา
แล้วตนก็เอาสิ่งนั้นตัดสินเรื่องราวด้วยตรรกะแห่งตน
นั่นไม่ถูกนี่ไม่ถูก ประณามหยามเหยียดตามสันดานตน
ไม่ได้ตรึก ไม่ได้ตรอง ขอแค่สะใจ และว่าตามๆกัน
แสดงความเป็นคนดีและห่วงใยในภาพที่เห็น
แล้วกระหน่ำย่ำยี อีกฝ่ายที่กำลังกระทำ
มีผู้คนมากมายตกเป็นจำเลยของสังคม
เพราะสังคมมันป่วยยากจะเยียวยาหาความเป็นจริง
ขอให้ได้ด่า ได้ย่ำยีร่วมขบวนกันก่อน
ก่อนที่จะฟังการพิสูจน์เหตุพิสูจน์ผลว่าความจริงมันเป็นเช่นไร
กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ผู้ที่ตกเป็นจำเลยของอารมณ์อันเฮงซวย
เขาก็จมดินไร้ที่ยืนในสังคมไปเรียบร้อยแล้ว
หวัดดียามสาย
เสียงร้องแห่งความถูกต้อง
ต่อให้แหกปากตะโกนแค่ไหน
มันก็เป็นเสียงเงียบซ่อนหลืบอยู่ภายใน
ด้วยใจของผู้ฟังที่ล้นด้วยอคติ
คำถาม >>> น้อมกราบสาธุธรรมนมัสการยามเช้าเจ้าค่ะ
การเห็นผิด และยอมรับในสิ่งที่ตนตัดสินว่าผิด
แล้วไปกราบขออภัย ขอให้ยกโทษให้
ผลนั้นยังจะเป็นบาปอยู่ไหม เจ้าคะ พระอาจารย์
พระอาจารย์ตอบ <<< บาประหว่างใจในสิ่งนั้นๆได้สางออกไป
แต่เหตุของบาปที่เป็นผลไปแล้ว
ท่านเหล่านั้นต้องรับผลไปตามเหตุปัจจัย
มันมีสัญญาของมันอยู่
ทางใจจางคลาย
ทางวาจาจางคลาย
ทางกาย มีวิบากต้องเผชิญ แต่ไม่รุนแรง มันอยู่ที่เหตุปัจจัยของวิบาก
คำถาม >>>...