*** "ผีบอก" ***
"ความรู้สึก..เมื่อมองผ่านความคิดออกไป มันเห็นอะไรมากมายในความรู้สึกนั้น
ยามรู้สึกดีๆ..เรารู้สึกไหมในความคิดเห็น
ยามรู้สึกแย่ๆ..เรารู้สึกไหมในความคิดเห็น
เรามักเป็นเจ้าของความรู้สึก จนลืมมองเห็นความรู้สึกที่เราเป็น
ความรู้สึกนี่ มันเกิดจากการปรุงแต่งจิตอาศัยผัสสะจากอายตนะ น่ะ
พอรู้สึก..ตัณหาก็จะเข้าไปปรุงแหละ
ตัณหาปรุง..อุปาทานก็เข้าไปเป็นเจ้าของแหละ
อุปาทานนี่..เป็นสัญญายึดในสิ่งที่ปรุงมาจากผัสสะ อาศัยตัณหาที่มาจากความรู้สึก
อุปาทานเกิด เหตุมันก็เกิด เหตุเกิด ผลมันก็เกิด.
ถ้าขาดสัมปชัญญะ มันก็จะขาดการตรึกตรอง เราก็จะไม่เห็นความรู้สึก
หากมีการตรึกตรอง เราก็จะเห็นความรู้สึกผ่านความคิด
เมื่อความรู้สึกมีความคิดผ่านด้วยสัมปชัญญะ เราจะมองเห็นความรู้สึกที่เราเป็น
เมื่อมองเห็นความรู้สึก ตัณหาที่เกิดก็จะไม่โดนครอบงำตามธรรมชาติ
เราก็จะเป็นผู้รู้จักตัณหา อันเป็นเหตุของอุปาทาน
เมื่อมองเห็น เราจะเลือกได้ว่าจะไปต่ออย่างไรกับหนทางชีวิตในการที่จะเดิน
นี่..มัชฌิมาปฏิปทา ที่ท่านทั้งหลายเรียนรู้มาเรียกว่าทางสายกลาง
..คำพูดเล็กๆน้อยๆจากนักบวชฮินดูที่เหลือแต่วิญญาน มาพร้อมกษัตริย์แห่งนครชัยปุระ
ศาสตร์แห่งคนโบราณที่ตกทอดลงมาถึงเรา ทำให้ข้ามองเห็นว่า
มนุษย์นั้นต่างมีปัญญามองเห็นความจริงได้ด้วยกันทั้งสิ้น
ความหมายแห่งการหลุดพ้นนั้น..คือมีปัญญาเข้าใจธรรมชาติในสิ่งที่เราเป็น
แต่นักบวชไทยเรา เอาตัวเข้าไปเป็นและแช่อยู่กับสิ่งที่เรียนที่รู้ที่จำปฏิบัติกันมา ด้วยการทำตัวว่างๆ
เข้าใจว่า ทำตัวว่างๆเป็นความดี...