***** "อวดตัวว่าดีเพราะนั่งสมาธิและเดินจงกรม" *****
การทำสมาธินี่ ระดับเราก็ทำกันแค่ใจพอสงบๆกันก็พอ
ไม่ต้องคิดก้าวไกลอะไรเกินไปนัก มันจะฟุ้งซ่านไปเปล่าๆ
เราไม่ใช่นักบวช ที่จะเอาสมาธิมาเป็นเครื่องอยู่ของกำลังเพื่อให้เกิดการวินิจฉัยทางด้านปัญญา
ทำกันพอสบายๆกันก็พอ
ระดับเราแค่เข้าถึงปิตินี่ก็โอเคแล้ว
บางคนมาถามข้าว่า สุขทำอย่างไร เอกคตารมณ์ทำอย่างไร ฌานสามฌานสี่ทำอย่างไร
เรื่องเหล่านี้มันเป็นกำลังแห่งจิตของแต่ละคน มันไม่เท่ากัน
ไม่ใช่ว่าจะบอกๆกันแล้วใครจะทำได้ ไม่ใช่อย่างนั้น
ภาวะจิตนี่ มันเป็นเรื่องของใครของมัน
หากมีการกล่าวอ้างว่า คนนั้นคนนี้สอนให้เข้าฌานนั้นฌานนี้ได้นี่
อย่างนี้เป็นเรื่องโกหก สังคมเมืองนี่ ไปได้แค่มโน นอกจากนี้ก็มักโม้
คนไม่รู้มันก็ปรุงแต่งทึกทักกันไปว่าถึงขั้นนั่นขั้นนี่ มั่วๆกันไป
สมาธิทางจิตนี่ มันอาศัยความเคยชินที่กระทำเป็นประจำเป็นเหตุ
ไม่ใช่ว่า จู่เราจะเข้าถึงฌานนั้นฌานนี้อย่างที่เขาโม้ๆกัน
ข้านี่ทำสมาธิมาหลายสิบปี ทำมาตั้งแต่เด็ก
สมัยบวชเณรนี่ มันก็ได้อุคนิมิตแล้ว
หลับตาปุ๊บ นึกถึงพระ พระก็ลอยเด่นขึ้นมา
นึกถึงไฟ ไฟก็ลุกติดขึ้นมาในมโน
เพ่งองค์พระซ้อนองค์พระ...